Medici Kitchen & Bar : The Authentic Italian Experience

ร้านอาหารอิตาเลียนเป็นร้านอาหารที่มีจำนวนมากที่สุดติดอันดับต้นๆของกรุงเทพ เนื่องด้วยอาหารอิตาเลียนมีรสชาติจัดจ้านถูกปากอีกทั้งมีธรรมเนียมการรับประทานที่เรียบง่าย จึงกลายเป็นที่นิยมของคนไทยมากที่สุด ร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพจึงมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งในเรื่องของรูปแบบอาหาร โปรโมชั่น และรายการพิเศษต่างๆ เพื่อแย่งชิงความนิยมและมัดใจชาวกรุงเอาไว้ให้ได้ หนึ่งในร้านที่โดดเด่น เป็นที่นิยมและกล่าวขวัญถึงจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งได้รับรางวัลเป็นเครื่องการันตีความยอดเยี่ยมมากมาย คือ ร้านที่ Great Gastro จะพาท่านไปสัมผัสกันในวันนี้ Medici Kitchen & Bar

Medici Kitchen & Bar ตั้งอยู่บริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรม Hotel Muse Bangkok ย่านหลังสวน หนึ่งในโรงแรมที่มีรูปแบบการตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ด้วยคอนเซ็ปต์การนำเอาความสง่างามของอดีตซึ่งเกิดจากการผสมผสานความหรูหราสวยงามแบบยุโรปยุคเก่าเข้ากับความวิจิตรบรรจงและนำสมัยของแผ่นดินสยามสมัยรัชกาลที่ 5

ตัวห้องอาหาร Medici Kitchen and Bar เองก็ได้นำเอาความสง่างามของอดีตกลับมาให้ท่านสัมผัสเช่นเดียวกัน โดยเลือกนำเอาเสน่ห์ของมหานคร New York ในช่วงปี ค.ศ. 1870s ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอิตาลีอพยพย้ายถิ่นเข้าไปตั้งรกรากในอเมริกา โดยนำเอาศิลปะวัฒนธรรมเข้าไปด้วย จึงเกิดรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานของความหรูหราคลาสสิคแบบยุโรปเข้ากับความนำสมัยในแบบ Industrial style ของอเมริกา

ดังจะเห็นได้จากการเลือกใช้วัสดุดั้งเดิมมาตกแต่งเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น พื้นและโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มที่ปูแบบหยาบๆ โครงเหล็กดัดสีดำซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงหลังคาของสถานีรถไฟสมัยเก่าของอเมริกา ฝาผนังประดับด้วยถังไม้โอ๊คทั้งแบบไม้และแบบโครงเหล็กวางสลับกันอยู่บนชั้นวางซึ่งเป็นงานศิลปะที่สะท้อนสไตล์การตกแต่งแบบ Neo Industrial ของห้องอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีภาพวาดแบบยุโรปที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิควางพิงฝาผนังเอาไว้ทั่วบริเวณ ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศที่หรูหราสวยงาม แฝงความลึกลับน่าค้นหา และ ยังดูอบอุ่น สัมผัสได้ง่าย ไปพร้อมกันด้วย

ในส่วนของอาหารได้รับการดูแลโดย Chef Nicolino Lalla เชฟชาวอิตาลี ผู้มีความสนใจในศาสตร์การประกอบอาหารตั้งแต่ยังเด็ก เขาได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าจากครอบครัวคือคุณแม่และคุณย่าของเขาเอง ซึ่งเป็นผู้แนะนำสั่งสอนเขาในการทำอาหารตั้งแต่ยังเล็ก Chef Nicolino เริ่มต้นทำอาหารตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ ก่อนจะเริ่มเข้าเรียนในสถาบันด้านการบริหารโรงแรมและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของอิตาลีเมื่ออายุ 15 ปี และเริ่มต้นอาชีพพ่อครัวอย่างจริงจังเรื่อยมา เขาสั่งสมประสบการณ์การทำครัวมาแล้วทั่วโลก ทั้งใน อิตาลี หลายเมืองในยุโรป และสหรัฐอเมริกา

เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็น Chef ในไทย เมื่อมีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Pre-Opening ทีมแห่งร้านอาหาร Opus Wine Bar & Restaurant ในกรุงเทพ ก่อนจะได้รับโอกาสไปดูแลร้านอาหารอิตาเลียนในโรงแรม 5 ดาวริมหาดส่วนตัวบนเกาะภูเก็ต และย้ายกลับมาประจำ ณ Medici Kitchen and Bar แห่ง Hotel Muse Bangkok จนถึงปัจจุบัน

Chef Nicolino ยึดมั่นในรูปแบบการทำอาหารแบบ Authentic Italian ที่มุ่งรักษารูปแบบต้นตำรับของอาหารและรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบเอาไว้ โดยสไตล์ที่เขามีความเชี่ยวชาญมากที่สุดคือ Abruzzese cuisine ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารอิตาเลียนที่มีรสชาติหนักแน่น สดใหม่ และชัดเจน อันเป็นรูปแบบการทำอาหารอิตาเลียนที่สืบทอดกันมาในตอนกลางของอิตาลีอันเป็นท้องถิ่นบ้านเกิดของเขาเอง เขาเชื่อว่า “ Fusion is Confusion ” โดยเฉพาะกับร้านอาหารอิตาเลียนที่อยู่นอกประเทศอิตาลี จากประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารอิตาลีทั่วโลก ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า คนส่วนใหญ่เลือกมาทานอาหารที่ร้านอาหารอิตาลีเพราะเขากำลังมองหารสชาติดั้งเดิมแบบอิตาลีแท้ๆ ไม่ใช่ Fusion Italian ดังเช่นเมนูอาหารที่เตรียมไว้ให้ท่านได้ลิ้มลอง ณ Medici Kitchen & Bar

เขาเลือกนำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Homemade Pasta ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่สืบทอดมาจากคุณแม่และเป็นเมนูที่เขาชื่นชอบมากที่สุด เมนูหลักที่มีให้บริการเป็นประจำจะเป็นอาหารอิตาเลียนยอดนิยมจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอิตาลี อีกทั้งนำเอาเมนูอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิมที่หารับประทานได้ยากแล้วในปัจจุบันกลับมาให้ท่านได้มีโอกาสลิ้มลอง ณ ห้องอาหาร Medici แห่งนี้ด้วย

รสชาติอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ ฝีมือ Chef Nicolino แห่งห้องอาหาร Medici จะเป็นอย่างไรนั้น Great Gastro ได้ไปสัมผัสและลิ้มลองมาดังนี้

Crudo di gambero rosso con Insalatina di asparagi di mare e pomodorini

Raw Mediterranean red prawn with sea asparagus and cherry tomato salad

เมนูแรกเริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งนำเสนอรสชาติดั้งเดิมของ Mediterranean Red Prawn หรือ กุ้งสีแดงแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ที่เนื้อสดๆของมันมีความหวานอยุ่ในตัว เนื้อสัมผัสแน่นชุ่มฉ่ำยิ่งกว่าเนื้อ Lobster เป็นวัตถุดิบระดับ Premium ของยุโรปที่ Chef Nicolino อยากให้ชาวกรุงเทพได้ทำความรู้จักและลิ้มลองรสชาติ เสิร์ฟมาพร้อมสลัด Sea Asparagus หรือ Saliconia กับมะเขือเทศเชอร์รี่ ที่ให้สัมผัสกรุบกรอบสดชื่นพร้อมรสเปรี้ยวอมหวานจากเนื้อมะเขือเทศฉ่ำๆ ในเดรซซิ่งที่ทำจากน้ำมันมะกอกหอมมัน จัดวางตกแต่งมาในจานอย่างสวยงามในสไตล์ Modern Cuisine เป็นเมนูที่สะท้อนเอกลักษณ์การปรุงอาหารของ Chef Nicolino ได้อย่างชัดเจน

Risotto al Prosecco, rosmarino e tarufo nero, con vellutata di asparagi e merluzzo grigliato

Rosemary risotto, Prosecco and black truffle with asparagus veloute and roast snow fish

เมนู Risotto นั้นเป็นอาหารที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป แต่ว่ากันว่าถ้าอยากทานให้อร่อยต้องปรุงโดยฝีมือเชฟอาหารอิตาเลียนแท้ๆ Chef Nicolino นำเสนอ Risotto ในแบบดั้งเดิมของ Tuscany ที่เนื้อเหนียวข้น ตัวเมล็ดข้าวสุกกำลังดีไม่เละ ทั้งยังให้สัมผัสกรุบกรอบเล็กน้อย มีการใส่ Rosemary ลงไปเพิ่มกลิ่นหอมพิเศษ ราดตัวซอส veloute ซึ่งเป็น White Source แบบข้นทำจากส่วนผสมที่ล้วนมีกลิ่นหอมโดดเด่นเฉพาะตัวคือ Black Truffle, Asparagus และสปาร์คกิ้งไวน์อย่าง Prosecco ปิดท้ายด้วย Snow Fish ชิ้นใหญ่หนานุ่ม ทอดในน้ำมันมะกอกด้วยไฟอุ่นๆจนสุกทั่วทั้งชิ้น รสออกหวานอ่อนๆหอมมันเนื้อนุ่มเนียนละลายในปาก เป็นเมนูที่ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติต้นตำรับของ Risotto แบบ Tuscany ได้อย่างชัดเจนและน่าประทับใจ

Spigola con guazzetto di verdurine

Pan fried sea bass fillet with julienne vegetable, white wine, light tomato sauce & Mediterranean herbs

จานหลักในวันนี้เป็นเนื้อปลา Sea Bass ชิ้นใหญ่ ที่ทอดมาในน้ำมันมะกอกจนสุกหอม หนังกรอบเกรียมเป็นสีน้ำตาล เนื้อปลานุ่มแน่นมีน้ำมันมะกอกกลิ่นหอมพิเศษแทรกอยู่ในตัวชิ้นปลาจนทั่ว วางมาบนสลัดผัก julienne ซึ่งเป็นสลัดผักแบบยุโรปที่ทำขึ้นโดยการนำผักสดมาหั่นเป็นเส้นยาวๆเท่าๆกัน ราดซอสที่ทำจากไวน์ขาว มะเขือเทศและเสริมกลิ่นหอมด้วยสมุนไพรแถบเมดิเตอร์เรเนียน รสออกเปรี้ยวๆมันๆเข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาที่ออกรสเค็มอ่อนๆ แต่มีกลิ่นหอมน่ารับประทานจากการผสมผสานกันของส่วนผสมต่างๆในจาน พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการเสิร์ฟมาในจาน Versace ที่มีตราสัญลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นอิตาเลียนชั้นสูงนี้ประทับอยู่ตรงกลางจาน นับเป็น Main Course ที่นำเสนอความหรูหราคลาสสิคของอิตาลีได้อย่างครบถ้วนในทุกๆสัมผัส

Cannoli sicilliani

Sicillian style cannoli shell filled with ricotta cheese & chocolate chips

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ซึ่งเป็น Cannoli ขนมหวานพื้นเมืองของอิตาลี โดยเมนูนี้ Chef Nicolino นำเสนอในสไตล์ Siciliani ที่เป็นแป้งทอดพันเป็นรูปทรงกรวย เนื้อหนากรอบรสชาติคล้ายๆแป้งโรตีกรอบหรือครองแครงแบบไม่เคลือบน้ำตาล สอดไส้ครีมชีสรสหวานมันที่ทำจาก Ricotta Cheese อันมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และ เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วย Chocolate Chips ด้านนอกโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งเพิ่มความหวาน มีซอสวานิลลาเสิร์ฟมาคู่กันสำหรับใช้เป็นซอสจิ้มเพิ่มความหวาน

นอกจากอาหารอิตาเลียนสูตรต้นตำรับในแบบของ Chef Nicolino แล้ว Medici ยังมี Wine Cellar ที่เก็บไวน์อิตาลีชั้นดีไว้ให้ท่านเลือกทานคู่กับอาหารจานโปรดจำนวนมาก และ บาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการกาแฟอิตาลีชั้นยอดอย่าง Illy และ Cocktails สูตรเฉพาะของ Medici โดยในวันนี้เราได้ลิ้มลองเมนูเครื่องดื่มที่สะท้อนความหรูหราของอิตาลีอย่าง “Venecian” เครื่องดื่ม Cocktail ที่เบสด้วย Vodka มีรสออกเปรี้ยวที่ได้จาก Lemoncello ซึ่งเป็นสุราอิตาลีที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของเลมอนสด เพิ่มความหวานอมเปรี้ยวด้วย grapefruit juice และความหอมสดชื่นของใบมิ้นท์ลงไป

ความพิเศษของ Medici Kitchen & Bar ยังรวมถึง การแสดง Live Opera คอยขับกล่อมท่านทุกค่ำคืนในระหว่างรื่นรมย์กับเมนูอาหารและเครื่องดื่มชั้นยอดโดย Chef Nicolino Lalla ซึ่งนอกจากเมนูอาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมที่มีให้บริการเป็นประจำแล้ว ยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่นำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆจากวัตถุดิบชั้นยอดตามฤดูกาล ให้ท่านได้หวนกลับไปเยือน Medici เพื่อสัมผัสและลิ้มลองอยู่เสมอ

หากท่านกำลังมองหาร้านอาหารที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารอิตาเลียนที่สมบูรณ์พร้อมทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการมองเห็น ห้องอาหาร Medici Kitchen & Bar ย่อมเป็นเป้าหมายที่ท่านกำลังมองหาอยู่อย่างแน่นอน