Sensational Japanese Cuisine at Kisso

ห้องอาหารญี่ปุ่น Kisso ได้รับการไว้วางใจจากแขกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งในด้านของคุณภาพอาหารและการบริการมาอย่างยาวนานกว่า 23 ปี พร้อมต้อนรับแขกทุกท่านด้วยอาหารญี่ปุ่นคุณภาพสูง ปรุงจากวัตถุดิบชั้นยอดตามฤดูกาลที่นำเข้าจากแหล่งที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมการบริการชั้นยอดจากพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนทักษะการให้บริการและรอบรู้ในขนบธรรมเนียมตามแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่นขนานแท้ ในบรรยากาศที่เรียบหรูเป็นกันเอง ด้วยการตกแต่งที่แฝงสัญลักษณ์อันสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นออกมาให้แขกทุกท่านได้สัมผัส การมารับประทานอาหารสักมื้อ ณ Kisso จึงเป็นเสมือนการไปรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเองเลยก็ว่าได้

ห้องอาหารญี่ปุ่น Kisso ตั้งอยู่บนชั้น 8 ของโรงแรม The Westin Grande Sukhumvit Bangkok บริเวณทางเข้าตกแต่งด้วยถังหมักสาเกตั้งเป็นกำแพงสูงเรียงรายเป็นฉากกั้น ด้านหลังของกำแพงเป็นห้องโถงกว้างพร้อมชุดโต๊ะรับประทานอาหารทำจากไม้สีน้ำตาล เรียบง่ายเข้ากับพื้นและผนังที่ล้วนตกแต่งด้วยวัสดุสีน้ำตาลเข้ม ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณที่ห้อมล้อมไปด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัย ตัวร้านใช้คอนเซ็ปต์การตกแต่งแบบ “วาบิ ซาบิ” ซึ่งเป็นรูปแบบการตกแต่งที่เน้นการชื่มชมความงดงามของความไม่สมบูรณ์แบบ สังเกตุได้จากลวดลายบนฉากกั้นห้องไม้แกะสลัก เพดานลายดอกซากุระและเก้าอี้หนังสีน้ำตาลคลาสสิค ทุกๆองค์ประกอบในการตกแต่งล้วนสร้างบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นที่แสนอบอุ่นน่าสัมผัส

Kisso มีห้องรับประทานอาหารส่วนตัวสำหรับท่านที่ต้องการรับประทานอาหารพร้อมพูดคุยธุรกิจหรือท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวให้บริการด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีชุดโต้ะเก้าอี้เข้าชุดกันอยู่สองห้องและห้องอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นห้องนั่งพื้นบนเสื่อทาทามิอีกสองห้อง โดยมีประตูเลื่อนกระจกสีสันสดใสกั้นระหว่างบริเวณโถงหลักกับห้องส่วนตัว ด้านหนึ่งของโถงกลางร้านมีซูชิบาร์และเตาย่างสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมครัวเปิดที่แขกทุกท่านสามารถรับชมทีมเชฟปรุงอาหารกันสด ๆ อีกด้วย

เมนูที่ห้องอาหาร Kisso นี้จะเน้นการใช้วัตถุดิบสดใหม่ชั้นดีตามฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง เพื่อให้เมนูอาหารมีมาตรฐานที่สูงและให้รสชาติต้นตำรับตามแบบฉบับของอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ

อาหารชุดแนะนำมื้อกลางวัน

ของว่างประจำวันสามอย่าง

อาหารชุดแนะนำมื้อกลางวัน 6 คอร์ส ณ ห้องอาหาร Kisso เริ่มกันด้วยของว่างประจำวันสามอย่าง ซึ่งในวันนี้ประกอบไปด้วยกุ้งเล็กชุบแป้งทอด รสชาติดี กรุบกรอบ ไม่อมน้ำมัน, สาหร่ายญี่ปุ่นสด รสเค็มเล็กน้อยโรยด้วยไข่กุ้ง และเนื้อเป็ดอบที่เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสลัด

ซุปใส

จานถัดมาเป็นซุปใสรสชาติดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น ที่มีรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นที่หอมละมุนจากวัตถุดิบคุณภาพสูงอย่างน้ำซุปปลาแห้งญี่ปุ่น ซีอิ๊วและสาเก โดยในซุปใสมาพร้อมกับลูกชิ้นกุ้งที่ผสมไข่ไก่เข้าไปให้รสชาตินุ่มนวล เพิ่มรสสัมผัสและคุณค่าทางอาหารให้กับน้ำซุปใสถ้วยนี้

ปลาดิบรวม

ต่อกันด้วยจานปลาดิบรวม อาหารจานโปรดของหลายท่าน ที่ Kisso ให้บริการด้วยปลาดิบรวมเกรดพรีเมี่ยมประกอบไปด้วยปลาแซลมอน ชูโทโร่ ฮามาจิและกุ้งหวาน เสิร์ฟมาบนถ้วยที่รองด้วยน้ำแข็งเพื่อคงความสดของวัตถุดิบและเป็นการรักษารสชาติดั้งเดิมของเนื้อปลาเอาไว้

เนื้อวากิวออสเตรเลีย

จานหลัก เป็นเนื้อวากิวออสเตรเลียระดับพรีเมียมปรุงสุกมาในระดับ medium-rare ให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นและชุ่มฉ่ำ พร้อมรสชาติและกลิ่นหอมของเนื้อวัวชั้นดี เสิร์ฟมากับกระเทียมฝานบางทอดกรอบและผักนานาชนิดที่นำไปผัดจนได้รสชาติ อาทิ กะหล่ำปลี เห็ด ถั่วลันเตาและแครอท

ข้าวญี่ปุ่นพร้อมซุปและผักดอง

ข้าวญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้สำหรับชุดอาหารญี่ปุ่น เมล็ดข้าวมีความเหนียวนุ่มเล็กน้อยตามแบบฉบับข้าวญี่ปุ่น เมล็ดสั้นกลมสวยงาม โรยหน้าด้วยเนื้อแซลมอนสุกสับละเอียด ไข่หวานหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ และใข่ปลาแซลมอนสีสันสดใส เสิร์ฟพร้อมกับซุปมิโซะรสชาติกลมกล่อมและผักดองหลากชนิด

ของหวานพิเศษประจำวัน

ปิดท้ายอาหารชุดแนะนำมื้อกลางวันด้วยของหวานเมนูพิเศษประจำวันของเชฟ โดยในวันนี้ทางเชฟได้เสิร์ฟเป็นผลไม้ตามฤดูกาลหั่นมาพอดีคำ ประกอบไปด้วย เมล่อน สตรอเบอร์รี่ มะละกอ แตงโมและแก้วมังกร

เมนูอาหารแนะนำ

เบนโตะรวมมิตรปลาแซลมอน

ด้วยความที่คนไทยนั้นชอบทานปลาแซลมอลมากเป็นพิเศษ ทางเชฟจึงได้นำนอร์วีเจียนแซลมอนคุณภาพดีมาปรุงและรวมไว้ในกล่องอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งภายในกล่องประกอบไปด้วยซาชิมิแซลมอน ซูชิแซลมอนโรลและไข่ปลาแซลมอน ซูชิแซลมอน ซูชิแซลมอนลนไฟ แซลมอนย่างเกลือ แซลมอนย่างซอสเทอริยากิ สลัดแซลมอน และสลัดแซลมอนอะโวคาโดรสเผ็ด

สลัดเนื้อวากิวพิเศษแบบ ชาบู ชาบู

เมนูต่อมาเป็นเมนูสุขภาพที่ได้เนื้อวากิวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นสไลด์บางในแบบ ชาบู ชาบู ไปลวกให้สุกในระดับ medium-rare วางอยู่บนสลัดผักนานาชนิด แล้วราดด้วยน้ำสลัดสูตรพิเศษที่ทางเชฟคิดค้นขึ้นเองโดยมีงาและซอสพอนสึเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อได้เป็นอย่างดี

ปลาไหลและตับห่านราดซอสเทอริยากิ

วัตถุดิบขึ้นชื่อของอาหารญี่ปุ่นอย่างปลาไหล ถูกนำมาผสมผสานกับวัตถุดิบชื่อดังจากทางฝรั่งเศสอย่าง แล้วนำไปย่างด้วยถ่านที่ทำจากไม้ 3 ชนิด ได้แก่ไม้มะขาม ไม้โกงกางและไม้ยูคาลิปตัส เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัวให้กับอาหารจานนี้ ก่อนจะราดด้วยซอสเทอริยากิรสชาติหวานหอม เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยที่ไม่ควรพลาด

ชุดข้าวกล่องและชุดก๋วยเตี๋ยวมื้อกลางวัน

ปลาหิมะย่างเกลือหรือซีอิ๊ว

สำหรับท่านที่ชื่นชอบทานอาหารชุด ทางห้องอาหาร Kisso ก็มีจัดเตรียมไว้ให้ เริ่มด้วยเซ็ตปลาหิมะที่แขกสามารถเลือกได้ว่าจะนำไปย่างเกลือหรือย่างซีอิ๊ว เนื้อปลาหิมะสีขาวนวล เนื้อนุ่มถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อย ไข่ตุ๋น ปลาดิบรวม ซุปมิโสะ ข้าวสวยญี่ปุ่นและผักดอง

อุด้งครีมไข่ปลาค๊อด

หรือจะลองเป็นเซ็ตก๋วยเตี๋ยวแบบญี่ปุ่น โดยไฮไลท์คือชุดอุด้งครีมไข่ปลาค๊อด ที่นำเส้นอุด้งเนื้อเหนียวนุ่มมาเสิร์ฟในน้ำซุปครีมที่มีไข่ปลาค๊อดเป็นส่วนประกอบหลัก ซุปรสชาติเข้มข้นทานคู่กับไข่ปลาสีสวย ให้สัมผัสที่นุ่มลิ้น ตัวเซ็ตมาพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อย ไข่ตุ๋น ข้าวสวยญี่ปุ่นโรยด้วยแซลมอนสับและผักดอง

ของหวานมื้อกลางวัน

เครปรวมสามอย่าง

ในส่วนของเมนูขนมหวาน เริ่มกันด้วยของขึ้นชื่ออย่างเครปญี่ปุ่นที่สอดไส้มาด้วยวัตถุดิบ 3 ชนิด ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ กล้วยและพุดดิ้ง เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาและราดด้วยซอสช็อคโกแลตเข้มข้น

ไอศกรีมพาเฟ่ต์แบบญี่ปุ่น

ไอศกรีมพาเฟ่ต์เป็นไฮไลท์เมนูขนมหวานของห้องอาหารที่เป็นที่นิยมมาก ประกอบไปด้วยไอศกรีมรสวานิลลาและรสชาเขียว ครีมถั่วแดง ขนมโมจิชาเขียว เค้กชาเขียว เกาลัดและสตรอเบอร์รี่ เป็นเมนูที่มีความหลากหลายของวัตถุดิบ แต่ลงตัวในเรื่องของรสชาติ

ขนมโมจิคลุกน้ำตาลถั่วเหลือง

ขนมหวานสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างขนมโมจิชิ้นโตเหนียวนุ่ม มีรสหวานเล็กน้อย นำมาคลุกกับน้ำตาลถั่วเหลืองรสกลมกล่อม ให้ความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี เสิร์ฟคู่กับครีมถั่วแดงเพื่อสุนทรียภาพในการทานที่มากขึ้น

เยลลี่ไวน์บ๊วยญี่ปุ่น กับซอร์เบสาเก

ปิดท้ายกันด้วยความสดชื่นจากเยลลี่ไวน์บ๊วยญี่ปุ่น รสชาติเบาแต่เปี่ยมไปด้วยความสดชื่น ทานคู่กับซอร์เบสาเกที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ให้ความหวานและเย็น เหมาะกับการทานในวันที่อากาศร้อนเป็นที่สุด

ด้วยรสชาติและวัตถุดิบตามฤดูกาลที่มีคุณภาพ รวมไปถึงการเทคนิคการปรุงที่ปราณีตและการตกแต่งที่สวยงามของห้องอาหาร Kisso เราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเดินทางแสนแพง เพียงเพื่อไปทานอาหารรสต้นตำรับที่ประเทศญี่ปุ่นอีกแล้ว