Jerome Domininck พ่อครัวชาวฝรั่งเศสผู้มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมประสบการณ์อันยาวนานจากการทำงานในครัวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในโรงแรมหรูหลายแห่ง เส้นทางสายพ่อครัวมืออาชีพของเขาเริ่มต้นจากการฝึกงานที่ห้องอาหาร ลา ซิบูแลต (La Ciboulette) ของเชฟมิชลินสตาร์ จอร์ช แพคคาร์ด (Georges Paccard) ณ เมืองอานน์ซี (Annecy) ประเทศฝรั่งเศส และได้รับรางวัล “เชฟฝึกหัดยอดเยี่ยม ของจังหวัดโอต-ซาวัว” (Haute Savoie) ในปี 1966

GVG_3163

ก่อนมาเข้ารับตำแหน่งพ่อครัวใหญ่ประจำ L’Appart แห่ง Sofitle Bangkok Sukhumvit, Chef Jerome ยังเคยร่วมงานกับห้องอาหารมีชื่อในหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าพ่อครัว (Chef de Partie) ที่สำนักนายกรัฐมนตรีของสาธรณรัฐฝรั้งเศส ตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Chef de cuisine) ประจำห้องอาหาร เลอ ฟรองแซส เฟร้นช์ ไดน์นิ่ง (Le Francais French Dining) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หนึ่งในสิบร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเมือง รวมไปถึงตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Chef de Partie) ประจำห้องอาหาร เลอ แปร์โกแลส (Le Pergolese) ที่โรงแรมฮิลตัน โตเกียว และ Executive Chef มือทองของห้องอาหารโฟซอง (Fauchon) กรุงเทพฯ

GVG_3182

“ประสบการณ์ที่หลากหลายทำให้ผมเข้าใจการทำอาหารให้ผู้คนหลายหลาก ผมพยายามปรับรสชาติให้เหมาะสมกับลูกค้าในประเทศนั้นๆ แต่ในขณะเดียวกัน ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นฝรั่งเศสไว้ให้มากที่สุด อย่างในประเทศไทย คนส่วนใหญ่จะไม่นิยมอาหารที่มีรสเค็มจัด แต่ชอบอาหารที่ออกหวาน มีรสเปรี่ยวและตืดเผ็ดบ้าง ต่างกับคนฝรั่งเศสที่ชอบรสชาติเค็มนำและไม่มีรสเผ็ด”

“ความแตกต่างอีกอย่างระหว่างลูกค้าคนไทยกับยุโรปคือคนไทยมักติดกับรสชาติเดิมๆ แทนที่จะอยากลองทานเมนูใหม่ที่มีรสชาติหลากหลาย ลูกค้าของผมส่วนมากกลับมาที่ลาพาร์ตเพื่อมองหารสชาติที่คุ้นเคย ดังนั้นเราจึงพยายามคงคอนเสปของร้านอาหารไว้ให้มากที่สุด และนานที่สุด โดยเน้นใช้วัตถุดิบท้องถื่นที่หาได้ในไทย เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทยด้วย”

GVG_3167

ด้วยความที่ L’Appart เป็นร้านอาหารที่มีคอนเสปน่าสนใจ นอกจากจะตั้งอยู่ในชั้นสูงสุด (32) ของโรงแรม ห้องอาหารนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวของคุณปู่ผู้ร่ำรวยชาวฝรั่งเศสที่ซื้อห้องพักสุดหรูในนครปารีสไว้ ก่อนยกให้หลานชายคนเดียวเป็นผู้ดูแลเพื่อออกเดินทางหาประสบการณ์รอบโลก ดังนั้นห้องอาหารที่ว่าจึงเต็มไปด้วยของสะสมจากคุณปูนักเดินทาง ที่ภายหลังคุณหลานเกิดหัวใส เปิดอพาร์ทเม้นท์นี้เป็นที่สำหรับสังสรรค์ในหมู่เพื่อนพ้อง ดังนั้นเมนูอาหารที่เชฟเจอโรมเลือกมานำเสนอจึงคงคอนเสปอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ทานง่าย ในแบบที่ชาวปารีสทั่วไปรับประทานได้ทุกวัน

GVG_3071

แม้ว่าฝรั่งเศสจะเป็นที่รู้จักกันในวงการอาหาร fine dining มานาน แต่เชฟเจอโรมยังเล่าให้ฟังถึงความแตกต่างระหว่างอาหารฝรั่งเศสกับอาหารยุโรปชาติอื่น ในขณะที่ลูกค้าส่วนมากมาร้านอาหารอิตาลี่เพื่อมองหาพิซซ่าและพาสต้า สำหรับอาหารฝรั่งเศสความเข้าใจในหมู่คนไทนส่วนมากยังมีอยู่จำกัด

“ความแตกต่างระหว่างอาหารฝรั่งเศสกับอิตาลี่อยู่ที่วิธีการปรุงอาหาร เชฟอิตาเลี่ยนจะพยายามปรุงอาหารโดยคงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบมากที่สุด ในขณะที่เชฟฝรั่งเศสใช้เวลามากกวว่าในการทำซอสที่เบลนรสชาติจากแต่ละส่วนผสมเข้าด้วยกัน ดังนั้นไฮไลท์ของอาหารสัญชาตินี้จึงอยู่ที่ความกลมกล่อมของซอสที่มักเคี้ยวเป็นเวลานานและเลือกสรรค์เป็นอย่างดีให้เข้ากับอาหารแต่ละจาน รวมไปถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการปรุงโปรตีนแต่ละประเภทให้สุกกำลังดีแต่ยังคงคุณค่าและสารอาหารให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไป”

ด้วยพรสวรรค์และประสบการณ์อันยาวนาน รวมไปถึงความสามารถในการผสานศาสตร์การปรุงอาหารฝรั่งเศสในแบบดั้งเดิมและแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว Chef Jerome Deconinck มีความยินดีที่จะต้อนรับนักชิมอาหารที่มีความรักในรสชาติความเป็นฝรั่งเศสทุกท่านมาอิ่มอร่อยกับอาหารฝรั่งเศสเลิศรสพร้อมเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับประทานอาหารในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครที่ L’Appart Bar & Restaurant


More information or request Reservation

Call : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro 

RESERVE