ท่านที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบ Fine dining คงจะคุ้นหน้าค่าตา เชฟ ธิติสรณ์ อมตะสินธ์ หรือ “เชฟ บิ๊ก” Executive Chef แห่งโรงแรม The Sukhothai Bangkok ได้เป็นอย่างดี ไม่บ่อยนักที่เราจะได้พบเชฟหนุ่มชาวไทยหัวใจอินเตอร์ที่ประสบความสำเร็จในวงการ Fine dining ถึงขนาดได้ครองตำแหน่ง Executive chef ประจำโรงแรม 5 ดาวตั้งแต่อายุยังน้อย หลายท่านที่เคยติดอกติดใจในรสชาติอาหารของโรงแรมสุโขทัย คงจะอยากทำความรู้จักกับชายผู้อยู่เบื่องหลังความสำเร็จเหล่านี้ ที่ผันตัวเองจากการเป็นนักเรียนบริหารมาเป็นเชฟด้านอาหารตะวันตก บทบาทและมุมมองของชายผู้มีใจรักในการทำอาหารผู้นี้จะเป็นเช่นไร วันนี้ Great Gastro จะพาไปหาคำตอบกับ Exclusive Interview Executive Chef แห่งโรงแรม The Sukhothai Bangkok

The Sukhothai Bangkok

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำอาหารคือ ความรัก รักที่จะค้นหาไม่หยุดนิ่ง รักที่จะนำเสนอความรู้ และรักที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แขกและเพื่อนร่วมงาน ถ้ามีความรักเราก็จะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและสม่ำเสมอ วันแรกที่จับมีดเข้าครัวเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นเป็นอย่างนั้น” เชฟบิ๊กเริ่มต้นเล่าที่มา

The Sukhothai Bangkok

หลังจากเริ่มต้นเรียนทำอาหารและเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำอาหารตะวันตกที่ออสเตรเลีย เชฟบิ๊กเริ่มต้นเส้นทางสายพ่อครัวมืออาชีพด้วยโอกาสการเข้าทำงานที่ห้องอาหาร Le Normandie โรงแรม Mandarin Oriental Bangkok ซึ่งเขาได้ฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์การทำงานกับเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแสดงฝีมือการทำอาหาร ณ ห้องอาหารแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

”ผมเริ่มจากการเป็นลูกมือช่วยเตรียมอาหาร ไปจนถึงคอยดูแลทุกขั้นตอนการทำ ทำให้ผมมีประสบการณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารอิตาเลี่ยน ฝรั่งเศส และอาหารตะวันตกอื่นๆ โดยรวมแล้วผมขอเรียกตัวเองว่าเป็นเชฟอาหารฝรั่ง ไม่เน้นแนว fusion แต่เป็น European cuisine ที่นำรสชาติต้นตำหรับมาปรับให้เหมาะกับรสปากคนไทยสมัยใหม่” ก่อนจะได้รับโอกาสมารับผิดชอบงานครัวที่โรงแรม The Sukhothai Bangkok เชฟบิ้กยังมีโอกาสฝึกฝีมือกับห้องอาหารชั้นนำในเครือ Shangri-la ทั้งในไทยและในต่างประเทศมาแล้วหลายปี จนสามารถผสานศาสตร์การปรุงอาหารหลากหลายให้ได้มาซึ่งเมนูอาหารที่ถูกปากและถูกใจแขกมากที่สุด

The Sukhothai Bangkok

“ลูกค้าสมัยนี้มักคาดหวังอะไรแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ถึงกับหลุดกรอบ เช่น ถ้าสั่งสปาเกตตี้คาโบนาร่า ก็หวังว่าจะเจออาหาร cream based สั่งสเต็ก ก็อยากได้เนื้อชิ้นใหญ่ ดังนั้นที่เปลี่ยนไปคือการนำเสนอ ต้องออกมาให้ดูดี แปลกตา แต่คุ้มค่า ประกอบกับว่าช่วงนี้วงการอาหารเริ่มตื่นตัวเรื่องเทรนด์เพื่อสุขภาพกันมากขึ้น เราจะหาหูฉลามทานได้น้อยลง แต่พบพืชผักตามฤดูกาลมากขึ้น อาหารที่เป็นครีมเนยลดลง มีเมนูที่ใข่ olive oil เพิ่มมาแทน ในขณะที่ไลน์ บุฟเฟต์จะเริ่มขยับมาเป็น made by order หรือ เสิร์ฟจานเล็ก แทนที่จะผลิตทิ้งไว้ที่ละมากๆ นี่คือสิ่งที่แขกจะได้พบเมื่อมารับประทานอาหารกับเรา”  

The Sukhothai Bangkok

หลังจากประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ เชฟเล่าให้เราฟังถึงประสบการณ์การเป็นเชฟคนไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ร่วมงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับเชฟระดับโลกอย่างใกล้ชิด “respect คือหัวใจสำคัญของการทำงานกับชาวต่างชาติ ถ้าเรา respect เขา เขาก็จะ respect เรา ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็น nature ของคนไทยอยู่แล้ว บางครั้งการที่เรามีความคิดไม่ตรงกันแต่รู้จักประนีประนอมกันก็นำไปสู่ผลลัพธิ์ที่ดีอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าชนชาติไหน แต่ถ้ามีใจรักในการทำอาหารก็สามารถสื่อสารกันเข้าใจได้“

 The Sukhothai Bangkok

“เชฟชาวต่างชาติมีหลายประเภท เชฟมิชลิน สตาร์ หรือ โปรโมชั่นเชฟ บางคนมาเพื่อสอน เขาอาจจะดุ เข้มงวด หรือจู้จี้ไปบ้าง บางคนมาเพื่อแสดงฝีมือ นำอาหารที่ปรุงในประเทศเขามาเสนอให้ลูกค้าชาวไทยในระดับที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตัวเราและลูกทีมก็ได้ประสบการณ์ทั้งนั้น หลังๆ มานี้เราโฟกัสไปที่เชฟมิชลิน สตาร์ ระดับ 3 ดาวขึ้นไป เพื่อให้ลูกทีมของเราก็ได้เรียนรู้วิธีทำงานกับเชฟมืออาชีพ ในขณะที่แขกก็ได้ลิ้มรสอาหารระดับ world class เป็นการตอบแทนซึ่งกันและกัน” เชฟเสริม

 The Sukhothai Bangkok

ด้วยการทำงานแบบมืออาชีพที่เปิดกว้างทางความคิดโดยไม่ยึดติดกับระบบอาวุโส เชฟและลูกทีมมีโอกาสพบปะและนำเสนอแนวคิดได้อย่างใกล้ชิด ทำให้ความคิดของทุกคนมีส่วนช่วยให้ห้องอาหารของโรงแรมสุโขทัยมีความโดดเด่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ทั้งท้างด้านรสชาติและการนำเสนอที่ผสมผสานแนวคิดหลากหลายเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารคุณภาพเยี่ยมจากวัตถุดิบชั้นยอดจากทั้งในปละต่างประเทศ “ถ้าแขก Happy เราก็ Happy” เชฟบิ๊กกล่าวทิ้งทาย

 The Sukhothai Bangkok

ก่อนจะจากกันไป เราได้ถามทิ้งท้ายถึงความชอบส่วนตัวของเชฟ สำหรับชายที่อยู่ท่ามกลางอาหารหลากหลาย ถ้าต้องรับประทานอาหารชนิดเดียวไปตลอดชีวิต เชฟบิ๊กจะเลือกอะไร?

“ผมชอบ seafood นะ แต่ถ้าให้เลือกได้อย่างเดียวคงเป็น ปลา เพราะนอกจากจะให้โปรตีนแล้วยังมีสารอาหาร ปลาที่สดอยู่แล้วแทบไม่ต้องปรุงอะไรก็อร่อย แต่ถ้าจะปรุง ก็นำมาจับคู่ได้หลากหลาย พวกเนื้อออกจะหนักไปหน่อย ผมว่าถ้ากินปลามากๆ น่าจะดีต่อสุขภาพและทำให้ผมอยู่ได้นานกว่าคนอื่นๆ ด้วย จะได้ทำอาหารออกมาให้ทุกท่านได้ทานกันนานๆ ”

The Sukhothai Bangkok


The Sukhothai Bangkok

Colonnade (International Buffet)

Lunch Buffet : 12:00 – 14:30 hrs.  / Sunday Brunch : 12:00 – 15:00 hrs.

La Scala (Italian Restaurant)

Lunch : 12:00 – 14:30 hrs. / Dinner : 18:30 – 23:00 hrs.

Celadon (Thai Restaurant)

Lunch : 12:00 – 15:00 hrs. / Dinner : 18:30 – 23:00 hrs.

More information or request Reservation 

Call : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro 

Map

Reserve Now





Mr.Ms.Mrs.