ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ห้องอาหาร Rossini แห่งโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง การันตีด้วยรางวัลคุณภาพหลายรางวัล ได้นำเอาประสบการณ์ทางอาหารระดับ Michelin Star มาให้เราชาวกรุงเทพได้สัมผัสกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราได้ลิ้มลองเมนูอาหารอิตาเลียน โดย Michelin Star Chef Errico Recanati สุดยอดฝีมืออาหารอิตาเลียนที่กลับมาเยือน Rossini อีกครั้ง ตามคำเรียกร้อง

Chef Errico Ricanati แห่งร้านอาหาร Andriena ในแคว้น Marche แห่ง Italy เป็นเชฟผู้มีชื่อเสียงในการนำเทคนิคการทำอาหารแบบอิตาเลียนโบราณมาใช้ในการสร้างสรรเมนูอาหารที่มีรสชาติแปลกใหม่ ด้วยวัตถุดิบชั้นยอดที่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถัน ให้มีรสชาติที่โดดเด่นขึ้นทั้งยังระวังไม่ให้ขั้นตอนการปรุงใปทำลายรสชาติและลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบนั้นๆ เรียกได้ว่า Chef Errico เป็นหนึ่งในพ่อครัวที่ปฏิวัติเทคนิคการทำอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม ให้มีสีสันเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันดังเห็นได้จากอาหารทุกๆจานที่เขาสร้างสรรขึ้น

วันนี้ Great Gastro จะพาไปชมผลงานชั้นยอดของ Chef Errico ที่เราได้มีโอกาศไปสัมผัสและลิ้มรสกันมาแล้ว ณ ห้องอาหาร Rossini แห่งโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit

เร่ิมต้นด้วยขนมปังเรียกน้ำย่อยอบมาอุ่นๆกันก่อน มีมา 4 แบบ พร้อมเบรดสเปรด 3 อย่าง อันเป็นของขึ้นชื่อของ Rossini ก่อนจะเริ่มอาหารจานแรก

“Animelle, Ricci Di Mare, Capesante” Veal Sweetbread, Sea Urchin, Scallops

ตับอ่อนลูกวัวที่เลือกใช้เฉพาะตัวที่มีอายุน้อยกว่า 3 เดือน (Veal) รสออกเค็มๆมันๆ ย่างจนสุกกำลังดีวางมาบนหอยเชลย่างตัวใหญ่เนื้อแน่นผิวหน้ากรอบเกรียม ราดด้วยซอสรสออกเปรี้ยวเล็กน้อยที่ทำจากเนื้อหอยเม่นที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นจานที่โดดเด่นด้วยรสชาติที่ชัดเจนของวัตถุดิบหลักทั้ง 3 ทั้งยังผสมผสานเป็นรสชาติที่กลมกล่อมที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมสุดพิเศษ

“Pensando ad un brodetto” Thinking about a seafood soup

ซุปข้นรสชาติคล้ายๆ Lobster Bisque ได้กลิ่นอายของทะเลชัดเจน โดยเสิร์ฟแยกมาในกาแล้วมาเทใส่จานที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์ทะเลต่างๆ เช่น หอยเชล เนื้อปู หอย และ กุ้ง ที่ล้วนถูกทำให้สุกมาแล้ว เป็นซุปที่ชวนให้ระลึกถึงบรรยากาศชายทะเลแสนสวยได้เป็นอย่างดี

“Tortello Di Piccione, Mascarpone, Castagne E Tartufo Nero” Pigeon Tortelli, Mascarpone, Chestnuts, Black Truffle

Pasta จานแรกเป็น Tortelli ไส้เนื้อนกพิราบนุ่มๆโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเนื้อนกพิราบ ในซอสที่มีส่วนผสมของชีส Mascarpone ที่มีรสอ่อนๆกลมกล่อม โรยหน้าด้วยเกาลัดฝานบางๆและทรัฟเฟิลดำ เพิ่มสัมผัสแปลกใหม่ด้วย Black Truffle Caviar ที่เป็นเมล็ดเล็กๆผสมลงไป เป็นพาสต้าจานที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของวัตถุดิบต่างๆ

“Gnocco Di Patate Viola Ripiene Di Lepre In Salmi, Burro, Salvia E Mirtilli” Butter Stewed Hare Violet Gnocchi, Sage, Blueberry

Pasta จานที่สองเป็น Gnocchi (ย็อคคิ) ที่ทวิสจากต้นตำหรับที่เป็น Gnocchi ในซอสเนื้อกระต่าย มาเป็นการนำเอาเนื้อกระต่ายสับในสตูว์เนื้อกระต่ายรสเข้มข้นมายัดเป็นไส้ในของ Gnocchi ตัวแป้งเหนียวนุ่มละมุนลิ้น คล้ายๆสาคูแต่นุ่มกว่ามาก ประดับด้านบนด้วยมันฝรั่งม่วงขูดเป็นฝอยและบลูเบอรี่เพิ่มรสเปรี้ยวหวานสดชื่น 

“Agnello, Asparagi, Caprino” Baby Lamb, Asparagus, Goat Cheese

จานหลักจานแรกเป็นเนื้อลูกแกะที่ทำมาแบบสุกนอกนุ่มใน เสิร์ฟมากับซอสหน่อไม้ฝรั่งเนื้อเนียนนุ่ม เพิ่มชีสนมแพะเพิ่มความเนียนของซอส ตกแต่งด้วยหน่อไม้ฝรั่งขาวฝานบางๆ เป็นการผสมผสานของเนื้อลูกแกะรสออกเค็มและมีกลิ่นเฉพาะกับส่วนของซอสที่นุ่มเนียนที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหน่อไม้ฝรั่ง

“Anatra, Tamarindo E Cacao” Duck Breast, Tamarind, Cocoa

มาถึงจานไฮไลท์ กับเนื้ออกเป็ดนำเข้าจากฝรั่งเศสที่ย่างมาพอสุกแบบ Medium Rare เสิร์ฟกับซอสมะขามหวาน และ บีทรูทรสเปรี้ยว ประดับด้วยบีทรูทฝานบางๆ และมีผลเชอรี่ที่ทำจากฟัวกราเทอรีนหุ้มด้วยแป้งบางๆที่มีส่วนผสมหลักเป็นบีทรูท เป็นจานที่น่าจะถูกปากคนไทย เพราะครบทั้ง เปรี้ยว หวาน เค็ม เมื่อรับประทานร่วมกันให้รสชาติที่กลมกล่อมที่มาพร้อมรูปโฉมที่งดงาม

“Il Tiramisu Tutto In Una Sfera” Traditional Tiramisu In a Sphere

มาถึงขนมหวาน จานแรกเป็น ทิรามิสุ ที่รสชาติมาครบถ้วนแต่เสิร์ฟมาในสไตล์โมเดิร์นมาก คือทำเช็อคโกแลตเป็นโดมครอบส่วนของเนื้อเค้กและไอศครีมไว้ ตอนเสิร์ฟพนักงานจะนำซอสรสหวานมาเทลงบนโดมช็อคโกแลตให้มันละลายเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ในตอนแรกดูไม่รู้เลยว่าจานนี้คือ ทิรามิสุ จนเมื่อได้ลองชิมรสชาติซึ่งผสมผสานกันเป็นรสของทิรามิสุได้อย่างน่าอัศจรรย์

“Il Cioccolate Ca Al Mercato Delle Spezie” Our Dark Chocolate Went To The Spice Market

 เป็นของหวานที่ได้แรงบรรดาลใจจากประสบการณ์การเดินตลาดในอินเดียของเชฟเอง เป็นช็อคโกแลตมูสเนื้อเนียนรสหวานโรยหน้าด้วยเครื่องเทศ 6 ชนิด ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เพิ่มสัมผัสด้วยช็อคโกแลตบอลลูกเล็กๆเคลือบสีทอง โดรยอยู่ด้านบน

“A Mio Nonno” A Dedication To My Grandfather

ของหวานจานสุดท้าย เป็นขนมหวานต้นตำหรับพื้นเมืองของอิตาลี ดัดแปลงมาจาก Zuppa Inglease ที่เป็นเค้กชั้นๆกับครีมซอสรสหวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ได้จากเหล้าชนิดพิเศษคล้ายๆกลิ่นหอมของดอกกุหราบ เป็นขนมหวานที่รสบางๆแต่กลิ่นโดดเด่น ปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างยอดเยี่ยม

ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ห้องอาหาร Rossini นำเอาสุดยอดประสบการณ์ทางอาหารมาให้ชาวกรุงเทพได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ในฐานะร้านอาหารอิตาเลียนชั้นนำและดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ

 Rossini’s

Sheraton Grande Sukhumvit

เปิดให้บริการทุกวัน

มื้อกลางวัน เวลา 12:00 – 14:30 น. (วันจันทร์ – ศุกร์, ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

มื้อค่ำ เวลา 18:00 – 22:30 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต้ะกับ Great Gastro

โทร : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro 

(บริการให้คำปรึกษา FREE ไม่มีค่าใช้จ่าย)

MAP