Brasserie Europa

Siam Kempinski Hotel Bangkok

Brasserie

หากคุณกำลังเดินช็อปปิ้งอยู่แถวๆ สยาม แล้วเกิดอยากพักรับประทานอาหาร ในบรรยากาศสงบๆ หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองล่ะก็ Where To Fin ขอแนะนำให้คุณเดินไปด้านหลังของ Siam Paragon เดินข้ามฝั่งไปยังโรงแรม Siam Kempinski คุณจะพบกับห้องอาหาร Brasserie Europa ห้องอาหารที่รวบรวมอาหารจานเด่นของทวีปยุโรปเอามาไว้ในที่เดียว วันนี้เราจะพาไปดูว่าที่นี่มีอะไรหน้าลองบ้าง

Place2

ห้องอาหาร Brasserie Europa ตั้งอยู่ในโรงแรม Siam Kempinski Bangkok ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้มีรูปแบบเป็น “รีสอร์ทใจกลางเมือง” ประดับตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ที่มีลวดลายงดงามปรากฏให้เห็นอยู่ทุกมุม ตัวห้องอาหาร Brasserie Europa ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ถูกออกแบบให้มีบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย มีโต๊ะให้คุณเลือกนั่งทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ซึ่งล้อมรอบด้วยสวนขนาดใหญ่และสระน้ำ บริเวณด้านในออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่งสบาย พร้อมกระจกสูงจรดเพดานที่เปิดรับแสงด้านนอก และเผยให้เห็นวิวสวนสวยของโรงแรม ภายในห้องอาหารยังโดดเด่นด้วยครัวแบบเปิดที่ให้คุณสามารถชมวิธีการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันของเชฟได้อีกด้วย

[supsystic-slider id=107 position=”center”]


 Brasserie Europa Chef

Chef Carlo Valenziano เชฟหนุ่มหล่อชาวอิตาเลียน เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่รักและชื่นชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ เขาเรียนรู้การปรุงอาหารจากคุณย่าผู้มีพรสวรรค์และรักในการทำอาหารแม้จะไม่เคยทำงานในวงการอาหารเลยก็ตาม เขาเริ่มก้าวเข้าสู่วงการอาหารอย่างเต็มตัวตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี และได้สั่งสมประสบการณ์การทำอาหาร จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับร้านอาหารระดับ Michelin Star ชื่อ Il Luogo di Aimo e Nadia ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี  อีกทั้งเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับร้านอาหารในประเทศเยอรมนี รัสเซีย ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะย้ายมาทำงานที่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2555 และเริ่มงานกับโรงแรม Siam Kempinski Bangkok เมื้อปี พ.ศ. 2558 นี้นั่นเอง

Brasserie Europa Chef 1

 Executive Sous Chef Carlo Valenziano at Brasserie Europa

เอกลักษณ์ในการทำอาหารของ Chef Carlo Valenziano คือการใส่ใจและพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เลือกใช้แต่วัตถุดิบที่สดใหม่และดีที่สุด เพราะเขาเชื่อว่าอาหารที่อร่อยต้องปรุงจากวัตถุดิบชั้นดี ซึ่งแต่ละเมนูจะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารปรุงแต่งรสชาติ และเลี่ยงที่จะนำอาหารไปผ่านความร้อนเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้อาหารสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ และยังสูญเสียรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบแต่ละตัวอีกด้วย นี่คือเอกลักษณ์การทำอาหารสไตล์โฮมเมดในแบบยุโรปของเขานั่นเอง

Chef Carlo Valenziano

Chef Carlo Valenziano

 Brasserie Europa Cuisine

ห้องอาหาร Brasserie Europa นำเสนอเมนูเด่นจากประเทศต่างๆในทวีปยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมันนี ออสเตรีย อิตาลี และอื่นๆ มาปรุงอย่างพิถีพิถัน ตามหัวใจหลักของการปรุงอาหารสไตล์ Brasserie แบบยุโรป นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้ง ม็อกเทล ค็อกเทล เบียร์ และไวน์ต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมรสชาติให้กับอาหารแต่ละจาน วันนี้เราจะนำคุณไปสัมผัสเมนูเด็ดสำหรับมื้อค่ำของ Brasserie Europa กัน มาดูว่าแต่ละเมนูนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร

– Appetizer –

“Foie Gras”

Pan-seared foie gras, pineapple coffee jam, sea salt from Maldon, Dutch pumpernickel granola

Brasserie Europa-53

เมนูฟัวกราส์ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใสน่ารับประทาน กลิ่นฟัวกราส์และเมล็ดฟังทองคั่วบดละเอียดหอมแตะจมูก ฟัวกราส์เนื้อแน่นรสหวานตัดกับรสเค็มจากเกลือที่โรยอยุ่ด้านบน เสริมรสชาติด้วยแยมสับปะรดที่ให้ความหวานสดชื่นแบบผลไม้ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากกาแฟคั่ว เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ครบรสและสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ

“Porcini Mushroom Casserole”

Slow – poached free-range egg, wild porcini mushroom, black truffle hollandaise

Brasserie Europa-71

เมนูที่โดดเด่นด้วยเห็ดพอร์ชินี่ชิ้นโต และซอสฮอลแลนด์เดซรสเปรี้ยวที่ผสมกลิ่นหอมของเห็ดทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมไข่ลวกที่ใช้ไข่จากไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อย (free-range organic egg) ตามรูปแบบของอาหารแบบ slow food ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวัฒนธรรมการปรุงอาหารสมัยใหม่ เมื่อรับประทานรวมกันจะมีรสชาติหวานมันแบบยุโรปแท้ๆ เสิร์ฟบนภาชนะแก้วใสที่ใส่ควันจากเตาถ่านไม้เข้าไปด้านใต้ และประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใส ให้ความรู้สึกเหมือนก่อกองไฟอยู่ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้และเห็ดรสเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยที่น่าสนใจมากทีเดียว

– Soup –

“Cream of Pumpkin”

Parsley, thyme and a tiny hint of spice

Brasserie Europa-87

ซุปฟักทอง เสิร์ฟพร้อมฟองนม โรยหน้าด้วยเมล็ดฟักทอง ครีมซุปฟักทองรสเค็มตามแบบยุโรปเนื้อครีมข้นแต่นุ่มละมุนลิ้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆของฟักทองผสมกับกลิ่นพาร์สลีย์และไทม์ที่เป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมในตำหรับอาหารยุโรป

– Main –

“Loup de Mer – Seabass”

Seabass fillet, zucchini caviar and Latin quinoa, saffron fish reduction

Brasserie Europa-115

จานหลักวันนี้เป็นปลากระพงขาวทอดจนหนังกรอบ วางบน latin quinoa ราดด้วยซอสสีแดงข้นที่ทำจากปลาทรายแดง เสริมรสชาติด้วยซอสสีเขียวที่ทำจากจาก zucchini caviar ปั่นละเอียด ตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม ปลากระพงขาวชิ้นโตหนานุ่มหนังกรอบกลิ่นหอมอบอวลแทรกอยู่ในเนื้อ ซอสปลาเข้มข้นรสออกเค็ม เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วย latin quinoa เป็นเมนูที่มีสีสันหลากหลายทั้งในด้านของ รสชาติ รสสัมผัส และการตกแต่ง แนะนำให้ทานคู่กับ “Siam Kempinski Private Selection Chardonnay” ไวน์ขาวชั้นดีภายใต้แบรนด์ของ Siam Kempinski เอง

– Dessert –

“Triple Chocolate 66%”

Fresh fruits and hand-picked berries, biscuit shards, fresh passion sorbet

Brasserie Europa-135

ช็อกโกแลตเข้มข้นที่มาในรูปแบบของเค้กทานคู่กับแผ่นคาราเมลเคลือบถั่วรสหวานหอม ตัดกับเชอร์เบทเสาวรสเปรี้ยวๆ เสริมความสดชื่นด้วยมะม่วง และเบอร์รี่นานาชนิด

“Caramelised Bananas”

Banana done two-ways, cheesecake, homemade chocolate icecream

Brasserie Europa-131

กล้วยหักมุกปิ้งเสิร์ฟพร้อมชีสเค้กคาราเมล และไอศครีมช็อกโกแลตรสนุ่ม ประดับด้วยแผ่นช็อกโกแลตสีทอง เสริมความสดชื่นด้วยมะม่วงและเบอร์รี่นานาชนิด เป็นการผสมผสานของรสชาติแบบตะวันตกและตะวันออกที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี

– Wine –

“Siam Kempinski Private Selection Chardonnay”

Brasserie Europa-27

ไวน์ขาวจากทวีปแอฟริกาใต้ มีจำหน่าย และให้บริการเฉพาะที่โรงแรม Siam Kempinski Bangkok แห่งเดียวเท่านั้น หมักจากองุ่นพันธ์ุ Chardonnay 100% คาแรคเตอร์ของไวน์ตัวนี้จะให้กลิ่นหอมสดชื่นของสับปะรด และผลไม้เขตร้อนชนิดอื่นๆ นอกจากนั้น ไร่องุ่นที่ใช้หมักไวน์ชนิดนี้ยังอยู่ใกล้กับทะเล ทำให้ได้กลิ่นจางๆคล้ายกลิ่นเกลือทะเลอีกด้วย เหมาะดื่มคู่กับเมนูปลา อาหารทะเล และอาหารเอเชีย ด้วยรสชาติที่ไม่หนักจนเกินไป บวกกับกลิ่นหอมสดชื่น จึงทำให้ดื่มง่าย และสามารถดื่มเพื่อความเพลิดเพลินในทุกโอกาสด้วยเช่นกัน

– Signature Drink –

“Lady in Red”

Brasserie Europa-33

แอบกระซิบว่าชื่อเมนูเครื่องดื่มนี้ มาจากชื่อตำแหน่ง ‘Lady in Red’ คือ สาวชุดแดง ผู้เป็นเสมือน Brand Ambassador ของโรงแรม Kempinski ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ  ผ่านการทดสอบและฝึกฝนให้สามารถดูแล และให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ด้วยแรงบันดาลใจจาก Lady in Red กลายมาเป็นชาราสเบอร์รี่หอมๆ ผสมกับน้ำมะนาวและโซดา ดื่มแล้วสดชื่น เหมือนความกระปรี้กระเปร่าและความสดใสของ Lady in Red นั่นเอง

“Passion Lychee”

Brasserie Europa-31

น้ำเสาวรสเข้มข้นเปรี้ยวจี๊ด มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากลิ้นจี่ เนื้อลิ้นจี่ชุ่มฉ่ำหวานอร่อย เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่นให้แก่คุณได้แน่นอน


นอกจากเมนูอาหารยุโรปที่ให้บริการแบบ A La Carte แล้วที่นี่ยังเปิดสำหรับอาหารเช้าแบบ Buffet เป็นประจำทุกวัน เวลา 6.30 – 11.30 น. และ อาหารกลางวันแบบ International Buffet ซึ่งเปิดให้บริการในวัน จันทร์ – เสาร์ เวลา 12.00 – 15.00 น. และพิเศษสุดกับมื้อสายวันอาทิตย์ที่เรียกได้ว่าเป็น Sunday Longest Brunch โดยเปิดให้บริการยาวตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. พร้อมบุฟเฟ่ต์อาหารชั้นยอดนานาชนิด และเมนูอาหารยุโรปแบบ A La Carte รับประทานได้ไม่อั้น

เห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังตามอ่าน Exclusive Review ของ Where To Fin แล้วอยากจะลองรับประทานอาหารยุโรปที่ Brasserie Europa ขอแนะนำให้คุณโทรมาที่เบอร์ 02 633 3998 เราพร้อมที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งที่ดีที่สุดให้แก่คุณ

International Buffet Brasserie Europa

 International Lunch Buffet ราคาท่านละ 1,090++ บาทสำหรับผู้ใหญ่ และราคา 545++ บาทสำหรับเด็ก

 Brasserie Europa

Siam Kempinski Hotel Bangkok

เปิดให้บริการทุกวัน

Breakfast Buffet : 8.30 – 11.30 น.

International Lunch Buffet : 12.00 – 15.00 น. (จันทร์ – เสาร์)

Sunday Longest Brunch : 12.00 – 17.00 น. (อาทิตย์)

Dinner a la carte: 18.30 – 22.30 น.

 [supsystic-slider id=108 position=”center”]


 แผนที่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมจองโต๊ะกับ Where To Fin โทร 02 633 3998


  [supsystic-slider id=28 ]