หากพูดถึง Steakhouse ในกรุงเทพ หนึ่งในร้านที่ท่านต้องนึกถึงด้วยชื่อเสียงและการเป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการมากว่า 15 ปี ประกอบกับคุณภาพอาหารที่ยอดเยี่ยม และ การบริการที่เป็นเลิศตลอดมา ทำให้ New York Steakhouse เป็นหนึ่งในตำนานของร้านอาหารที่ยังคงมีชีวิตอยู่ให้เราได้สัมผัสกันถึงทุกวันนี้ เพราะอะไร Steakhouse แห่งนี้ถึงโด่งดังและกลายเป็นหนึ่งในตำนานของร้านอาหารชั้นยอด วันนี้ Great Gastro จะพาท่านไปพิสูจน์กัน
New York Steakhouse ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรม JW Marriott Bangkok โรงแรม 5 ดาวที่หรูหราที่สุดในย่าน นานา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18:00 – 23:00 น. ความยอดเยี่ยมของร้านอาหารมักจะมาคู่กับ Dress Code เสมอ สำหรับ New York Steakhouse แขกทุกท่านต้องแต่งกายมาอย่างสุภาพแบบ Smart Casual และให้บริการสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปแล้วเท่านั้น
ตัวร้านตกแต่งอย่างหรูหราด้วยคาแรคเตอร์ที่เคร่งขรึมแต่เรียบง่ายด้วยโทนสีขาวดำกับไม้สีเข้ม พร้อมภาพสถานที่สำคัญต่างๆใน New York ประดับอยู่ตามฝาผนังทั่วทั้งร้าน ชุดโต้ะเก้าอี้เป็นแบบ Oversize ที่ใหญ่พิเศษเพื่อให้สะดวกกับแขก เนื่องจากอาหารแต่ละจานจะเสิร์ฟมาใน portion ที่ค่อนข้างใหญ่ ใช้เก้าอี้พนักสูงพิเศษทำจากหนังคุณภาพดีสีดำสนิท ล้อกับผ้าปูโต้ะสีขาวที่รีดจนเรียบตามมาตรฐานร้านอาหารแบบ Fine Dining อุปกรณ์เครื่องใช้บนโต้ะจัดเตรียมอย่างเรียบง่ายแต่สวยงามไม่ซับซ้อนตามสไตล์อเมริกัน โดยมีจานขนมปังพร้อมมีดอยู่ด้านขวามือ ผ้าเช็ดปากสีขาวปักชื่อร้านพับวางไว้ตรงกลาง
องค์ประกอบทั้งหมดช่วยสร้างบรรยากาศที่หรูหราคลาสสิค ทรงคุณค่า ตามแบบฉบับของ Steakhouse ชั้นยอดในมหานคร New York ที่เราสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องบินข้ามโลกไปไกล
เมื่อได้โต้ะที่นั่งแล้ว พนักงานสาวสวยก็เริ่มให้บริการ โดยเริ่มจากคลี่ผ้ากันเปื้อนวางลงบนตักให้เรา ตามด้วยเมนูเครื่องดื่ม และ อาหาร และเมื่อสั่งอาหารกันเรียบร้อย ขนงปังอบสดใหม่ร้อนๆก็มาเสิร์ฟถึงโต้ะให้เราได้รองท้องกันก่อนเริ่มมื้ออาหาร ขนมปังขึ้นชื่อของที่นี่เสิร์ฟมาเป็นก้อนใหญ่ ประกอบด้วยขนมปังสี่ก้อนประกบรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งมีสี่รสชาติ คือ Onion (ผสมหัวหอมสับ), Soya (ผสมงา), Brown Bread (เมล็ดทานตะวัน)และ Focaccia (ผสม Rose Mary) มาพร้อมกับเนยสองชนิดคือ Butter ที่เป็นเนยจืดธรรมดา และ Garlic Butter ที่เป็นเนยกระเทียบรสออกเค็มเล็กน้อยหอมกลิ่นกระเทียมพอเหมาะ
ต่อกันด้วยเครื่องดื่ม ซึ่งเราได้รับการแนะนำให้ลอง signature drink ของที่นี่ และเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชาว New York นั่นคือ Martini หลากหลายรสชาติ วิธีการเสิร์ฟก็ไม่ธรรมดา เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบเดียวกับการไปนั่งดื่ม Martini ณ บาร์สุดหรูในแมนฮัตตัน พนักงานจะนำถาดไม้ซึ่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับวางแก้ว Martini และ Shaker มาที่โต้ะแล้ว Shake เครื่องดื่มที่ใส่ส่วนผสมทั้งหมดมาแล้วใน Shaker แล้วรินลงในแก้ว Martini ตรงหน้าเรา ซึ่งเป็นวิธีการเสิร์ฟเครื่องดื่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์แสดงให้เห็นความพิถีพิถันในการให้บริการของ New York Steakhouse
Martini เป็นค็อกเทลเข้มข้นดีกรีสูง หนึ่งในสัญลักษณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มของมหานคร New York มีส่วนประกอบหลักเป็น Vodka วันนี้เราได้ลอง 4 ตัว คือ
Lychee Martini – Absolute Vodka, Peach Schnapps and Lychee Juice
รสหวานอมเปรี้ยวนุ่มนวล ลงตัวกับรสและกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำลิ้นจี่กับ Absolute Vodka
Cosmopolitan Martini – Absolute Vodka, Triple Sec, Cranberry Juice and Lime Cordial
คล้ายๆแก้วแรกแต่จะหวานกว่าและมีกลิ่นหอมผิวส้มอ่อนๆแทน เป็นแก้วที่เบาๆและดื่มง่ายที่สุดในทั้งสี่แก้วที่เราได้ลอง
Kyoto Martini – Bombay Gin, Midori Melon Liqueur, Dry Vermouth and Lemon Juice
สีเขียวสดใส รสเปรี้ยวนำหวานตาม หอมกลิ่นเมลอนญี่ปุ่น แอลกอฮอลค่อนข้างแรง แต่ดื่มได้เรื่อยๆ ระวังเมาไม่รู้ตัว
Chocolate Martini – Absolute Vodka, Crème de Cacao Brown and Galliano
รสหวานหอมกลิ่นช็อคโกแลตกลมกล่อม เทกเจอร์ออกครีมมี่เล็กน้อย ดื่มง่ายลื่นคอ
หลังจากดื่มกันไปคนละแก้ว อาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟ ต้องบอกก่อนว่าวิธีการเสิร์ฟอาหารของทีนี่หลายๆเมนูจะเป็น Table Side Service คือนำอาหารมาปรุงให้ชมกันถึงโต้ะ ซึ่งนอกจากจะทำให้เราได้รับประทานอาหารที่สดใหม่แล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับการชมวิธีการปรุงจากพนักงานสาวสวยทุกท่านอีกด้วย อย่างเช่นอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกที่เป็นเมนูแนะนำของร้านด้วย ซึ่งก็คือ
Caesar Salad
Prepare Tableside with or without anchovies and pork bacon
Caesar Salad สูตรพิเศษของ New York Steakhouse ที่พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการบริการปรุงสดๆ ณ โต้ะอาหารของท่าน พนักงานสาวสวยจะเข็นรถเข็นที่มีถังไม้ใบโตตั้งอยู่ พร้อมเครื่องปรุงสำหรับทำเดรซซิ่งและผักสลัดสดกรอบเย็นๆเรียงใส่ชามมาอย่างสวยงาม
จากนั้นเธอจะผสมส่วนประกอบต่างๆเข้าด้วยกันตีและคลุกเคล้าอย่างรวดเร็วด้วยช้อน เพื่อให้ฟองอากาศแทรกเข้าไปในตัวเดรซซิ่ง ท่านสามารถแจ้งพนักงานให้ใส่ส่วนผสมเพิ่มเติมหรือปรุงรสชาติตามที่ท่านโปรดปรานได้ ก่อนจะบรรจงใส่ผักสลัดลงไปทีละน้อยคลุกเคล้าจนเดรซซิ่งเคลือบไปจนทั่วใบผักแต่ละใบ แล้วจึงตักใส่จานก่อนเสิร์ฟพร้อม พาเมซานชีส เบคอนกรุบกรอบ และ Crouton เพิ่มความกรอบมันให้กับ Caesar Salad จานพิเศษ
American Lobster Bisque
เมนูถัดมาเป็นซุปข้นกุ้ง Lobster ที่มีเนื้อครีมซุปนุ่มเนียน รสออกเค็ม เทกเจอร์ครีมมี่ พร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lobster และเนื้อสัตว์ทะเลที่เราชื่นชอบ มีเนื้อ Lobster ชิ้นเล็กๆซ่อนอยู่ในชามเพื่อเพิ่มรสสัมผัส
Grilled Hokkaido Scallops in the Shell
Wild mushroom with mornay Truffle sauce
หอยเชลล์ตัวใหญ่คัดไซส์พิเศษ สดใหม่ส่งตรงจาก Hokkaido ย่างด้วยไฟอ่อนๆบนกระทะจนผิวเกรียบกรอบเล็กน้อย ด้านในยังชุ่มฉ่ำหวานหอม วางมาบนเห็ดผัดกับซอส Truffle เพิ่มความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ลงไป เวลาทานบีบเลมอนที่เสิร์ฟมาคู่กันลงไปเล็กน้อย แล้วตัดเนื้อหอยเชลล์ทานคู่กันกับซอสเห็ดด้านล่าง รสชาติกลมกล่อมเข้ากัน มีทั้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม มัน ในคำเดียว
Pan-Fried Foie Gras
Port Wine Sauce
ฟัวกรากลายเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านอาหาร Fine Dining ในกรุงเทพไปแล้ว ที่นี่ใช้ฟังกราชิ้นไม่ใหญ่มากนัก หนากำลังพอเหมาะ ย่างมาดีมาก ด้านนอกเกรียม ที่ผิวมีเลเยอร์กรอบๆบางๆ ภายในเนื้อยังนุ่มแน่นไม่เละจนเกินไป เสิร์ฟมากับซอสที่ปรุงจาก Port Wine หรือไวน์หวาน รสจึงออกหวานนำ ทานคู่กันได้อย่างลงตัว
Live US Lobster – Baked
Lobster ตัวใหญ่ยักษ์ผ่าหลังแล้วใส่เห็ดผัดปรุงรสพิเศษลงไป ปิดทับด้วยชีสแผ่นใหญ่ จากนั้นนำเข้าเตาอบจนสุก ผิวชีสด้านบนเกรียมกรอบ เวลาทานใช้มีดผ่ากลางหลังตัว Lobster บีบเลมอนลงไปเล็กน้อย แล้วใช้ช้อนตักเอาเนื้อออกมาทานร้อนๆ เนื้อ Lobster แน่นๆชิ้นใหญ่เข้ากันกับเห็ดผัดที่มีรสออกเค็มเล็กน้อย หอมชีสที่วางทับเอาไว้ด้านบน
Spice Rubbed Tomahawk Wagyu Roast Beef
1 Kg. Australian Tomahawk Wagyu Beef with Chef’s secret Spice. Carved and served at table with Wild Rocket, Parmesan Cheese Salas, Roasted Potatoes with Rosemary and a Trio of Chef’s Sauces Selection
จานไฮไลท์กับเนื้อ Tomahawk ขนาด 1 กิโลกรัม สำหรับทานด้วยกัน 3 – 4 ท่าน เป็นเนื้อ Australian Wagyu ชิ้นหนา หมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษของ New York Steakhouse ย่างไฟจนสุกแบบ Medium Rare เสิร์ฟมาบนรถเข็นเป็นชิ้นใหญ่ทั้งชิ้นติดกระดูก พร้อมเครื่องเคียงสารพัด
พนักงานจะค่อยๆแร่เนื้อเป็นชิ้นบางๆทีละชิ้นให้เราชม กลิ่นหอมและสีแดงสดของเนื้อด้านในยิ่งทำให้เราอยากลิ้มลองรสชาติจนแทบอดใจรอไม่ไหว ใครชอบทานแบบดิบๆหวานนุ่มก็รับไปทานได้เลย
ใครชอบแบบสุกหน่อย เมื่อหั่นจนเสร็จแล้วน้องพนักงานจะนำไปจัดเรียงบนถาดสแตนเลสที่จุดไฟให้ความร้อนไว้ด้านล่างตั้งเอาไว้บนโต้ะเพื่อให้เนื้อยังอุ่นอยู่และทำให้สุกมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
เครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาคู่กันประกอบด้วย สลัดผักร็อคเก็ตโรยพาเมซานชีส (Wild Rocket, Parmesan Cheese Salad) และ มันฝรั่งอบโรสแมรี่ (Roasted Potatos with Rosemary) พร้อมซอส 3 ชนิด ได้แก่ BBQ Sauce, Blue Cheese และ Peppercorn Sauce
ใครอยากเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านขึ้นไปอีกทางร้านยังมี Mustard 3 แบบ ได้แก่ Dijon Mustard, English Mustard และ Pommery Mustard ส่วนท่านที่ชอบรสเค็มพร้อมกลิ่นหอมพิเศษก็ยังมีเกลืออีกหลากหลายชนิดให้ท่านเลือก เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ Steakhouse จะสามารถนำเสนอให้ท่านได้
Warm Mixed Berries
จบจากของคาวสุดอลังกาล ก็ต่อด้วยของหวานแสนสวยจานนี้ กับเบอรี่สดหลากหลายชนิดทั้ง สตอเบอร์รี่ ราสเบอรืรี่ บลูเบอร์รี่ ท้อปด้วยไอศครีมแม็คคาดิเมีย ซึ่งที่นี่เลือกใช้ไอศครีมของ Haagen-Dazs ก่อนจะราดทับอีกชั้นด้วย เบอร์รี่ซอสรสเปรี้ยว รสหวานของไอศครีมและเบอรี่สดเข้ากันกับซอสอย่างลงตัว พิเศษด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของผลเบอร์รี่หลากหลายพันธุ์
Chocolate Dream
จานนี้สำหรับคนชอบ Chocolate ต้องไม่พลาด กับเค็ก Chocolate Lava รสชาติเข้มข้น ตัวซอสด้านในหวานเยิ้มกรุ่นๆ ทานคุ่กับไอศกรีม Haagen-Dazs เย็นๆหวานหอมพร้อมวิปครีมและเบอร์รี่ซอส กลมกล่อมลงตัวทั้งรสชาติและรสสัมผัส
ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของ New York Steakhouse ที่เราได้สัมผัสผ่านอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งในแง่ของรสชาติและความบันเทิงผ่านวิธีการเสิร์ฟแบบพิเศษอันเป้นเอกลัษณ์ พร้อมการบริการที่เป็นกันเองและผ่านการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดีของพนักงานทุกท่าน ประกอบกับบรรยากาศของ Steak House แห่งมหานคร New York ที่หรูหราและเคร่งขรึม ล้วนเป็นเครื่องยืนยันความยอดเยี่ยมและความสำเร็จของ New York Steakhouse แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวกรุงเทพที่เรามี Steakhouse ชั้นยอดไว้ให้เราได้ลิ้มลองและสัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยไม่ต้องบินไปไกลถึง New York
New York Steakhouse
JW Marriott Bangkok
Open daily from 18:00 – 23:00 hrs.
GALLERY
