เมื่อพูดถึงวัตถุดิบประเภทเนื้อยอดนิยมในร้านอาหาร Fine Dining คงหนีไม่พ้น Wagyu ซึ่งเป็นหนึ่งในเนื้อที่ดีและมีราคาสูงที่สุดชนิดหนึ่ง แต่สำหรับนักชิมผู้ชื่นชอบรสชาติความหอมหวานของเนื้อวัว การได้ใช้เงินไปกับการพิสูจน์รสชาติเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมที่ปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ยิ่งหากเป็นราชาแห่งเนื้อวัวอย่าง วากิว แล้วล่ะก็ หลายท่านคงยอมเทกระเป๋า จับจองที่นั่งเพื่อสัมผัสสวรรค์ของรสชาติเนื้อกันอย่างไม่เสียดาย

คำว่า Wagyu มาจากคำภาษาญี่ปุ่น คือ วะ (和) ที่แปลว่าประเทศญี่ปุ่น และ กิว (牛) ที่แปลว่าวัว ดังนั้น วากิว จึงเป็นเนื้อวัวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ในปัจจุบันมีเนื้อที่นับว่าเป็นวากิวทั้งหมด 4 สายพันธุ์หลัก ทั้งหมดล้วนเป็นวัวที่ให้คุณภาพระดับ World Class ทั้งสิ้น

  1. Japanese Black – พันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ ชาวญี่ปุ่นยกย่องให้เป็นสุดยอดสายพันธุ์อันดับหนึ่งที่ให้เนื้อที่มีชั้นไขมันแทรกอยู่สูงที่สุด ทำให้เนื้อมีความนุ่ม หวานฉ่ำ ละลายในปาก จึงมีราคาสูงตามคุณภาพของรสชาติ
  2. Japanese Brown – พันธุ์ญี่ปุ่นขนน้ำตาล มีอัตราไขมันในเนื้อต่ำกว่า 12% ทำให้ไม่เลี่ยนไขมัน แต่มีความนุ่มและหอมหวานน้อยกว่าพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ คุณภาพและรสชาติพอเหมาะพอควร
  3. Japanese Polled –พันธุ์ญี่ปุ่นไม่มีเขา จุดเด่นคือให้ปริมาณเนื้อได้มากกว่า แต่คุณภาพของเนื้อจะด้อยกว่าพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ และพันธุ์ญี่ปุ่นขนน้ำตาล
  4. Japanese Shorthorn – พันธุ์ญี่ปุ่นเขาสั้น เหมาะสำหรับเลี้ยงในทุ่งทำให้ประหยัดต้นทุนกว่าสายพันธุ์อื่น ให้เนื้อแดง ไข่มันต่ำ มีสัมผัสนุ่ม แต่คุณภาพเนื้อด้อยที่สุดในบรรดา 4 สายพันธุ์

นอกจาก Wagyu หลายท่านคงเคยได้ยิน “โกเบ” “ฮิดะ” และ “มัตสึซากะ” ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “วากิว” ทั้งสิ้น แต่เรียกต่างกันตามแหล่งกำเนิด “โกเบ” มาจากเมืองโกเบ บนเกาะฮอนชู เขตเคนไซ ใกล้โอซากา “ฮิดะ” มาจากโอคุฮิดะ หรือฮิดะทาคายาม่า จังหวัดกิฟุ ขณะที่ “มัตสึซากะ” มาจากเมืองมัตสึซากะอยู่ทางตะวันออกของเมืองโกเบนั่นเอง 

Wagyu

Wagyu เป็นเนื้อที่ได้จากวัวที่มีวิธีการเลี้ยงแตกต่างจากวัวชนิดอื่น ๆ โดยวากิวคุณภาพจะถูกเลี้ยงในบรรยากาศที่เงียบสงบ ภายในโรงเรือนที่อากาศถ่ายเทสะดวก กินอาหารที่มีเส้นใยมาก ๆ เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด กากถั่วเหลือง ฯลฯ เพื่อบำรุงวัวให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องให้ดื่มเบียร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อช่วยในระบบย่อยอาหาร และให้วัวผ่อนคลาย บางที่อาจเลี้ยงด้วยกากองุ่น หรือไวน์ เพื่อให้ได้รสชาติเนื้อที่ฉ่ำหวานและหอมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ วัววากิวจะเชือดเมื่ออายุได้ 3 ปีถึง 3 ปีครึ่ง ต่างจากวัวเนื้อทั่วไปที่จะเชือดกันเมื่อวัวอายุได้ 2 ปี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อให้ได้เนื้อวัวที่มีไขมันแทรกอยู่สูงที่สุด

ด้วยไขมันที่แทรกซึมอยู่ทั่วชิ้นเนื้อดุจโรยด้วยเกล็ดหิมะ บางคนจึงเรียกเนื้อชนิดนี้ว่า “White Beef” เนื่องจากไขมันที่แทรกในชิ้นเนื้อวากิวนั้นโดยปกติแล้วจะมีระดับคะแนน Marbling Score สูงถึงระดับ 6-12 นอกจากนี้ไขมันที่แทรกอยู่นั้นเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมกา-3 และโอเมกา-6 ที่ช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน และโรคหัวใจอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์ต่อร่างกาย

เล่ากันมาถึงตรงนี้อาจมีหลายท่านที่ต้องการจะลิ้มลองรสชาติความอร่อยสุดยอดของเนื้อวากิวกันแล้ว Great Gastro รวบรวม Steak House และห้องอาหารระดับ Fine Dining ชั้นยอดของกรุงเทพฯ ที่นำเสนอเมนูเนื้อวากิวชั้นยอด มาให้ท่านตามไปลิ้มลองกัน โดยสามารถเลื่อนลงไปด้านล่างเพื่อสำรองโต้ะของท่านได้เลยครับ

New York Steakhouse @ JW Marriott Bangkok

Wagyu

Fireplace Grill @ InterContinental Bangkok

Wagyu

Babette’s @ Hotel Muse, Bangkok

Wagyu

PRIME @ Millennium Hilton Bangkok

Wagyu

Scarlett Wine Bar & Restaurant @ Pullman Bangkok Hotel G

Wagyu


Reserve Now





Mr.Ms.Mrs.