Review - Place

Fei Ya – ห้องอาหารจีน ชั้น 3 โรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel ติดรถไฟฟ้า BTS ชิดลม ที่นี่สามารถรองรับลูกค้าได้ 90 ที่นั่ง และมีห้องส่วนตัวสำหรับ 8-10 ท่าน ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงามอีก 4 ห้อง  มีเสน่ห์การตกแต่งแบบจีนร่วมสมัย ซึ่งใช้แรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมของจีนดั้งเดิม มาดัดแปลงและประยุกต์ให้เข้ากับความทันสมัยในปัจจุบัน

[supsystic-slider id=119 position=”center”]
Fei Ya

การตกแต่งของห้องอาหารมีเสน่ห์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความวิจิตรของศิลปะชาวจีน อาทิ ประตูไม้บานใหญ่จำลองมาจากดีไซน์ของศิลปะปักกิ่ง มุมชาจีนโบราณที่จัดแสดงชุดกาน้ำชาพร้อมชาจีนหลากหลาย โคมไฟด้านบนโต๊ะอาหาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของหมวกฟาง ซึ่งคนจีนที่เป็นชาวไร่ชาวนาสวมใส่ สีแดงและสีทองที่นำมาใช้ดีไซน์ห้องอาหาร ยังเป็นตัวแทนของความเป็นศิริมงคลและความยิ่งใหญ่ของประเทศจีนอีกเช่นกัน เรียกได้ว่า ถ้าคุณตบเท้าเข้ามายัง Fei Ya คุณจะพบกับภาพสะท้อนของศิลปะและวัฒนธรรมชาวจีนโบราณ ในสัมผัสใหม่แห่งความหรูหราทันสมัยนั่นเอง

Review - Chef 2

เชฟ เหลียง ซิง ฮอย – เชฟชาวฮ่องกง ผู้มีประสบการณ์การปรุงอาหารจีนกว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นผู้ช่วยเชฟที่โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ต่อมาย้ายไปดำรงตำแหน่งเชฟ ที่ห้องอาหารจีน “Wan Hao” โรงแรม Singapore Marriott Tang Plaza ก่อนที่จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นเชฟใหญ่ ณ ห้องอาหารจีน “Pearl” โรงแรม JW Marriott Hotel Jakarta หลังจากนั้นจึงย้ายเป็นเชฟใหญ่ที่ศูนย์อาหารทะเล    “TungLok”

Chef Leung Shing Hoi_ef
Executive Chef Leung Shing Hoi @ Fei Ya

ปัจจุบันเชฟเหลียง ซิง ฮอย ดำรงตำแหน่งเป็นเชฟใหญ่ที่ห้องอาหารจีน “Fei Ya” โรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel ซึ่งเขาจะดูแลรับผิดชอบงานในครัวทั้งหมด รวมทั้งเรื่องพนักงาน นอกจากนี้เขายังมีหน้าที่คอยสร้างสรรค์เมนูและโปรโมชั่นพิเศษในเทศกาลต่างๆ อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลไหว้พระจันทร์ และเมนูโต๊ะจีนในงานแต่งงานอีกด้วย

Review - Cuisine

ชื่อของห้องอาหาร Fei Ya มาจากภาษาจีนคำว่า “飞鸭” ซึ่งหมายถึงเป็ดที่กำลังโบยบิน สอดคล้องกับเป็ดปักกิ่งสูตรเด็ด ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของห้องอาหารแห่งนี้ เมนูอาหารที่มีให้เลือกทั้งอาหารจีนดั้งเดิมและจากจีนแคว้นต่างๆ ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยฝีมือของเชฟเหลียง ชิง ฮอย ชาวฮ่องกง วันนี้ Where  To Fin จะพาคุณไปชิมเมนูในโปรโมชั่นล่าสุดประจำเดือนธันวาคมนี้ “Sustainable Seafood Festival” และเมนู Signature “เป็ดปักกิ่งเฟยยา” ที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของห้องอาหาร Fei Ya

– Sustainable Seafood Festival – 

Suatainable food เป็นลักษณะของอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบที่เติบโตมาอย่างยั่งยืน ซึ่งเชฟเหลียงเชื่อว่า การใช้วัตถุดิบที่เพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม จะมีคุณภาพดีและรสชาติอร่อยแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ การใช้วัตถุดิบเหล่านี้ ยังสามารถช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีอีกด้วย วันนี้เชฟเหลียง ได้เตรียมอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพเยี่ยมมาปรุงอาหารจีนเลิศรสให้คุณแล้วที่ Fei Ya

หอยนางรมอเมริกานึ่งวุ้นเส้นกระเทียมสไตล์ฮ้องกง (160/ชิ้น)

Fei Ya-56

หอยนางรมอเมริกานึ่งวุ้นเส้นกระเที่ยมสไตล์ฮ่องกง ที่ผัดกับซอสซีอิ้วขาวและขึ้นฉ่าย รสชาติเค็ม เข้มข้นกลมกล่อม หอยนางรมชิ้นอวบโตเนื้อแน่น เคี้ยวได้อย่างเต็มปากเต็มคำทีเดียว

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าตับห่านและหอยเชลล์ (650)

Fei Ya-60

ราดหน้าฟัวกราส์ เห็ดป่า และหอยเชลล์ เสิร์ฟพร้อมผักบุ้งจีนชิ้นโตกรอบอร่อย รสชาติราดหน้าออกเค็มและมีความเปรี้ยวติดมากับเส้นราดหน้า เคล้าความหวานของตัวฟัวกราส์ ให้รสสัมผัสหนุบหนับจากเห็ด หอยเชล์เนื้อแน่นออกรสหวานเฉพาะตัว เป็นรสชาติแบบต้นตำรับจีนกวางตุ้งแท้ๆ ที่มุ่งเน้นให้ผู้รับประทานสัมผัสถึงรสชาติของวัตถุดิบอย่างแท้จริง

ปลาหิมะและมะเขือม่วงอบหม้อดินซอสเอ็กซ์โอ (550)

Fei Ya-54

ปลาหิมะทอดกลิ่นหอมยั่วยวนในซอสเอ็กซ์โอมันๆ หอมกลิ่นหัวหอมและกระเทียม เนื้อปลามีรสหวานเฉพาะตัว ออกรสเผ็ดเล็กน้อยที่ปลายลิ้น  รับรองว่าคุณจะต้องชอบมะเขือม่วงอบ เพราะให้สัมผัสนุ่มลื่น รสชาติกลมกล่อมลงตัว

กุ้งลายเสือยอดซุป เสิร์ฟพร้อมบะหมี่กรอบ (280)

Fei Ya-50

ตัวกุ้งเนื้อแน่นเคี้ยวกรุบกรับ มีความหวานและมีกลิ่นกุ้งชัดเจน รับประทานคู่บะหมี่กรอบจะช่วยเพิ่มสัมผัสที่หลากหลายยิ่งขึ้น เมนูนี้จะมีรสหวานๆเค็มๆ

– Signature Peking Duck –

เป็ดปักกิ่งเฟยยา (1,380)

Fei Ya-32

เป็ดตัวนึงรับประทานได้ประมาณ 20 คำ มีความพิเศษตรงวิธีการอบ ซึ่งใช้ไม้ลิ้นจี่ช่วยเพิ่มความหอม เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงแปลกใหม่ คือ ‘ลิ้นจี่แห้งอบไวน์จีน’ และ ‘กระเทียมสับ’ ทำให้กลิ่นหอมและรสหวานอมเปรี้ยวของลิ้นจี่เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ให้กับเป็ดปักกิ่ง ฮอยซินซอสหวานๆในแผ่นแป้งเหนียวนุ่ม ให้รสชาติกลมกล่อมมากๆ รับประทานคู่กับแตงกวาและต้นหอมเพิ่มความสดชื่นก็ดีไม่แพ้กัน หลังจากเลาะเอาหนังกรุบกรอบออกไปแล้วก็สามารถนำเนื้อเป็ดไปปรุงเป็นเมนูอื่นๆได้อีก โดยเมนูแรกจะปรุงให้ฟรี และเพิ่ม 200 บาท หากต้องการปรุงเป็นเมนูอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้เราได้นำเนื้อเป็ดมาทำ ‘เมี่ยงเป็ดผักสดและเส้นหมี่กรอบ’ กับ ‘เนื้อเป็ดทอดกระเทียม’ นั่นเอง

เมี่ยงเป็ดผักสดและเส้นหมี่กรอบ

Fei Ya-66

เมียงเป็ดเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำ คุณสามารถรับประทานคู่กับกะหล่ำสดกรอบ เมี่ยงเป็ดมีรสชาติจัดจ้าน หวานๆเค็มๆ เผ็ดเล็กน้อย เป็นอีกเมนูที่ถูกปากคนไทยหลายคนอย่างแน่นอน

เนื้อเป็ดทอดกระเทียม

Fei Ya-69

เนื้อเป็ดทอดสุก เสิร์ฟร้อนๆพร้อมกลิ่นหอมของกระเทียมทอดให้รสชาติออกเค็มตามลักษณะการทอดกระเทียม แต่จะมีความพิเศษตรงที่ เชฟทอดเป็ดได้เนื้อแน่นกรอบกำลังดี ไม่นิ่มไปหรือแข็งไป เป็นอีกเมนูที่น่าลิ้มลอง

– Dessert –

เยลลี่ตะไคร้วุ้นว่านหางจรเข้ซอสมะนาว (180)

Fei Ya-75

ของหวานสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เยลลี่ตะไคร้หอมสดชื่น เคล้าวุ้นว่านหางหอมหวาน ในซอสมะนาวเปรี้ยวๆ เป็นเมนูโปรดที่ลูกค้าหลายคนชอบรับประทาน

พุดดิ้งมะม่วงไอศกรีมมะพร้าวหน้าส้มโอและลิ้นจี่ (150)

Fei Ya-72

ปิดท้ายด้วยพุดดิ้งมะม่วงเนื้อนุ่มหอมหวาน ท็อปด้วยไอศกรีมมะพร้าว โรยหน้าด้วยส้มโอเปรี้ยวๆ และเนื้อลิ้นจี่หวานๆ ในมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบนี้นั่นเอง

เห็นอย่างนี้แล้ว… คนที่ตามอ่าน Review ของ Where To Fin คงรู้สึกอยากหาโอกาสมาลิ้มรสอาหารจีนที่นี่ดูบ้างแน่ๆ

[supsystic-slider id=120 position=”center”]
Gallary

Fei Ya 

ห้องอาหารจีน Fei Ya เปิดให้บริการทุกวัน

มื้อกลางวัน: 11.30 – 14.30 hrs.
มื้อค่ำ: 18.00 – 23.00 hrs.


 Map

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมจองโต๊ะกับ Where To Fin โทร 02 254 9005


 [supsystic-slider id=28 ]