Dine in Style upon “The Roof”

The Roof at Siam@Siam design hotel Bangkok

The Roof ห้องอาหารและบาร์ที่ตั้งบนโรงแรม Siam @ Siam design hotel Bangkok ชั้น 25 หนึ่งในสถานที่เพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพ ที่ให้เราได้รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมชื่นชมทัศนียภาพของกรุงเทพได้โดยรอบ ด้วยตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับห้างมาบุญครองและสนามกีฬาแห่งชาติ อยู่บนความสูงที่ไม่เตี้ยไม่สูงจนเกินไป ทำให้ได้วิวที่สวยแปลกตา ด้วยอาหารจากครัวของ Chef Gilles Poitevin และเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหลากหลาย ในราคาที่ไม่สูงมาก ยิ่งทำให้ห้องอาหาร The Roof กลายเป็น Roof Top Venue สุด Hot อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพ วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัส The Roof ในทุกซอกทุกมุมกัน

Place

โรงแรม Siam @ Siam Design Hotel Bangkok สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากยักษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของ ความยิ่งใหญ่ ความแข็งแกร่ง และพละกำลัง คุณสามารถสัมผัสได้จากทุกๆส่วนของโรงแรม รูปแบบการตกแต่งที่มีรายละเอียดมากมาย บวกการใช้สีสันที่ฉูดฉาดร้อนแรง องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและชีวิตชีวาให้กับแขกทุกคนที่ได้มาสัมผัส ส่วนต่างๆของโรงแรมสื่อความหมายแทนอวัยวะส่วนต่างๆของยักษ์ ตัวห้องอาหาร The Roof ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดนั้นเปรียบได้กับเศียรของยักษ์อันเป็นส่วนที่สูงที่สุดและสำคัญมากที่สุด เมื่อคุณเดินทางมาถึงทางเข้าของห้องอาหาร คุณจะพบกับส่วนต้อนรับที่ประดับประดาไปด้วยภาพวาดศิลปะมากมาย อันเปรียบได้กับห้วงความคิดที่สับสนวุ่นวายที่พลุ่งพล่านอยู่ในสมอง เมื่อเดินขึ้นบันไดไปยังส่วนของดาดฟ้า คุณจะพบกับส่วนรับประทานอาหารที่มีดีไซน์แบบ multi-level มีที่นั่งบนดาดฟ้าด้านบน และบาร์กลางแจ้งด้านล่าง

[supsystic-slider id=81 ]

The Roof Restaurants

บรรยากาศของ The Roof ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินเข้ม และแดงเข้ม บางมุมจัดวางเสาไฟที่เป็นลวดลายของเศียรยักษ์โดยใช้สีเขียวที่เป็นสีเอกลักษณ์ของยักษ์สยาม ให้อารมณ์ของความสนุกสนานร่าเริงที่แฝงเสน่ห์และกลิ่นอายของความเป็นไทย The Roof เป็นหนึ่งใน Rooftop ที่ดีสุดสำหรับการรับลมหนาวที่กำลังจะมาถึง คุณสามารถดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงามของมหานครกรุงเทพ ได้ 360 องศา เลือกที่นั่งติดระเบียงเพื่อชมวิวตึกสูงย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ วิวสเตเดียมของสนามกีฬาแห่งชาติ ขณะเดียวกันยังสามารถชมความงดงามของสถาปัตยกรรมบนเกาะรัตนโกสินทร์อันได้แก่ พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทองแห่งวัดสระเกศราชวรมหาวิหารได้อีกด้วย คนที่มารับประทานอาหารที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่พลาด “Signature Hot Stone Grill” ที่มีเตาหินร้อนและเมนูอาหารสำหรับปิ้งย่าง ให้คุณสนุกกับการปิ้งย่างเมนูโปรดได้ด้วยตนเอง เรียกได้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 [supsystic-slider id=82 ]

LaVue ( ในกรณีที่ฝนตกคุณสามารถนั่งรับประทานอาหารพร้อมรับชมทัศนียภาพย์ของกรุงเทพ ณ LaVue แทนได้ )
 chef

“ความรักในการทำอาหารของผมเป็นเหมือนบทกวีที่กลั่นออกมาจากใจ โดยอาศัยความทรงจำอันเปี่ยมด้วยความรู้สึกและความอ่อนโยนในวัยเยาว์มาเสนอนำ”- Chef Gilles Poitevin

Chef Gilles จบการศึกษาจาก Jean Drouant สถาบันการศึกษาด้านการปรุงอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และได้รับการถ่ายทอดฝีมือปรุงอาหารชั้นเลิศจาก Chef Joel Robuchon มาสเตอร์เซฟระดับมิชิลิน สตาร์ จากปารีส ด้วยประสบการณ์การทำอาหารให้กับโรงแรมระดับ 5 ดาว กว่า 20  ปี เขาได้ฝึกฝนและพัฒนาตนเอง จนสามารถก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในแนวหน้าผู้เชี่ยวชาญอาหารฝรั่งเศสสไตล์ดั้งเดิม ความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของเขา คือการได้รับโอกาสให้ถวายการปรุงอาหารฝรั่งเศสแก่ราชวงศ์ไทยหลายพระองค์ ก่อนที่ Chef Gilles จะมาที่  Siam @ Siam Design Hotel & Spa Bangkok เขาเคยได้รับตำแหน่งเป็น Head Chef ประจำมหาวิทยาลัยนานาชาติวาแตล ศิลปากร และที่ Santiburi Beach Resort & Spa หนึ่งในรีสอร์ทชั้นนำของโลก บน เกาะสมุยอีกด้วย

siam@siam Resize 2000x3000-34

“ผมปรารถนาจะนำรสชาติอันประณีตของอาหารฝรั่งเศสสูตรดั้งเดิมมาปรุง โดยใช้วัตถุดิบที่คัดสรรและสั่งตรงมาจากประเทศต้นตำรับล้วนๆ ด้วยวัฒนธรรมอาหารและความเข้าใจอันลึกซึ้งในรสชาติของวัตถุดิบที่เลือกมา ผมเชื่อมั่นว่าคุณจะสามารถเข้าถึงรสชาติและศิลปะการปรุงอาหารฝรั่งเศสสูตรต้นตำรับได้อย่างแท้จริง” – Chef Gilles Poitevi

 Cuisine

Chef Gilles ปรุงอาหารฝรั่งเศสด้วยความพิถีพิถัน โดยนำเสนออาหารสไตล์ “French Earth Gastronomic Cuisine” คืออาหารฝรั่งเศสที่มาพร้อมวัตถุดิบธรรมชาตินานาชนิด โดยใช้กลิ่นและรสชาติจากกลีบดอกไม้, รากไม้ เห็ดและสมุนไพรต่างๆ มาปรุงให้เกิดรสชาติที่เป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับอาหารแต่ละจานที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น ช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ Chef Gilles ภูมิใจนำเสนอเมนู Signature ชุดใหม่ ในชื่อว่า ‘Moonsoon a la carte raining season’ โดยจานที่เราได้ลิ้มลองกัน ได้แก่

– Appetizer –

Cream of Oyster and Black Truffle Soup

GVG_6940

เริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Cream of Oyster and Black Truffle Soup ซุปข้นปรุงขึ้นจากหอยนางรมที่เติมความน่าตื่นเต้นด้วยกลิ่นหอมสุดพิเศษของเห็ดทรัฟเฟิลสีดำ เนื้อครีมนุ่มละมุนเคล้าน้ำมันทรัฟเฟิลที่ลอยอยู่บริเวณผิวหน้า ซึ่งจะเคลือบบนริมฝีปากหลังจากเริ่มรับประทานคำแรก ช่วยให้เราได้กลิ่นหอมที่ชัดเจนแห่งการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างกลิ่นอ่อนๆของหอยนางรม และกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิล เป็นอีกเมนูครีมซุปที่คุณต้องลอง

Warm Potato Salad

 GVG_6919

ตามด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอีกหนึ่งจาน Warm Potato Salad with Mascarpone, chorizo and parma ham มันฝรั่งหั่นเป็นลูกบอล อบจนเหลืองหอมน่ารับประทาน ท็อปด้วยไส้กรอก Chorizo และ Parma Ham เนื้อมันฝรั่งนุ่มๆ เสริมรสชาติด้วย Mascarpone ให้รสชาติหวานๆมันๆ เข้ากันได้ดีกับ Chorizo และ Parma Ham ที่มีรสชาติออกเค็มแต่ไม่จัดจ้านจนเกินไป

Tuna Nicoise Salad

GVG_6928

Tuna Nicoise Salad เมนูสลัดคลาสสิคสไตล์ฝรั่งเศส ที่รวบรวมผักออร์แกนิคที่เป็น Garden Vegetables เสิร์ฟคู่กับเนื้อทูน่า ราดด้วยเดรซซิ่งรสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อย ให้ความรู้สึกสดชื่นจากธรรมชาติ คนรักสุขภาพต้องไม่พลาดจานนี้

Occitane Snail Fricassée

GVG_6931

เมนูเรียกน้ำย่อยร้อนๆ จานเอกของค่ำคืนนี้ คือ Occitane Snail Fricassée ปรุงจากหอย Escargot เสิร์ฟพร้อมขนมปังกรุบกรอบฝานบางๆ ทานกับซอสครีมสีส้มที่ให้รสชาติเปรี้ยวและเผ็ดที่ปลายลิ้น เนื้อหอยเหนียวนุ่ม เข้ากันได้ดีกับซอสเข้มข้นที่เสริมรสชาติให้กับเมนูเด็ดจานนี้ได้เป็นอย่างดี

– Main Course –

 Sablefish in Salty Crust

GVG_6959

สำหรับคนที่ชอบรับประทานปลา ต้องไม่พลาดจานนี้ Sablefish in Salty Crust เนื้อปลาค็อดเสิร์ฟพร้อมครีมซอส มันฝรั่ง และเห็ด เนื้อปลาปรุงออกมาได้นุ่มเนียนกำลังดี ราดด้วยครีมซอสรสเปรี้ยวออกหวานนิดๆ เห็ดที่ผัดมาพอสุกเพิ่มรสสัมผัสและกลิ่นหอม เคียงด้วยมันฝรั่งอบ เป็นจานหลักที่เหมาะกับคนที่ไม่อยากทานเนื้อหนักๆ

 Pan-seared Beef Sirloin

 GVG_6960

เอาใจคนรักเนื้อด้วยเมนู Pan-seared Beef Sirloin เมนูจานพิเศษ คัดสรรเนื้อสันนอกที่ดีที่สุด นำมาย่างบนเตาหินร้อน เนื้อที่ย่างมีกลิ่นหอมและนุ่มจากการหมักด้วยซอสสูตรพิเศษปรุงจากไวน์แดงชั้นดี เสิร์ฟพร้อมสตูว์ที่มีส่วนผสมของ เบคอน มันฝรั่ง เห็ด หอมแดง และไวน์แดง จุดเด่นของจานนี้คือรสชาติที่ชัดเจนของซอสและรสสัมผัสของนุ่มหอมของเนื้อที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีในการปรุง

– Dessert –

หลังจากที่คุณรับประทานอาหารหลัก ทางร้านยังได้แนะนำให้เราลิ้มลองเมนูของหวาน ซึ่งในแต่ละวันจะมีเมนูสลับสับเปลี่ยนกันไป ในวันนี้ Chef Gilles ได้นำเสนอของหวานสไตล์ฝรั่งเศสจานเด็ดของเขา ทั้งหมด 3 จานให้เราได้ลองกัน

White Chocolate Mousse

 GVG_6980

ของหวานที่ทำจากมูสช็อคโกแลตขาวรสชาติหวานกำลังดี ไม่แหลมจนเกินไป เสริมด้วยช็อคโกแลตขาวเป็นชิ้นที่เพิ่มรสชาติความสนุกในการรับประทานยิ่งขึ้น

 Strawberry mille-feuille

 GVG_6973

แผ่นแป้งพัฟฟ์กรุบกรอบซ้อนเรียงกันเป็นชั้นๆ แทรกด้วยมูสรสหวานและสตรอเบอรี่สดที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นฉับพลัน

Kiwi Macarons

GVG_6975

มาการองชิ้นโตสอดไส้หวานที่มีกลิ่นหอมของกีวี่ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ ตัวมาการองทำออกมาได้กรอบนอกนุ่มในดี

 – Craft Beer –

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาเยือน The roof ยังนำเสนอโปรโมชั่นเครื่องดื่ม ที่รับรองว่าต้องถูกใจคอเบียร์แน่นอน กับ Premium Craft Beer นำเข้าที่มีให้เลือกกว่า 22 ชนิด อาทิเช่น Highlight เช่น Ryan & the Beaster Bunny จาก อเมริกา, Falco จาก อเมริกา, Punk IPA จาก Scotland และ 5AM จาก Scotland ในวันนี้เราได้ทดลองกัน 3 ชนิด ดังนี้

GVG_6987

Punk IPA เบียร์สีเหลืองใส ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวรสชาติออกหวานเล็กน้อย เหมาะกับคุณผู้หญิงที่มองหาเบียร์นำเข้ารสชาติดีมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

GVG_6936

Molotov cocktail เบียร์เนื้อเข้มสีลูกพีซ ที่ดูสดใส มีกลิ่นหอมของผลไม้ แต่รสชาติแรงออกขม คุณจะรู้สึกตื่นตัวทันทีที่หยดแรกสัมผัสลิ้น

GVG_6968

ตัวสุดท้ายคือ Ashtray Heart เบียร์สีดำสนิทให้กลิ่นอบอุ่นของฟืนในเตาผิงที่ลุกโชน ให้รสชาติขมรุนแรงมากในสัมผัสแรกแต่กลับลื่นคอเมื่อดื่มไปเรื่อยๆ


หลังจากที่ได้ชมเมนูต่างๆ เรามาดูตัวอย่างเมนูอื่นๆที่น่าสนใจใน ‘Moonsoon a la carte raining season’ กันบ้าง

Sea asparagus Parmentière Salmon

GVG_6856

Southwestern French salad with Duck Foie Gras

 GVG_6811

Grilled Tiger Prawn Salad

 GVG_6824

Braised duck leg

 GVG_6855

Bolhabaisa “Occitan Provençal” Fish Bouillabaise Soup

 GVG_6817


The Roof ชั้น 25 โรงแรม Siam@Siam Design Hotel Bangkok

มื้อค่ำให้บริการตั้งแต่เวลา 17:30 – 23:30 น.

Gallery

[supsystic-slider id=83 ]


 แผนที่

 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองประสบการณ์สุดพิเศษกับ Where To Fin โทร 02 633 3998


 [supsystic-slider id=28 ]