การดำรงไว้ซึ่งคุณค่าและเอกลักษณ์ของศิลปะการปรุงอาหารไทย คือเป้าหมายสูงสุดของเชฟ รสสริน ศรีประทุม แห่งห้องอาหาร Celadon ห้องอาหารไทยสไตล์ authentic อันเลื่องชื่อของโรงแรม The Sukhothai Bangkok หนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของผู้ที่เสาะแสวงหารสชาติต้นตำรับในแบบไทย

Celadon Tasting Menu

เรามักจะได้รับทราบถึงความพิเศษของห้องอาหาร Celadon ในด้านของเมนูอาหาร ที่มักนำเสนอสูตรอาหารไทยแบบโบราณอันละเมียดละไมสไตล์ชาววังแท้ๆ อีกทั้งหาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน  ด้วยฝีมือปลายจวักและเทคนิคการปรุงแบบโบราณของเชฟ รสสริน ประกอบกับการศึกษาค้นคว้าและมุ่งเสาะหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยมาใช้ในการปรุง

Celadon Tasting Menu

ในวันนี้เชฟ รสสริน จะทำให้ท่านประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการยกระดับอาหารไทยพื้นบ้านสู่ประสบการณ์อันหรูหรา กับ Tasting Menu ที่เสิร์ฟเป็น course ในแบบธรรมเนียมตะวันตก แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารไทยท้องถิ่นอันสะท้อนภาพของรูปแบบการดำเนินชีวิตในชนบทของไทยเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การสัมผัสด้วยตัวท่านเอง และ สามารถนำไปอวดชาวต่างชาติได้ไม่แพ้ที่ไหน

Celadon Tasting Menu

เมนู Thai Tasting Menu โดยเชฟ รสสริน นั้นมีให้บริการทุกวัน ในช่วงมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารไทย Celadon มีสองรูปแบบให้ท่านได้เลือกสัมผัส คือ Full Experience กับอาหารไทยพื้นบ้าน 12 เมนู ในราคาท่านละ 3,600++ บาท และ Part of the Trail ที่ประกอบด้วยเมนูหลัก 9 เมนู ในราคาท่านละ 2,400++ บาท ท่านยังสามารถเลือกเติมเต็มประสบการณ์สุดพิเศษนี้ด้วยแพคเกจ Wine Pairing ในราคาท่านละ 1,500++ บาท อีกด้วย

Celadon Tasting Menu

Tasting Menu ในแบบของยอดฝีมืออาหารไทยโบราณอย่างเชฟ รสสริน เป็นงานชิ้นเอกที่เชฟตั้งใจรังสรรค์ขึ้น เธอได้ใส่ภาพแห่งความทรงจำในวัยเยาว์เข้าไปเสริมเสน่ห์ให้กับทุกๆเมนู อาหารแต่ละจานจึงทำหน้าที่เสมือนเครื่องย้อนเวลาที่จะพาท่านหวนกลับไปสัมผัสวิถีชีวิตชนบทของไทยในอดีตอันแสนงดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญา เริ่มต้นกันด้วย

Celadon Tasting Menu

ผลไม้ตามฤดูกาล

The Creation of Fruit in Season

เมนูแรกเสิร์ฟมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ด้วยชื่อของเมนูที่ชวนให้นึกถึงจานใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผลไม้หั่นมาพอดีคำเสิร์ฟหลังมื้ออาหารตามร้านทั่วๆไป แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับกลายเป็นเมนูที่ปรุงขึ้นเป็นพิเศษอย่างพิถีพิถัน โดยใช้ผลไม้เป็นวัตถุดิบหลัก เมนูนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามฤดูกาล ขึ้นอยู่กับว่าช่วงจังหวะเวลาไหนผลไม้ประเภทใดออกผลผลิตดี ในช่วงนี้ ผลไม้ที่เชฟเลือกใช้คือมังคุด ด้วยรสชาติที่หวานจัดอยู่ในตัว เชฟจึงนำเอามายำกับน้ำยำรสเปรี้ยวที่ใส่เครื่องเทศไทยอย่างหอมแดงและพริกลงไป กลายเป็นยำมังคุดเนื้อนุ่มที่มีรสเปรี้ยวและหวานจัดจ้าน เสิร์ฟมาในผลมังคุดที่ปิดฝาด้านบนเอาไว้อย่างแนบเนียน เป็นความประทับใจแรกที่สัมผัสได้ง่ายไม่ซับซ้อน กับคอร์สเรียกน้ำย่อยที่ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี

Celadon Tasting Menu

ขนมครก

Rice Berry Coconut Pudding topped with Blue Crab Meat

คอร์สที่สองเชฟนำเสนอเมนูขนมครก เมนูนี้ได้รับแรงบรรดาลใจจากเมื่อครั้งเชฟยังเด็ก ที่มักจะได้รับประทานขนมครกเป็นอาหารว่างหลังเลิกเรียนก่อนที่จะรับประทานอาหารค่ำเมื่อคนในครอบครัวกลับมาพร้อมหน้ากัน เช่นเดียวกันกับ Tasting Menu สำหรับมื้อค่ำชุดนี้ เชฟนำขนมครกมาให้เรารับประทานเป็นของว่างก่อนเข้าสู่จานหลักเช่นกัน ขนมครกของเชฟรสสริน เป็นเมนูที่ดัดแปลงรสชาติให้มีรสเป็นอาหารคาวมากขึ้น ตัวแป้งทำจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่บดละเอียดจนได้แป้งเนื้อนุ่มสีนิลมีรสหวานตามธรรมชาติของข้าวไรซ์เบอร์รี่อยู่เล็กน้อย ด้านบนโรยหน้าด้วยเนื้อปูผัดกับขมิ้น น้ำกะทิและเครื่องแกงผงกะหรี่รสเค็มมัน เสิร์ฟมาเป็นชิ้นพอดีคำ โดยวางมาบนเตาอุ่นทองเหลืองที่มีเนื้อมะพร้าวขูดฝอยใส่ไว้ตรงกลาง ตัวเนื้อมะพร้าวที่ได้ความร้อนจะส่งกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงบรรยากาศของชนบทยามเย็น ที่ชาวบ้านมักจะจุดกองไฟจากกากมะพร้าวสำหรับประกอบอาหาร ส่งกลิ่นอบอวนไปทั่วบริเวณ

Celadon

แหนมข้าวหอมมะลิทอด

Deep-fried Marinated Jasmine Rice and Preserved Pork
served with Fresh Young Ginger

คอร์สถัดมาเป็นเมนูอาหารที่สะท้อนวิถีชนบททางภาคอีสาน และภูมิปัญญาไทยในการถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานขึ้น กับแหนมข้าวทอดที่ถูกแต่งตัวใหม่ด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งที่ดีที่สุด เชฟสั่งข้าวเหนียวจากจังหวัดสุรินทร์มาใช้สำหรับเมนูนี้โดยเฉพาะ ผสมข้าวกับเนื้อหมู ขิง กระเทียม แล้วใช้ฟรอยห่อทิ้งไว้ข้ามวัน จนได้แหนมทำเองที่มีรสออกเปรี้ยวอ่อนๆ ก่อนเสิร์ฟนำลงไปทอดกับน้ำมันร้อนๆให้ผิวด้านนอกเหลืองกรอบ ก่อนวางลงบนใบชะพลูและน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้านแบบอีสานแท้ๆ เป็นแหนมทอดที่ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน เนื้อสัมผัสนุ่มชุ่มฉ่ำละมุนลิ้น ด้วยส่วนผสมชั้นดีและการหมักที่ใช้เวลาไม่นานนัก

Celadon Tasting Menu

ยําตะลิงปลิงปูยักษ์

Alaskan King Crab, Bilimbi Fruit, Coconut and Shrimp Paste Dressing

อีกหนึ่งเมนูโปรดในวัยเด็กของเชฟรสสริน กับยำตะลิงปลิง อาหารพื้นบ้านทางใต้ที่นำเอาลูกตะลิงปลิงซึ่งมีน้ำรสเปรี้ยวจัดมาคลุกเคล้ากับสมุนไพรต่างๆ รับประทานเป็นอาหารว่างบ้าง ใช้เรียกน้ำย่อยบ้าง มักเป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาววัยแรกรุ่นในชนบท เมนูยำแบบชาวบ้าน ถูกยกเครื่องใหม่ ด้วยการใส่เนื้อก้ามปูยักษ์อลาสก้าลงไป ตัวเนื้อปูนั้น นอกจากจะเพิ่มรสสัมผัสที่นุ่มนวลแปลกใหม่ให้กับเมนูยำ ยังทำให้มีรสออกครีมมี่เล็กน้อยคล้ายกับผสมน้ำกะทิลงไปในน้ำยำอีกด้วย ตัวยำยังถูกเสิร์ฟมาในเปลือกก้ามปูอลาสก้าประดับดอกไม้ดอกเล็กๆอย่างสวยงาม พร้อมผลตะลิงปลิงผ่าครึ่งซีกวางไว้ด้านบนสำหรับรับประทานคู่กัน เป็นเมนูยำรสจัดจ้านแบบไทยที่ผสานเข้ากับวัตถุดิบระดับโลกอย่างเนื้อปูยักษ์อลาสก้าได้อย่างสมบูรณ์แบบลงตัว

Celadon Tasting Menu

ต้มยําทะเลหัวกะทิ

Spicy Seafood in Lemongrass Broth and Coconut Sea Shell

มื้ออาหารไทยต้องไม่ขาดเมนูต้มยำ คอร์สถัดมานี้เชฟรสสรินภูมิใจเสนอต้มยำทะเล ที่เสิร์ฟในสไตล์โมเดิร์นอย่างเมนูซุปทางตะวันตก ด้วยเทคนิคที่ได้รับมาจากประสบการณ์การเข้าครัวร่วมกับเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่แวะเวียนมาเยือนโรงแรมสุโขทัยอยู่บ่อยครั้ง ตัวเครื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ทะเลทั้ง กุ้ง หอย ปลา ปลาหมึก ชิ้นใหญ่พิเศษ พร้อมพริกและเครื่องสมุนไพรต่างๆถูกแยกเตรียมใส่มาไว้ในชามใบใหญ่ ตัวน้ำซุปต้มยำใส่มาในกา ตอนเสิร์ฟพนักงานจะนำมาเทน้ำยำร้อนๆลงไปบนเปลือกหอยแครงที่วางอยู่ในชาม เปลือกหอยแครงชิ้นนั้นจะค่อยๆละลายหายไปผสมเข้ากับน้ำยำ เพราะแท้จริงแล้วเปลือกหอยแครงชิ้นนั้นไม่ใช่เปลือกหอยแต่เป็นน้ำหัวกะทิเข้มข้นที่ถูกทำให้มีรูปลักษณ์เหมือนหอยแครง เป็นเทคนิคการเสิร์ฟอาหารแบบ Molecular Gastronomy ที่เชฟรสสรินเลือกนำมาเสริมเสน่ห์ให้กับเมนูอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างต้มยำทะเล

Celadon

ขนมจีนน้ําพริก

Fermented Rice Noodle topped with Sweet Chili and Golden Bean Curry Sauce

อีกหนึ่งเมนูพื้นบ้านของไทยภาคกลาง อย่างขนมจีนน้ำพริก ที่หารับประทานได้ไม่ง่ายนักในกรุงเทพ ตัวเส้นขนมจีนเป็นเส้นสดที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มนวลบางเบา ตัวผักนำไปชุปแป้งทอดก่อนจัดวางลงไป ตัวน้ำยากะทิเชฟทำเองทั้งหมดตั้งแต่การนำเอาถั่วเหลืองทองมาคั่วให้หอมก่อนจะตำรวมกันกับ หอมแดง รากผักชี น้ำกะทิ ได้เป็นน้ำแกงข้นๆรสออกหวานเผ็ดเล็กน้อย ตอนเสิร์ฟเมื่อราดน้ำยาลงไปบนตัวเส้นแล้วโรยทับด้วยหอมทอดและพริกแห้ง เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบ เป็นเมนูที่เชฟได้แสดงฝีมือการทำน้ำแกงกะทิอันเรื่องชื่อ มาให้เราได้รับประทานกันอีกครั้ง ในรูปแบบของขนมจีนน้ำพริก

Celadon

ถัดมาเป็นส่วนของ Main Course ที่เชฟเลือกเสิร์ฟในแบบสำรับไทย โดยนำอาหารหลายจานออกเสิร์ฟพร้อมกัน ให้รับประทานคู่กับข้าวหอมมะลิที่เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมพิเศษให้กับตัวข้าวยิ่งขึ้นไปอีก

น้ําพริกปลาทูมะละกอต้มกะทิ

Thai Sardine served with “Khlong khon” Shrimp Paste Dipping Sauce
and Braised Green Papaya in Coconut Milk

สำรับไทยเมนูแรก เป็นน้ำพริกปลาทูรสเด็ดที่ล้วนใช้วัตถุดิบไทยชั้นยอดอย่างกะปิคลองโคนมาเป็นวัตถุดิบหลักในการตำน้ำพริก รสเค็มเผ็ดจัดจ้าน ราดลงบนมะละกอดิบที่ต้มกับน้ำกะทิหอมเข้าเนื้อ ตัวมะละกอมีสัมผัสคล้ายมันฝรั่งอบเนื้อแน่นๆ ปิดท้ายด้วยปลาทูแม่กลอง ปลาทูที่ขึ้นชื่อว่ามีรสชาติดีที่สุดในประเทศไทย ปกติแล้วเราจะเห็นหน้างอคอหัก แต่เพื่อให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้นเชฟจึงเลือกตัดเอาส่วนหัวออก เหลือแต่ส่วนของเนื้อปลาที่เลาะเอาก้างตรงกลางออกไป รับประทานกับข้าวหอมมะลิ เป็นเมนูครบรสที่ชูจุดเด่นของวัตถุดิบไทยชั้นดี ที่ไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก

Celadon

หมูฮ้องไข่เน่า

Southern Style Braised Pork Belly, Rotten Egg of Liquid Five Spices

จานหลักอีกเมนูเป็นหมูฮ้อง เมนูขึ้นชื่อของภูเก็ต กับเนื้อหมูสามชั้นต้มซีอิ้วที่คล้ายพะโล้แต่น้ำซอสรสหวานเข้มข้นและเข้าเนื้อกว่า เมนูนี้เชฟนำเสนอในรูปแบบที่แปลกออกไป ด้วยเทคนิคสมัยใหม่ที่ซับซ้อนและทำยากมากที่สุดเมนูหนึ่ง เชฟต้องนำไข่มาต้มให้เนื้อไข่ขาวพอสุก นำไปแช่ในน้ำส้มสายชูให้เปลือกไข่เปื่อยและค่อยๆลอกออกมา จากนั้นต้องใช้เข็มฉีดยาเจาะเข้าไปดูดเอาน้ำไข่แดงออมาให้หมด ต่อด้วยการฉีดน้ำแร่เข้าไปล้างในโพลงไข่แดงให้เหลือส่วนของไข่แดงอยู่น้อยที่สุด แล้วจึงเอาน้ำซอสของหมูฮ้องฉีดกลับเข้าไปแทนที่ นำไปแช่เย็นไว้ตอนจะเสิร์ฟต้องเอาไข่ใส่เครื่องสตรีมเพื่ออุ่นให้น้ำซอสด้านในร้อนอีกครั้ง จากนั้นนำไข่ใส่ลงไปในถ้วยคู่กับเนื้อหมูฮ้อง เวลาทานต้องใช้มีดเจาะไข่ให้แตกให้น้ำซอสหมูฮ้อง สีน้ำตาลเข้มด้านในไหลออกมา และด้วยสีของน้ำซอสที่เป็นสีน้ำตาลเข้มนี้เอง เชฟรสสรินจึงเรียกเมนูนี้ใหม่ว่า “หมูฮ้องไข่เน่า” ที่เกิดจากการนำเอาอาหารไทยท้องถิ่นมาเสิร์ฟด้วยเทคนิคการนำเสนออาหารระดับมิชลินสตาร์อันเป็นการเพิ่มคุณค่าในรูปแบบของศาสตร์การทำอาหารไทยร่วมสมัย

Celadon Tasting Menu

หลามเห็ดโคนนอก

Baked Hidden Treasure Mushrooms
with Fresh Thai Aromatic Herbs

อีกจานในชุดสำรับไทยนี้ เป็นจานผัก เชฟได้รับแรงบรรดาลใจมาจากเมนูพื้นบ้านภาคอีสานอย่าง หลามปลา นำมาดัดแปลงโดยใช้เป็นเห็ดป่าแทน โดยเชฟเลือกใช้เห็ดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เห็ดชิมิจิจากญี่ปุ่น เห็ดนางฟ้าภูฐาน นำมาคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศหลากชนิด รวมทั้งผักคะแยง ผักพื้นบ้านที่มีกลิ่นหอมพิเศษเฉพาะตัว จากนั้นนำไปอบในกระบอกไม้ไผ่จนสุก ได้เป็นหลามเห็ดที่มีรสออกเค็มเล็กน้อย ได้กลิ่นหอมชัดเจนจากเห็ดหลากชนิด เสน่ห์ของอาหารจานนี้อยู่ที่การนำเอาวัตถุดิบจากต่างชาติ มาปรุงด้วยเทคนิคการทำอาหารพื้นบ้านแบบไทย กลายเป็นอาหารที่สามารถเสิร์ฟให้ทุกคนรับประทานร่วมกันได้

Celadon Tasting Menu

แกงจาวตาลปลาหิมะ

Southern Style Yellow Curry with Snow Fish and Toddy Palm

อาหารจานสุดท้ายในชุดสำรับไทย เป็นเมนูที่เชฟนำเอาวัตถุดิบที่โปรดปราณในวัยเด็กอย่างจาวตาลมาปรุงเป็นอาหารจานพิเศษคู่กับเนื้อปลาหิมะชั้นดี เชฟรสสรินได้ดัดแปลงเมนูแกงเหลือง อาหารพื้นบ้านรสจัดจ้านของภาคใต้ มาปรับให้มีรสนุ่มนวลรับประทานได้ง่ายขึ้นด้วยการใส่วัตถุดิบรสอ่อนๆอย่าง จาวตาล และ เนื้อปลาหิมะ ลงไปแทน เมื่อรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็จะได้รสที่ไม่รุนแรงจนเกินไป ชาวต่างชาติรับประทานได้

Celadon Tasting Menu

ขนมถังทอง ไอศกรีมกะทิ

Traditional Rice Cake topped with Young Coconut Meat,
White and Black Sesame and Homemade Coconut Ice Cream

มาถึงเมนูขนมหวาน เชฟนำเสนอเมนูขนมพื้นบ้านอย่าง ขนมถังแตก ที่เรามักจะพบเจอได้ตามงานวัดทั่วไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เชฟได้รับแรงบรรดาลใจมาจากภาพความทรงจำเมื่อครั้งได้ไปเที่ยวงานวัด แต่เชฟนำมาทำใหม่โดยไปเรียนรู้สูตรการทำมาจากร้านเด็ดขึ้นชื่อย่านสะพานใหม่ ไม่ใช้กลิ่นนมแมวซึ่งมีกลิ่นฉุนจนบางท่านอาจจะไม่ชอบ ส่วนมะพร้าวก็ปรับมาใช้มะพร้าวอ่อนแทนมะพร้าวทึนทึกซึ่งเนื้อค่อนข้างหยาบและเคี้ยวยาก ด้านหน้าของขนมก็ใช้ฝอยทองโรยลงไป ก่อนจะปิดท้ายด้วยไอศครีมมะพร้าวโฮมเมดของ Celadon จนได้เป็นขนมใหม่ในชื่อว่า ขนมถังทอง ที่มีรสหวานอ่อนๆ เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน พร้อมกลิ่นมะพร้าวอ่อนหอมกรุ่น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เชฟรสสรินนำกลับมาปรับให้เข้ากับยุคสมัย และทำให้ถูกปากผู้ทานทั่วไปได้มากยิ่งขึ้น

Celadon Tasting Menu

เกสรลําเจียก

Candied Coconut wrapped with Roasted Pancake

สุดท้ายเป็นขนมหวานชิ้นเล็กๆพอดีคำ เมนูหาทานยากอย่าง เกสรลำเจียก อีกหนึ่งเมนูโปรดของเชฟที่ในปัจจุบันหาทานได้ยากแล้วเนื่องจากกรรมวิธีในการทำค่อนข้างซับซ้อน ตัวไส้ต้องใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนมาเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวจนงวดได้ไส้มะพร้าวรสหวานหอม จากนั้นนำไส้ไปปั้นเป็นก้อนยาวๆนำไปวางบนแผ่นแป้งที่ทำขึ้นจากการสลัดเอาผงแป้งลงบนกะทะ ให้แข็งจับเป็นแผ่น ก่อนจะม้วนแผ่นแป้งขึ้นมาเป็นหลอดยาวๆพอดีคำ

Celadon Tasting Menu

ปิดท้ายเชฟรสสรินยังนำเอาทองม้วนที่พันเป็นกรวยมาให้รับประทานเป็นขนมว่าง ในขณะที่นั่งสนทนาพูดคุยกันหลังมื้ออาหารอีกด้วย

Celadon Tasting Menu

Tasting Menu โดยเชฟ รสสริน ศรีประทุม แห่งห้องอาหาร Celadon เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติ และ น่าภาคภูมิใจสำหรับชาวไทย เพราะน้อยครั้งนักที่เราจะได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติอาหารไทย อันเกิดจากภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดส่งต่อมาผ่านวิถีชีวิตชนบทของไทย ในร้านอาหารชั้นยอดที่เลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพสูงเช่นนี้ ท่านสามารถสัมผัสและลิ้มลอง Thai Testing Menu ด้วยตัวท่านเอง ทุกมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารไทย Celadon โรงแรม The Sukhothai Bangkok

Celadon tasting Menu0


Thai Tasting Menu

Celadon @ The Sukhothai Bangkok,

Daily from 18:30 – 23:00 hrs.

Classical Thai Dancing Performance at 20:00 hrs. and 21:00 hrs.

Full Experience (12 dishes) at THB 3,600++ per person

Part of The Trail (9 dishes) at THB 2,400++ per person

Wine Pairing package additional THB 1,500++ per person for 5 glasses of wines (5 selected)

MENU

To make a reservation, please call 02 344 8888

More information or reservation

Contact dining concierge LINE@ : @greatgastro

Reserve Table

MAP