มีร้านอาหารไทยไม่น้อยเลยในกรุงเทพ ที่เสิร์ฟอาหารสูตรชาววังให้แก่เหล่านักชิมทั้งหลาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลาย ๆ ร้านใช้ความเป็นอาหารในวัง มาเพื่อเพียงดึงดูดความสนใจของนักเที่ยวหรือคนไทยด้วยกันเองเท่านั้น แต่ที่ห้องอาหาร จักรพงษ์ไดนิ่ง (Chakrabongse Dining) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวังจักรพงษ์ ที่ปัจจุบันเปิดเป็นโรงแรมบูทิคด้วยนั้น ได้นำสูตรอาหารต้นตำรับชาววังอย่างแท้จริงจากห้องเครื่องของวังจักรพงษ์ มาปรุงเป็นอาหารไทยรสดั้งเดิมให้ทุกท่านได้ลิ้มลองกัน
เดินเลยผ่านสวนสวยเขียวขจีของวังจักรพงษ์เข้ามา ท่านจะพบกับศาลาไทยริมน้ำเจ้าพระยาตั้งโดดเด่นเป็นสง่า ตัวร้านตกแต่งด้วยไม้เป็นหลักทั้งพื้นและเพดาน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง บริเวณโดยรอบได้ติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดปิดได้ตามโอกาส ซึ่งท่านยังสามารถเลือกที่จะนั่งด้านในห้องอาหาร หรือด้านนอกบริเวณระเบียงริมน้ำก็ได้ ตัวร้านมาพร้อมกับวิวริมแม่น้ำอันงดงาม รวมไปถึงทัวทัศน์จากสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกรุงเทพอย่างวัดอรุณและวัดกัลยาณมิตรอีกด้วย ที่นั่งนั้นจะถูกจัดแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับจำนวนและคำขอของแขก
ห้องอาหารจักรพงษ์ไดนิ่งได้ เชฟวรวัฒน์ ทองหล่อ หรือเชฟวัฒน์ มาเป็นผู้ควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมด เชฟวัฒน์เน้นการใช้วัตถุดิบหลักจากตลาดท้องถิ่น แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารไทยคลาสสิคโดยใช้สูตรจากสังจักรพงษ์และประสบการณ์การทำอาหารที่เขาสั่งสมมาอย่างยาวนาน เมนูของที่นี่จะถูกจัดไว้แล้วในแต่ละกัน อย่างไรก็ตามแขกของทางร้านก็สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ หากต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในบางเมนู
Time-Honored Recipes from the Royal Court
เริ่มรสชาติอาหารไทยต้นรับชาววังด้วยของว่าง 3 อย่าง ที่เสิร์ฟมาอย่างประณีตในกระบอกไม้ไผ่ผ่าครึ่ง ด้านในประกอบไปด้วย ไก่ห่อใบเตย หอมนุ่มไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟมากับซีอิ๊วหวาน ตามด้วยสาคูเจ ด้านในเป็นไส้ผักกาดหัวและถั่ว และสะเต๊ะกุ้งรสเด็ด ที่เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มถั่วรสเข้มข้นและอาจาด แต่ละเมนูถูกนำเสนออย่างสวยงาม และมีรสชาติที่ยากจะลืมเลือน
ถัดมาเป็นเมนูเก่าแก่ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง ยำส้มโอ รสชาติเปรี้ยวนำ และตามด้วยความหวาน มัน เค็มและเผ็ด เนื้อส้มโอถูกนำมาคลุกเคล้าอย่างเบามือกับถั่วค่ำ หอมเจียวและมะพร้าวเจียว ตามด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ก่อนจะโรยด้านบนด้วยเนื้อไก่อกฉีกเป็นเส้น ๆ เสิร์ฟมาบนใบชะพลูเพิ่มรสชาติขมเล็กน้อยให้กับเมนูเด็ดจานนี้
แกงเลียงกุ้งสด ซึ่งเป็นเมนูถัดมา มาพร้อมกับวิตามินและไฟเบอร์จากผักหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง ข้าวโพดอ่อน เห็ดฟาง บวบ และใบแมงลัก ตัวซุปถูกปรุงด้วยเครื่องแกงเลียงเข้มข้นให้รสเผ็ดร้อนจากพริกไทย และความเค็มพอดีจากกะปิ อีกทั้งยังได้ความหอมหวานจากผักหลากชนิดมาทำให้แกงเลียงจานนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
สำหรับเมนูคลาสสิคอย่าง แกงกะทิเนื้อปูกับใบชะพลู ของที่นี่ ใช้เนื้อปูหวานก้อนใหญ่และใบชะพลูที่ให้กลิ่นหอมของสมุนไพร มาเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุง ตัวน้ำแกงใช้กะทิรสหวานมัน มาผสมกับเครื่องแกงสูตรเข้มข้นและสมุนไพรไทยอย่างใบมะกรูดและตะไคร้ จนได้น้ำแกงที่ข้น เผ็ด แต่ลื่นคอ และหอมอร่อย
จานต่อมาเป็นเมนู ผัดเผ็ดเป็ดย่าง เนื้อเป็ดถูกนำไปย่างจนหอมกลิ่นควันและได้เนื้อที่นุ่มกำลังดี ถูกนำไปผัดกับสมุนไพรต่าง ๆ ทั้งมะเขือเปราะ มะเขือพวง ข่า พริกชีฟ้า พริกไทย และใบโหระพา จนออกมาเป็นเมนูที่หอมเตะจมุกเป็นอย่างมากจากกลิ่นของสมุนไพรมากมาย อีกทั้งยังได้รสชาติที่เผ็ดมัน ไม่แพ้เมนูอื่น ๆ เลย
อีกเมนูเพื่อสุขภาพที่เสิร์ฟมาได้แก่ ผัดยอดมะระน้ำมันหอย ที่ทางเชฟได้คัดสรรเฉพาะยอดอ่อนมาใช้เท่านั้น และได้นำไปผัดกับน้ำมันหอยรสหวานเข้ม เมนูนี้ถือเป็นอีกเมนูเด็ดที่ให้รสสัมผัสที่น่าสนใจระหว่างความกรุบกรอบและความชุ่มฉ่ำของตัวยอดมะระ
สำหรับเมนูของหวานไทยในวันนี้นั้น เป็นเมนูยอดนิยมอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งที่นี่ได้นำข้าวเหนียวดำไปนึ่งกับน้ำกะทิรสหวาน ให้รสสัมผัสที่แน่นกว่าข้าวเหนียวข้าว เสิร์ฟมาพร้อมกับมะม่วงแกะสลักเป็นรูปกลีบดอกไม้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำกะทิ และถั่วแปปกรุบกรอบ
ปิดท้ายมื้อสุดพิเศษวันนี้ด้วยผลไม้สดตามฤดูกาลหลากชนิด หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ สวยงาม ประกอบไปด้วยมะม่วง ฝรั่ง มะละกอ แตงโม ส้มโอ สับปะรด และองุ่น
ห้องอาหาร จักรพงษ์ไดนิ่ง (Chakrabongse Dining) นั้นมอบประสบการณ์ของชาววังให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกัน ด้วยรสชาติอาหารสูตรชาววังแท้ ๆ ในบริเวณของวังจักรพงษ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับอาหารค่ำ ณ วังจักรพงษ์นั้น สนนราคาอยู่ที่ 2,250 บาทต่อท่าน (ราคาไม่รวมเครื่องดื่ม) หากท่านสนใจอยากมาทานอาหารที่นี่ ท่านจำเป็นต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เนื่องจากทางร้านสามารถรองรับแขกที่จะมาทานมื้อค่ำได้เพียง 20 ท่านเท่านั้น
Chakrabongse Dining
Chakrabongse Villa
Dinner from 18:00 hrs.
1 Day Advance Reservation Required
Direct contact call 089 810 0498