โรงแรม The Sukhothai Bangkok หนึ่งในโรงแรมชั้นนำของกรุงเทพที่นำเสนอที่สุดของประสบการณ์การพักผ่อนกับอาหารและเครื่องดื่มชั้นยอด ให้ชาวกรุงเทพได้สัมผัสอยู่เสมอ ในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อันน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น คือการปิดปรับปรุงชั่วคราวของห้องอาหารอิตาเลียน La Scala ที่จะกลับมาพร้อมรูปโฉมใหม่อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งการเปิดให้บริการมื้อเย็นในรูปแบบใหม่ ณ ห้องอาหาร Colonnade เพื่อให้ท่านสามารถแวะเวียนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษที่โรงแรม The Sukhothai Bangkok ได้อย่างต่อเนื่อง
ห้องอาหาร Colonnade นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของคุณภาพของอาหารที่ให้บริการแบบ Buffet โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อสายวันอาทิตย์หรือ Sunday Brunch การเปิดให้บริการมื้อเย็นของ Colonnade ในครั้งนี้ก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน กับคอนเซ็ป “Let Us Entertain You” ที่ผสานอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพสูง พร้อมบริการชั้นเลิศตามมาตรฐานของโรงแรม The Sukhothai Bangkok เข้ากับความบันเทิงสุดพิเศษจาก การสาธิตการทำอาหารโดยทีมเชฟของโรงแรม และ การแสดงมายากลอันน่าตื่นตาตื่นใจ ณ โต๊ะอาหารของท่าน ตลอดมื้ออาหาร ที่ล้วนเป็นส่วนประกอบของช่วงเวลาพักผ่อนสุดพิเศษในทุกเย็นวันทำงานของท่าน ณ ห้องอาหาร Colonnade


Coziness meets elegance
ห้องอาหาร Colonnade เป็นห้องรับประทานอาหารที่อบอุ่นและให้ความรู้สึกผ่อนคลายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนของวันก็ตาม ด้วยการใช้ไม้สีน้ำตาลอ่อนเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง ประกอบกับลักษณะทางสถาปัตยกรรมอันเป็นจุดเด่นของโรงแรม The Sukhothai Bangkok กับเสาสูงที่ตั้งถี่ๆไว้ตลอดแนวเขตของห้องโถง เพดานสูงโปร่ง กับวิวสระน้ำใจกลางโรงแรมที่มีเจดีย์ก่ออิฐแดงจำลองแบบโบราณ ที่ตั้งอยู่เรียงเป็นแนวกลางสระน้ำ ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างบรรยากาศแสนพิเศษที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีกแล้วในกรุงเทพ และเพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานยิ่งขึ้นในช่วงมื้อค่ำ ดนตรีที่เปิดบรรเลงตลอดมื้อจึงเป็นบทเพลงสดๆจาก DJ ที่มาเปิดแผ่นให้จังหวะเร้าใจ สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับห้องอาหาร Colonnade อีกด้วย


Cornucopia
อาหารที่ให้บริการในไลน์บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำของ Colonnade เต็มไปด้วยเมนูอาหารคุณภาพสูงที่น่าสนใจจำนวนมาก ทีมเชฟได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดในทุกๆรายละเอียดมานำเสนอให้ท่านได้ลิ้มลอง แม้กระทั้งเนยที่ใช้ทานคู่กับขนมปังก็ยังเป็นเนยนำเข้าจากฝรั่งเศสแบรนด์ Échiré ซึ่งเป็นเนยชั้นยอดราคาแพงที่หาทานได้ยากในไลน์บุฟเฟ่ต์ทั่วๆไป
เริ่มต้นมื้อค่ำกันด้วยมุมยอดนิยมของนักชิม กับ Seafood on Ice ที่จัดอาหารทะเลหลากชนิด คุณภาพสดใหม่ ชิ้นใหญ่ยักษ์ ทั้ง ขาปูอลาสกา ปูทะเล หอยแมลงภู่ กุ้งทะเล หอยหลอด หอยตลับ และ หอยนางรมสดๆนำเข้าจากยุโรป มาให้ท่านเลือกรับประทาน คู่กับน้ำจิ้มหลากชนิด ทั้ง Cocktail Sauce, Mignonette Sauce และที่ขาดเสียมิได้คือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดแบบไทย
ต่อด้วยอาหารนานาชาติหลากหลายเมนูที่จัดเตรียมไว้ให้ท่านเลือก ตั้งแต่อาหารตะวันตกเช่น สตูแก้มวัวเนื้อนุ่มละลายในปากเสิร์ฟกับมันฝรั่งบด เนื้อหมูย่างบาบีคิว และ อกไก่อบซอสไวน์แบบฝรั่งเศส เป็นต้น ในส่วนของอาหารเอเชีย ก็มีมีเมนูเด็ดให้เลือกหลากหลาย เช่น ปูนิ่มผัดแกงกะหรี่ ต้มข่าไก่ ไปจนถึงเมนูโปรดของนักชิมชาวไทย อย่าง ซูชิ และ ซาชิมิ ที่หั่นและปั้นกันสดใหม่ตามสั่ง รวมทั้งของทานเล่นอย่าง สลัดสาหร่ายญี่ปุ่น และ ลูกปลาหมึกหมักซอสด้วย


นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดจากครัวของห้องอาหารไทย Celadon มาให้ท่านได้เลือกลิ้มลองด้วย ไม่ว่าจะเป็น สลัดเนื้อเป็ดใส่ข้าวคั่ว ยำหลากชนิด และ เนื้อย่างจิ้มแจ่ว เป็นต้น เมนูอาหารเหล่านี้จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเอาเมนูแปลกใหม่มาให้ท่านได้ลิ้มลองอยู่ตลอด
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือ ชีสชั้นดีกว่า 10 ชนิดที่จัดมาให้ท่านได้สัมผัส ตั้งแต่ตัวยอดนิยมอย่าง brie และ camembert ไปจนถึงตัวที่หาทานได้ยากในไทยอย่าง Sainte Maure และ Pouligny Saint-Pierre รวมถึง Cold Cut อีกหลายชนิด พร้อมเครื่องเคียงทั้งผลไม้แห้ง และ ถั่วต่างๆสำหรับรับประทานคู่กัน
Let us entertain you
ตลอดมื้ออาหาร เมื่อท่านได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้น นั่นหมายถึง การแสดงการทำอาหารโดยทีมเชฟกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เชฟแต่ละท่านจะนำเอาอุปกรณ์มาจัดเตรียม ณ บริเวณโต๊ะที่ตั้งอยู่ด้านหน้าไลน์อาหารหลัก ท่านสามารถเดินไปรับชมได้อย่างใกล้ชิด เชฟจะอธิบายขั้นตอนการทำเมนูนั้นๆอย่างละเอียดพร้อมเผยกลเม็ดเคล็ดลับต่างๆที่ท่านอาจเก็บไปใช้ได้ ทุกค่ำคืนจะมีการแสดงการทำอาหาร 3 รอบ คือ เวลา 19:00, 20:00 และ 20:30 น. ซึ่งเมนูอาหารจะแตกต่างกันไปในแต่ละรอบ



ไม่เพียงเท่านั้น ในระหว่างที่ท่านกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการรับประทานอาหารอยู่นั้น นักมายากลที่แฝงตัวอยู่กับพนักงานของห้องอาหาร จะเข้าไปนำเสนอการแสดงมายากลอันน่าตื่นตาตื่นใจแบบใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวที่สุดถึงยังโต๊ะของท่าน จะมีอะไรบ้างนั้นเราขอเชิญท่านไปสัมผัสด้วยตัวเอง
A la carte delights
นอกจากรายการอาหารมายในไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว ยังมีเมนู A La Carte ที่ท่านสามารถสั่งมารับประทานได้ไม่อั้น เชฟจะปรุงทีละจาน สดใหม่ เสิร์ฟถึงโต๊ะของท่าน โดยมีรายการอาหารดังนี้
Seared foie gras
เมนูโปรดของหลายๆท่านกับฟัวกราส์ชิ้นกำลังดี ย่างมาจนผิวเกรียมกรอบ เสิร์ฟกับ balsamic jus และเบอร์รสเปรี้ยวหวาน ทั้งสตอเบอรี่ และ ลูกหม่อน
Hokkaido scallop
หอยเชลชิ้นใหญ่ย่างมาพอสุกชุ่มฉ่ำเนื้อเด้งๆ จัดวางมาในเปลือกหอยชิ้นใหญ่อย่างสวยงาม เสิร์ฟมากับผักโขมผัดกับซอสทรัฟเฟิล ช่วยเสริมรสชาติและกลิ่นหอมให้กับอาหารจานนี้ได้เป็นอย่างดี
Vaccinara short rib
เนื้ออกส่วน short rib ตุ๋นมาจนเนื้อเปื่อยนุ่มนวลละลายในปาก วางมาบน semolina polenta ที่มีรสชาติคล้ายมันฝรั่งบดแต่มีสัมผัสหยาบๆกรุบๆเล็กน้อย เข้ากันได้อย่างดีกับรสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อของชิ้น short rib ที่วางอยู่ด้านบน ปิดท้ายด้วยใบ celery เพิ่มความหอมสดชื่น
Chimichurri lamb chop
Lamb chop ชิ้นโตย่างมาแบบ Medium-Rare วางมาบน puréed ที่ทำจากขิงและแครอท ด้านบนราดมาด้วยซอส chimichurri ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพร เป็นจานย่างที่ลงตัวกลมกล่อมรับประทานได้โดยไม่ต้องคู่กับซอสใดๆ
Argentine beef tenderloin
เนื้อ tenderloin ชิ้นหนาย่างมากำลังดี ตัดออกมาด้านในยังเป็นสีชมพูชุ่มฉ่ำ ราดด้วย red wine jus รสเค็มๆเปรี้ยวๆ เสิร์ฟกับผักย่างและมันฝรั่งอบ
Poached rock lobster
Rock lobster ต้มสุก เสิร์ฟมาแบบครึ่งตัว ราดด้วยซอสมายองเนสรสอ่อนๆที่มีกลิ่นหอมสุดชื่นของสมุนไพรและขิง
Lobster butter Phad Thai
เมนูผัดไทยยอดนิยมจากห้องอาหาร Celadon เป็นการดัดแปลงผัดไทยให้หรูหราพรีเมียมขึ้นด้วยการเอาน้ำมันจากตัว Lobster มาใช้ในการผัด ทำให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวน่ารับประทาน เสิร์ฟมาคู่กับกุ้งแม่น้ำตัวโตย่างสุก ปลีกล้วย และมะนาวสด ให้ท่านบีบลงไปเพิ่มรสเปรี้ยวได้ตามชอบ
Bamboo sword fish
ปลาดาบเนื้อแน่นๆอบมาในกระบอกไม้ไผ่กับสมุนไพรไทยหลากชนิด ทำให้ได้เมนูปลาแบบไทยๆที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพร อีกหนึ่งจานสร้างสรรค์จากห้องอาหารไทย Celadon
Sweet indulgence
ปิดท้ายกันด้วยนานาขนมหวาน หลากรสที่จัดเตรียมไว้ให้ท่านเลือกอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยที่จัดมาในกระทงเล็กๆพอดีคำอย่าง ทองหยอด เม็ดขนุน ทองเอก หรือ บัวลอยน้ำกะทิ ไปจนถึงขนมเค็ก ทาร์ตผลไม้ มาการอง Chocolate Truffles อีกทั้งเมนูยอดนิยมอันขึ้นชื่อของโรงแรม The Sukhothai Bangkok อย่าง Sticky Toffee Pudding, Pavlova และไอศกรีมโฮมเมดหลากรส ไว้ล้างปากเพิ่มความสดชื่น จบมื้ออาหารอย่างสวยงาม



หากท่านเป็นอีกหนึ่งคนที่ติดใจความเยี่ยมยอดของ Sunday Brunch แห่งห้องอาหาร Colonnade หรือกำลังมองหาบุฟเฟ่ต์อาหารเย็นที่เต็มไปด้วยเมนูอาหารชั้นยอด บรรยากาศที่ผ่อนคลาย และความบันเทิงที่จัดเตรียมไว้ต้อนรับท่านตลอดมื้ออาหาร Colonnade Buffet Dinner คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ท่านไม่ควรพลาด และนี่เป็นอีกครั้งที่โรงแรม The Sukhothai Bangkok ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับมื้อเย็นวันทำงาน
Colonnade
Weekday Dinner Experience
The Sukhothai Bangkok
Monday – Friday
From 17:30 – 21:30 hrs.
THB 1,990++ per person
Direct contact call 02 344 8888