สำหรับใครหลายคน อาหารไม่ได้เป็นแค่แหล่งให้พลังงานอย่างที่เข้าใจ เพราะรสชาติและการตกแต่งล้วนบ่งบอกถึงสไตล์ของผู้รับประทานได้เป็นอย่างดี Mana Cuisine by Blue Elephant คือตัวอย่างล่าสุดที่น่าสนใจ ห้องอาหารสุดชิคนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ CHI Ultra Lounge ซัปเปอร์คลับสไตล์ Funk Shui แห่งแรกของกรุงเทพฯ กับ Blue Elephant ห้องอาหารไทยดังไกลระดับโลก เพื่อนำเสนออาหารชุดใหม่ในคอนเซ็ปต์ “Divide Nourishment” 

CHI Ultra Lounge

Divide Nourishment เป็นแนวคิดการผสมผสานรสชาติแบบไทยและการตกแต่งอาหารแบบล้ำสมัยเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารที่มีรูปลักษณ์แปลกใหม่สวยงาม โดยมีการแบ่งอาหารออกเป็นชุดตามธาตุทั้ง 3 ได้แก่ ธาตุไฟ(เมนูเนื้อ) ธาตุน้ำ(อาหารทะเล) และธาตุดิน(เมนูมังสวิรัต) แต่ละชุดประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ซุป อาหารจานหลักและของหวาน โดยสามารถเลือกทานทั้งเซทตามลำดับหรือสลับเมนูระหว่างคอร์สก็ได้ แต่ก่อนจะไปถึงอาหาร เรามาทำความรู้จักกับร้านและเชฟเจ้าของผลงานกันก่อน

 CHI Ultra Lounge

ห้องอาหาร Mana by Blue Elephant ตั้งอยู่ภายใน CHI Ultra Lounge ซัปเปอร์คลับใจกลางสุขุมวิท นำเสนอประสบการณ์ใหม่ระหว่างมื้ออาหารด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นเอเชีย ภายในตกแต่งด้วยการผสานความเท่ห์แบบกังฟูสไตล์ยุค 70 เข้ากับสถาปัตยกรรมแบบคาซิโนดั้งเดิมของมาเก๊าได้อย่างลงตัวก่อนผสานงานศิลปะแบบจีนโบราณที่พาคุณข้ามเวลาไปสู่มนต์สเน่ห์แบบตะวันออกอันน่าหลงไหล ความพิเศษอีกอย่างของร้านคือระบบแสงสีเสียงล้ำสมัย บนฝ้าเพดานทรงโค้งฉายโมชั่นกราฟฟิคภาพมังกรยักษ์ที่แหวกว่ายไปมาในสถานที่ต่างๆ สะท้อนไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนของชาวกรุงยุคใหม่ได้อย่างน่าตื่นเต้น

CHI Ultra Lounge

ไม่เพียงแต่การตกแต่งเท่านั้นที่น่าระทับใจ อาหารที่ผมจะพาท่านไปรับประทานในวันนี้ยังมาในคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ที่ได้แรงบันดาลจากธาตุทั้ง 5 ตามหลักฮวงจุ้ยจีนโบราณ ผ่านการสร้างสรรค์ของ Chef Anthony C.S. Bish, Chef Anchana Ratanakovit และทีมงานจาก Blue Elephant Phuket ซึ่งร่วมกันสร้างสรรค์เมนูชุดนี้เป็นเวลากว่า 1 ปีเต็ม เพื่อคิดค้นสูตรอาหารเอเชียเลิศรสโดยใช้วัตถุดิบออแกนิคภายในประเทศและพืชผักจากโครงการหลวงมาประกอบร่างสร้างสรรค์จนได้ออกมาเป็นเมนูใหม่ ที่จะผลักดันให้ CHI Ultra Lounge กลายเป็นซัปเปอร์คลับที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในวันนี้ผมเลือกเซตเมนู Fire และ Earth มารีวิวให้ท่านได้รับชมกัน รับรองว่าต้องสวยงามแปลกตาอย่างแน่นอน

CHI Ultra Lounge

– Fire –

เซตเมนูสำหรับท่านที่ชอบทานเนื้อสัตว์ด้วยชุดอาหารที่เลือกใช้เนื้อคุณภาพที่ดีที่สุดจากแหล่งวัตถุดิบในประเทศเป็นหลักเพื่อให้ยังคงความสดใหม่อยู่ ในเซตนี้ประกอบด้วยเมนูเนื้อหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แกะ วัว หรือ ไก่ ดังนี้

CHI Ultra Lounge

Starter : Beef Salad 58’c Sous Vide

(Confit quail egg yolk and mixed wild greens)

เนื้อวัวตัดเป็นชิ้นพอดีคำนำไปย่างจนสุกกำลังดี ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วแนวอีสานที่เพิ่มรสจัดจ้านให้อาหารจานนี้ เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รสชาติเข้มข้นไม่แพ้จานหลัก ตัวเนื้อเสิร์ฟพร้อมไข่นกกระทาที่เลือกใช้เฉพาะส่วนของไข่แดง นำไป confit ในน้ำมัน เป็นส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มรสสัมผัสและความหอมมันให้กับเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี

CHI Ultra Lounge

Soup : Foie Gras Tortellini

(Braised duck, krachai broth, pickled daikon and baby bok choi)

คอร์สที่สองเป็นซุปใสรสชาติเบาๆ น้ำซุปรสหวานจากบ๊อกฉ่อยและเปรี้ยวเล็กน้อยจากหัวไชเท้าดอง มีกลิ่นหอมอ่อนๆของกระชาย โดดเด่นด้วยรสสัมผัสนุ่มๆของ Tortellini ที่อัดแน่นไว้ด้วยรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของ Foie Gras และเนื้อเป็ดตุ๋น

 CHI Ultra Lounge

Main : Chicken Roulade

(Soy-citrus Jus, organic black rice risotto, sautéed greens)

จานหลักเป็น risotto ข้าวดำ เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อสะโพกไก่อบ ตัวข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคจากโครงการหลวงที่นำมาปรุงในรูปแบบของ risotto โดยเพิ่มรสเปรี้ยวแบบไทยๆด้วยมะนาว รับประทานคู่กับเนื้อสะโพกไก่ที่เลาะกระดูกออก หมักกับเครื่องเทศก่อนนำมาม้วนและอบให้สุกนุ่มในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เสิร์ฟพร้อมซอสสองชนิดคือ ซอสส้มรสออกหวานอมเปรี้ยวและซอสข้าวหมกไก่รสเผ็ดติดเค็มที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเทศ เป็น risotto ที่สวยงามน่ารับประทานและมีรสสัมผัสที่แตกต่างน่าสนใจ

CHI Ultra Lounge

Dessert : Banoffee-ish

(Caramelized Thai Banana, Chocolate soil, smoked banana cream and Rosemary cream)

ใครที่เคยหลงไหลในรสชาติหอมหวานผสานกลิ่นกล้วยของบานอฟฟี่คงจะถูกใจเมนูนี้ เชฟของเราได้นำเอาส่วนผสมหลักของเมนูชื่อดังมาสร้างสรรค์และแต่งเติมใหม่จนได้เป็นของหวานที่รับประกันได้ว่าหาทานที่อื่นไม่ได้แน่นอน กล้วยไข่สุกกำลังดีเสิร์ฟพร้อมครีมกล้วยไข่รมควัน โอริโอ และผงช็อกโกแลต ความแปลกของเมนูนี้อยู่ที่การนำโรสแมรี่ที่มักใช้กับอาหารคาวมาแปรสภาพเป็นครีมข้นรสละมุน ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นหอมของโรสแมรี่จะเข้ากันได้ดีกับสรหวานของกล้วยและช็อกโกแล็ต จนทำให้ของหวานชิ้นนี้มีรสชาติแปลกใหม่น่าประทับใจจนต้องบอกต่อ

CHI Ultra Lounge

– Earth –

สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อ ทางร้านมีตัวเลือกเป็นอาหารมังสวิรัต ที่ปรุงด้วยพืชผักจากธรรมชาติ ปราศจากเนื้อสัตว์ ปรุงรสด้วยหอม กระเทียม และนม เพื่อเพิ่มรสชาติ

 CHI Ultra Lounge

Starter : Long Eggplant Salad, Charred

(Burnt shallots, roasted Thai pesto and tamarind dressing)

จานเรียกน้ำย่อยได้แรงบันดาลใจจากยำมะเขือเผา เชฟเลือกใช้มะเขือม่วงลูกเล็กทั้งลูกมาเผาให้สุกโดยภายในยังคงความชุ่มฉ่ำและรสหวานของมะเขือได้อย่างครบถ้วน เสิร์ฟคู่ซอสสองแบบ คือ ซอสน้ำผริกเผารสเผ็ดอมหวานและซอสมะขามรสหวานอมเปรี้ยว เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและมีรสสัมผัสคล้ายหอยนางรมสดกับพริกเผาได้อย่างคาดไม่ถึง

CHI Ultra Lounge

Soup : Borscht

(Beetroot, red cabbage, potato, sour cream, dill)

เมนูซุปเป็น Borscht รสเข้มสไตล์ยุโรปตะวันออกและรัสเซีย ที่มาพร้อมสีแดงสดใสและการตกแต่งที่สวยงามแปลกตา รสเปรี้ยวนำหวานตามจากบีทรูท กะหล่ำปลีแดง และมันฝรั่ง ก่อนเติมความหอมมันด้วย sour cream แต่งจานด้วยซอสบีทรูทเข้มข้นและ cream dill เป็นอีกจานที่แม้จะปรุงโดยปราศจากเนื้อสัตว์แต่ก็ให้รสสัมผัสเข้มข้นจนคาดไม่ถึงว่าเป็นอาหารมังสวิรัติ

CHI Ultra Lounge

Main : Yellow Iranian Saffron Curry

(Homemade paneer, mixed grilled vegetables, violet potatoes, burnt corn and popcorn)

จานหลักเป็นเมนูพิเศษที่ให้รสชาติและสัมผัสหลากหลาย ประกอบด้วยชีสโฮมเมทแบบอินเดียที่ให้สัมผัสบางเบาคล้ายเต้าหู้เสิร์ฟคู่กับผักย่างนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง และแตงกวา ตามด้วยมันฝรั่งสีม่วง ข้าวโพด และ ข้าวโพดคั่ว ทั้งหมดนี้เสิร์ฟบนซอสแซฟฟร่อนสไตล์อินเดีย กลิ่นเครื่องเทศจากซอสช่วยชูรสให้ผักต่างๆ มีรสชาติที่โดดเด่นขึ้นกว่าที่เคย

CHI Ultra Lounge

Dessert : Deconstructed Cheesecake

(Mango and passion fruit, spiced biscuit)

Deconstructed Cheesecake เป็นของหวานที่เป็นการนำชีสเค้กมาสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมเอาไว้ ประกอบด้วยรสเปรี้ยวของครีมชีส รสมันของเนยผง กลิ่นหอมสดชื่นของมะม่วงและเสาวรส ปิดท้ายด้วยรสสัมผัสกรุบกรอบของ biscuit กลายเป็นชีสเค้กในมุมมองใหม่ที่กลมกล่อมไม่แพ้ของดั้งเดิม

CHI Ultra Lounge

นอกจากนี้ก่อนเริ่มรับประทานอาหาร ทางร้านยังต้อนรับแขกทุกท่านด้วย amuse bouche สูตรพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นตามธีมของอาหารแต่ละชุด สำหรับ amuse bouche ของ Fire จะเป็น Lamb shoulder with steamed bun เนื้อแกะจากในประเทศนำไปสตูว์จนนิ่มไม่มีกลิ่นคาวเสิร์ฟในแป้งหมั่นโถวร้อนๆ ส่วนเซ็ท Earth มาพร้อมเมี่ยงคำรสไทยๆ มีใส้ในเป็นถั่วและซอสมะม่วงก่อนเพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกแดงที่นำมามัดบริเวณปลายเมื่ยง อีกหนึ่งทีเด็ดที่เราอยากแนะนำคือ Entrement ที่ทางร้านจัดไว้ให้ล้างปากก่อนเข้าสู่เมนูหลัก เป็น ‘Sparkling Fruit’ องุ่นไร้เม็ดอัดการ์ดคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อความซ่าและสดชื่นเพื่อเตรียมรับรสชาติเต็มๆ จากจานหลัก

CHI Ultra Lounge

สำหรับใครที่ชอบดื่ม Mana ยังมีเมนูเครื่องดื่มที่คิดค้นมาเพื่อ pairing กับอาหารจานหลักในแต่ละเซท เช่น Berries cool เครื่องดื่มรสหอมหวานผสานกลิ่นเบอร์รี่หลากหลายสำหรับคอร์ส Fire และ CHI element เครื่องดื่มรสสดชื่นให้กลิ่นอายคล้าย mojito สำหรับคอร์ส Earth

CHI Ultra Lounge

Aperitivo!

หลังรับประทานทานอาหาร หากท่านยังติดใจในบรรยากาศของห้องโถงมังกรล้ำสมัย ทางร้านยังมีโปรโมชั่นใหม่ Aperitivo! ที่ให้ท่านรื่นรมย์ไปกับ ทาปาสห้าจานและ free flow Chandon Sparkling wine ในราคาเพียง 555 บาทถ้วนเท่านั้น ซึ่งเมนูทาปาสทั้งห้าประกอบด้วย

CHI Ultra Lounge

Roasted Pumpkin salad

ฟักทองหั่นลูกเต๋านำไปอบและย่างก่อนเสิร์ฟในผงปรุงรสเผ็ดคล้ายลาบ สำหรับท่านที่ไม่ชอบฟักทองควรลองเพราะนอกจากเนื้อฟักทองจะเนียนละเอียดคล้ายมันฝรั่งต้มแล้ว กลิ่นของฟังทองยังถูกนำไปผสมกับผงรสเผ็ดจนได้กลิ่นหอมที่ลงตัว

CHI Ultra Lounge

Northern style chili dip with crispy crackling

แฟนอาหารเหนือคงคุ้นเคยกับรสจัดจ้านของน้ำพริกอ่องกันเป็นอย่างดี แต่แทนที่จะทานกับแคบหมูทั่วๆ ไป คราวนี้เชฟของเราเลือกนำสาคูมาทำเป็นข้าวเกรียบแบบใหม่ที่เข้ากับน้ำพริกอ่องได้ไม่แพ้กัน

CHI Ultra Lounge

Summer Prawn

กุ้งลายเสือเนื้อแน่นนำไปลวกให้สุกกำลังดีก่อนราดด้วยน้ำยำและเสิร์ฟพร้อมแตงโมรสหวานฉ่ำชื่นใจ เป็นเมนูที่ให้รสชาติแปลกใหม่รวมรสหวานจากผลไม้และรสเผ็ดได้อย่างลงตัว

CHI Ultra Lounge

Carpaccio Scallop

Scallop สดแล่บางๆ ทานคู่กับซอสซีฟู้ดรสเผ็ด ตัว Scallop เนื้อหวาน เหนียว นุ่ม กำลังดี เป็นอีกจานที่คนชอบอาหารทะเลไม่ควรพลาด

CHI Ultra Lounge

Grilled, seasoned beef on a stick

เนื้ออย่างดีจากในประเทศหั่นชิ้นพอดีคำนำไปหมักซอสสูตรพิเศษก่อนย่างให้สุกแบบ medium rare และทาทับด้วยซอสบาร์บิคิวรสออกหวาน เพิ่มรสชาติด้วยเนื้อสับปะรดชิ้นใหญ่ชุ่มฉ่ำ

 CHI Ultra Lounge

Mana Cuisine by Blue Elephant ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านอาหารดีไซน์สวยนำสมัย แต่ยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และศิลปะการทำอาหารชั้นครูที่นำคุณไปสู่ประสบการณ์การรับประทานอาหารแสนพิเศษ ที่นำเสนออาหารแต่ละจานด้วยรูปลักษณ์และวิธีการที่แปลกใหม่น่าประทับใจ หากท่านอยากมาลองลิ้มชิมรสอาหารเอเชียในรูปแบบ Divide Nourishment สามารถจองโต๊ะและเข้ามาร่วมค้นหารสชาติแห่งธาตุทั้งสามได้ที่ CHI Ultra Lounge ทุกวันอังคาร – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00-22.30 น. ในราคาเริ่มต้นที่ 1,800++ บาทต่อท่าน และ 555 บาทถ้วน สำหรับ Aperitivo  ทาปาสห้าจานพร้อม Free Flow Chandon sparkling wine ตลอดสองชั่วโมงเต็มตั้งแต่เวลา 19.00 – 21.00 น.

CHI Ultra Lounge


Mana by Blue Elephant

CHI Ultra Lounge

The Club open on Tuesday – Saturday from 19:00 – 24:00 hrs.

Dinner menu from 19:00 – 22:30 hrs.

Aperitivo tapas + free flow  from 19:00 – 21:00 hrs.

More information or request Reservation 

Call : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro 

Map

Reserve Now





Mr.Ms.Mrs.