Café Parisien ห้องอาหารฝรั่งเศสที่มาพร้อมกับบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ตั้งอยู่บนถนนวิทยุที่รายล้อมไปด้วยสถานฑูตนานาประเทศ โรงแรมชั้นนำ รวมไปถึงความร่มรื่นเขียวฉอุ่มของหมู่มวลไม้ที่เรียงรายอยู่ตลอดแนวถนน พร้อมแล้วที่จะเสิร์ฟเมนูอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับแบบฉบับชาวปารีสในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารสินธรภายในโครงการ Glasshouse @ Sindhorn ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหารชั้นนำ 4 ร้าน บาร์ซิการ์ 1 ร้าน และร้านกาแฟยอดนิยมอีกหนึ่งร้าน ด้วยรูปแบบสถาปัตกรรมที่นำสมัยและโดดเด่นของอาคารเรือนกระจกรูปทรงคริสตัล 4 อาคาร ที่เรียงรายไปตามแนวถนนและร่มไม้ใหญ่ จึงทำให้ Glasshouse @ Sindhorn กลายเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพของนักชิมทั้งไทยและเทศ ที่มองหาร้านอาหารชั้นยอดในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายและเดินทางมาได้สะดวก
Café Parisien ได้จำลองเอารูปแบบของ Café สไตล์ฝรั่งเศสในมหานคร Paris อันสะท้อนถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของชาว Parisien ซึ่งมาพร้อมกับความหรูหราแต่เรียบง่ายและแสนผ่อนคลาย ซึ่งท่านจะสามารถสัมผัสได้นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่บริเวณร้าน ด้วยการตกแต่งที่เน้นความโล่งโปร่งสบายด้วยเพดานสูง 2 ชั้นและกระจกใสบานใหญ่ที่เปิดให้เห็นถนนด้านหน้าที่โอบล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีอายุยืนยาวผ่านกาลเวลามาคู่กัน พื้นปูด้วยไม้สีนำตาลครีมตัดกับบานผนังหินอ่อนสีขาว จัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้สไตล์วินเทจสีเบสอ่อนเบา สลับกับโต๊ะไม้สีคาราเมลที่ทำจากแผ่นไม้ชิ้นใหญ่ทั้งชิ้นพร้อมเก้าอี้เข้าชุดกัน บนโต๊ะจัดวางชุดเครื่องใช้ชั้นดีครบครันไว้อย่างหรูหราคลาสสิค บนเพดานประดับโคมไฟสีขาวที่ทำจากไม้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและโรแมนติคยิ่งขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว
บริเวณชั้นล่างมีห้องครัวที่กั้นด้วยกระจกใสเพื่อเปิดให้แขกสามารถเพลิดเพลินไปกับการสังเกตขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟได้ ส่วนชั้นบนมีขนาดกำลังพอดีสำหรับจัด Private Dining โดยสามารถรองรับแขกได้ไม่เกิน 18 ท่าน พิเศษยิ่งขึ้นด้วย mini kitchen ที่สามารถจัดเป็น Chef’s Table เพื่อให้เชฟปรุงอาหารให้แขกได้รับชมกันอย่างใกล้ชิดหรือจัด cooking class ได้อีกด้วย
อาหารของ Café Parisien ได้พ่อครัวชาวฝรั่งเศสอย่างเชฟ Olivier Castella มาเป็นผู้ดูแล เชฟ Olivier นั้นมีประสบการณ์การทำอาหารฝรั่งเศสในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ในฐานะ private chef ที่คนทั่วไปจะมีโอกาสน้อยมากในการได้ลิ้มลองฝีมือของเขา ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสที่แพรวพราวและมุ่งนำเสนออาหารชั้นยอดจากวัตถุดิบชั้นเลิศ เป็นที่แน่นอนว่าอาหารฝีมือเชฟ Olivier ต้องเป็นที่ประทับใจของทุกท่านที่แวะเวียนมารับประทานอาหาร ณ Café Parisien แห่งนี้
วันนี้ Great Gastro: Ultimate Dining Experience จะขอนำท่านไปสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารฝรั่งเศสเลิศรสโดยเชฟ Olivier Castella ณ Café Parisien กับช่วงเวลาพิเศษที่ทำให้เราสัมผัสได้ว่า อาหารฝรั่งเศสนั้นเข้าถึงได้ง่ายและสบายกว่าที่เราคิด
ขนมปัง baguette พร้อมกับเนยสดเนื้อเนียนนุ่มเสิร์ฟมาเป็นอันดับแรกให้ลูกค้าได้ทานรองท้องก่อนที่อาหารมื้อหลักจะมาถึง
Appetizer
Spanish Octopus & Organic Mixed Salad Jimenez Vinaigrette
อาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกเป็นสลัดสไตล์พื้นเมืองของฝรั่งเศส ส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อปลาหมึกยักษ์นำเข้าจากประเทศสเปน ปรุงมาจนสุกกำลังดีมีกลิ่นหอมของเนื้อปลาหมึกเกรียมไฟที่เป็นเอกลักษณ์ ให้เนื้อสัมผัสที่เหนียวหนึบแต่นุ่มนวล คลุกเคล้าเข้ากับผักสดกรอบหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะกอก มะเขือเทศ มันฝรั่งอบชิ้นเล็กๆ และ เบคอนอบกรอบเพื่อเพิ่มมิติให้กับรสสัมผัสอันหลากหลายของจานนี้ ก่อนจะราดด้วยเดรซซิ่ง Jimenez vinaigrette ที่มีส่วนผสมของไวน์ขาว ช่วยทำให้สลัดจานนี้มีรสชาติโดดเด่นยิ่งขึ้น เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยสไตล์ฝรั่งเศสชั้นดี ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยรสชาติอันจัดจ้าน
Pan Seared Foie Gras, Organic Rocket & Raspberry Balsamic Reduction
ตามมาด้วยจานเรียกน้ำย่อยที่เชฟภูมิใจนำเสนออย่าง Pan Seared Foie Gras ซึ่งเลือกใช้ฟัวกราส์ชิ้นหนาใหญ่เป็นพิเศษ มีรสสัมผัสที่นุ่มนวล ละลายในปาก ให้รสชาติที่นุ่มลึกและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยรสหวานอมเปรี้ยวของลูกแพร์ที่เสิร์ฟมาคู่กัน ภายในจานยังประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยซอสราสเบอร์รี่พร้อมทั้งผักออร์แกนิคใบเขียว ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เป็นเมนูฟัวกราส์แบบฝรั่งเศสที่ทำได้ดี รสชาติเข้มข้นชัดเจน รับรองว่าต้องเป็นที่ถูกปากของท่านนักชิมชาวไทย
French Traditional
Slow Cooked Pork Belly, Ratte Potatoes & Pommary Mustard
เชฟ Olivier Castella ได้นำสูตรอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับเมนูนี้มาให้เราได้ลิ้มลองกัน โดดเด่นด้วยเนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถันทำให้เนื้อมีความนุ่มละมุนลิ้นตัดกับความกรอบของแผ่นหนังบางเบาที่วางเอาไว้ด้านบน รับประทานพร้อมกันจะได้รสสัมผัสที่ผสมผสานความนุ่มและกรอบไว้ได้ในคำเดียว เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งบดเนื้อนุ่มละมุนลิ้นที่ทำมาจาก Ratte potato กลิ่นหอมถั่วคั่วและมีส่วนผสมของแอปเปิ้ลมัสตาร์ดที่ช่วยเสริมสัมผัสหยาบๆและกลิ่นเฉพาะตัวลงไป ปิดท้ายด้วยเบบี้แครอทและหอมแดงเสริมมิติและเพิ่มความสวยงามให้กับอาหารจานนี้ได้เป็นอย่างดี
Main Course
Slow-Cooked Beef Short Rib 24 Hrs, Sarladaise Potato & Braised Endive, Shallot Red Wine Sauce
เนื้อติดซี่โครงชิ้นใหญ่ ปรุงแบบ Slow Cook ด้วยไฟอ่อนเป็นเวลาถึง 24 ชั่วโมง จนเนื้อสุกหอมนุ่มละมุนลิ้น ตัวเนื้อชุ่มฉ่ำด้วยชั้นของไขมันที่แทรกอยู่เป็นชั้นบางๆอย่างสวยงาม ราดด้วย Shallot Red Wine Sauce ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทานเป็นพิเศษ เสิร์ฟโดยวางเนื้อที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ เรียงกันเอาไว้ข้างๆกระดูกซี่โครงชิ้นใหญ่ และตกแต่งด้วย Sarladaise Potato ที่มีเนื้อหวานฉ่ำ และ Braised Endive ที่มีรสขมเล็กน้อย รับประทานเคียงกันจะได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวเข้ากันได้กับเนื้อสเต็กเป็นอย่างดี
Plancha of Wild Dover Sole, Buttered Potato & Baby Spinach Meunière Sauce
สำหรับท่านที่ไม่รับประทานเนื้อ เชฟแนะนำเมนูปลาที่ปรุงแบบฝรั่งเศสต้นตำรับมาให้ลิ้มลองกัน เมนูแนะนำนี้ใช้ปลา Dover Sole จากทะเลลึกในมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งเป็นปลาที่เติบโตตามธรรมชาติ นำมาปรุงแบบพื้นบ้านง่ายๆด้วยการย่างกับเนย ซึ่งช่วยเพิ่มกลิ่นหอม และความชุ่มชื่นให้กับเนื้อปลา ทำให้ได้จานปลาที่มีรสชาติอ่อนๆกับกลิ่นหอมพิเศษจากเนื้อปลาทะเลน้ำลึก บีบมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติเล็กน้อย หรือจะเลือกทานคู่กับ Meunière Sauce ที่ทำจากเนยขาว ไวน์ขาวและมะนาวก็มีรสดีได้ไม่แพ้กัน
Dessert
Baked Hazelnut Soufflé with Homemade Vanilla Ice Cream
มาถึงเมนูของหวาน เริ่มกันด้วยเมนูต้นตำรับขึ้นชื่อจากฝรั่งเศสอย่าง Hazelnut Soufflé ที่ทำจากเฮเซลนัทพลาลีน โดยนำไปอบที่อุณภูมิ 260 องศาเป็นเวลานาน 20 นาทีจนเนื้อแป้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองและขยายตัวฟูขึ้นมา ให้รสสัมผัสบางเบาเหมือนปุยเมฆกับรสชาติหวานน้อยๆกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาและเบอร์รี่สด ก่อนจะโรยด้วยผงน้ำตาลไอซิ่งไว้ด้านบนเพื่อความสวยงาม
Flambéed Crêpe Suzette with Grand Marnier Liquor
ปิดท้ายอาหารฝรั่งเศสมื้อพิเศษกันด้วยเมนูยอดนิยมอย่าง Flambéed Crêpe Suzette สูตรต้นตำรับจากฝรั่งเศส เนื้อแป้งเครปแผ่นบางมีความเหนียวนุ่มนวลเสมอกันทั่วทั้งแผ่น เข้ากันเป็นอย่างดีกับซอสสูตรพิเศษที่ทำจากผิวส้มและ Grand Marnier Liquor ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวและไม่ขม เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดและผลเบอร์รี่สด ปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างน่าประทับใจ
ไม่ใช่เพียงแต่รสชาติอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับที่ถูกปรับให้เข้าปากคนไทย และ ราคาที่คุ้มค่าเท่านั้นที่ทำให้ Café Parisien มีความโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางร้านอาหารฝรั่งเศสที่เปิดให้บริการอยู่มากมายในกรุงเทพ แต่ยังรวมถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นกันเอง ที่ได้เปลี่ยนภาพร้านอาหารฝรั่งเศสที่ดูหรูหราและเข้าถึงได้ยาก มาเป็นร้านอาหารในบรรยากาศสบายๆสามารถแวะเวียนไปรับประทานได้ทุกวัน Great Gastro ขอเชิญท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารฝรั่งเศสในรูปแบบที่แตกต่าง ณ Café Parisien ใจกลางถนนวิทยุแห่งนี้ รับรองว่าที่แห่งนี้จะทำให้ท่านตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายเป็นแน่
นอกจากนี้ Café Parisien ยังนำเสนอชุดอาหารกลางวันสุดคุ้ม ที่ท่านสามารถเลือกรายการ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลักและของหวาน จากเมนูที่ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุกอาทิตย์ ในราคาเพียงแค่ 690++ บาท เท่านั้น ชุดอาหารกลางวันสุดพิเศษนี้มีให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:30 – 14:00 น.
Café Parisien
Glasshouse @ Sindhorn
Lunch from 11:30 – 14:00 hrs.
Dinner from 18:00 – 22:00 hrs.
3-course set lunch starting from THB 690 per person.