Suan Bua (สวนบัว) ห้องอาหารไทยที่เปิดให้บริการมายาวนานอยู่คู่โรงแรม Centara Grand at Central Plaza Ladprao Bangkok ห้องอาหารที่ขึ้นชื่อในรสชาติอาหารไทยพื้นบ้านสูตรดั้งเดิม และ เมนูพิเศษตำรับชาววัง จนเป็นที่นิยมติดต่อกันมาเป็นเวลานาน เมื่อมองหาอาหารไทยรสชาติดีที่มาพร้อมกับการบริการชั้นยอดในแถบตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ห้องอาหารสวนบัวจะเป็นตัวเลือกในลำดับแรกๆอยู่เสมอ

Suan Bua

ห้องอาหาร สวนบัว ตั้งอยู่บริเวณลานกว้างกลางสวนสวยริมสระว่ายน้ำของโรงแรม Centara Grand at Central Plaza Ladprao Bangkok โรงแรม 5 ดาวเพียงแห่งเดียวของกรุงเทพตอนเหนือ ตัวร้านนั้นเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 30 ปี และพึ่งได้รับการปรับโฉมภายในครั้งใหญ่ไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยยังคงโครงสร้างดั้งเดิมของเรือนไม้ขนาดใหญ่ที่โถงกลางมีเพดานยกสูงทรงจั่วอันสะท้อนรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยออกมาอย่างชัดเจน ส่วนของพื้น เสาไม้ และฝ้าเพดาน กรุด้วยไม้สีอ่อนซึ่งเมื่อสะท้อนกับแสงไฟที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆแล้วจะได้แสงสีเหลืองทองนวลตา ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นรื่นรมย์ ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกใสเปิดรับแสงจากภายนอก ทำให้ตัวร้านยิ่งดูสว่างมากขึ้น ด้านนอกยังมีชานระเบียงที่มีโต๊ะรับประทานอาหารให้เลือกนั่งได้อีกส่วนหนึ่ง โดยท่านสามารถเลือกนั่งได้ทั้งบริเวณระเบียงใต้ชายคาที่มีส่วนของบาร์เครื่องดื่มตั้งอยู่ด้วย หรือ ระเบียงด้านนอกที่ติดอยู่กับสระน้ำ สวนสวย มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลายยิ่งขึ้น

Suan Bua
Suan Bua

ภายในร้านยังมีห้องส่วนตัวถึง 2 ห้องให้บริการ สำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการจัดเลี้ยงรับรองเป็นหมู่คณะ หรือสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวกลุ่มใหญ่

Suan Bua

ในส่วนของรายการอาหารได้เชฟ ปอ สันติภาพ เพชรว่าว เป็นผู้ดูแลสร้างสรรค์และควบคุมการปรุงในทุกขั้นตอน เพื่อให้อาหารทุกจานปรุงออกมาได้รสชาติที่ถึงเครื่อง ตามสูตรอาหารที่เขาได้รับสืบทอดมา

เชฟ ปอ เป็นเชฟที่มีความหลงไหลในศิลปะการกรุงอาหารมาตั้งแต่เขายังเด็ก ด้วยแรงบรรดาลใจจากการเฝ้าดูการทำอาหารของคุณยาย ที่มีขั้นตอนการทำที่ละเอียดอ่อนซับซ้อน ตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ การโขลกพริกแกง จนกระทั้งการปรุงออกมาจนเสร็จเป็นอาหารจานเด็ดให้ครอบครัวได้ร่วมรับประทานกัน ต่อมาเมื่อเติบโตขึ้นเขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพจากการเป็นนักวิเคราะห์หุ้น มาเป็นเชฟ และเสาะแสวงหาความรู้ต่างๆด้วยตัวเองจากสถาบันที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง และได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับ คุณพิมณิภา ณรงค์พันธ์  เชฟผู้มากความสามารถ  ซึ่งต้นตระกูลของท่านได้เคยเป็นข้าราชบริพาร ถวายงาน รับใช้อยู่ที่พระราชวังดุสิตเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา เขาได้สั่งสมสรรพวิชาความรู้ในการประกอบอาหารไทยสูตรพื้นบ้านดั้งเดิมและสูตรชาววังมาโดยตลอด จนมีความเชี่ยวชาญและเข้าถึงสมดุลของรสชาติ อันเป็นคุณสมบัติของเชฟชั้นยอดที่สามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารเลิศรสให้ถูกปากผู้ทานได้

Suan Bua

จากประสบการณ์และแรงบรรดาลใจส่วนต้วของเชฟปอ ทำให้เขาเป็นเชฟที่มีความพิถีพิถันและให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกอย่างในทุกขั้นตอนของการปรุงอาหารแต่ละจาน รวมทั้งการคัดเลือกวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารทุกตัว ก็ต้องมาจากแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุด สูตรอาหารทั้งหมดจะเป็นสูตรดั้งเดิมที่มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยให้เข้ากับยุคสมัยและรสชาติของวัตถุดิบที่สามารถหามาใช้ได้ รวมทั้งการทำองค์ประกอบต่างๆที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร ก็จะถูกทำขึ้นในครัวของสวนบัวทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พริกแกง ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักที่เชฟให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากพริกแกงมักจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพของรสชาติของอาหารแต่ละจาน และในปัจจุบันน้อยคนนักที่จะให้ความสำคัญกับจุดนี้

Suan Bua

ในโอกาสที่ Great Gastro ได้มาเยือนห้องอาหาร สวนบัว ในครั้งนี้ เชฟปอได้แนะนำเมนูอาหารหลากหลายทั้งเมนูต้นตำรับพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก และ สูตรอาหารตำรับชาววังที่ยังคงสูตรต้นตำรับเอาไว้อย่างครบถ้วน มาให้เราได้ลิ้มลองกันหลากหลายเมนู ดังนี้

Suan Bua

ม้าฮ้อ

Ma Hor – Marinated minced pork and peanut on pineapple

เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยสูตรโบราณที่กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และมักมีชื่ออยู่บนเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยในร้านอาหารไทยชั้นนำหลายร้าน ประกอบด้วยสัปปะรดหวานฉ่ำตัดเป็นแผ่นเล็กๆวางไว้เป็นฐาน วางผักชีเพื่มกลิ่นหอมกรุ่นลงไปทับด้วยส่วนของไส้ที่คล้ายกับไส้ของสาคูไส้หมู ทำจากเนื้อหมูสับ กระเทียม ถั่วลิสงป่น เคี่ยวในน้ำตาลปี้ปแล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ จากนั้นยึดส่วนของไส้เข้ากับตัวฐานด้วยไม้จิ้ม ใส่พริกฝานแผ่นเล็กๆลงไปด้านบนก่อนจะประดับก้านไม้จิ้มด้วยดอกมะลิ ม้าฮ้อของเชฟปอ โดดเด่นด้วยรสสัมผัสของตัวไส้ที่นุ่มนวล ไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง ถั่วลิสงคั่วหอมสดใหม่ และรสชาติที่กลมกล่อม หวาน เค็ม เปรี้ยว เผ็ด จัดจ้านชัดเจน ช่วยเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี

Suan Bua

เมี่ยงกุ้งฟูกลีบบัว

Mieng Goong Kleab bua – fluffy river prawn in lotus leave with sweet sauce

เมนูเมี่ยงแบบโบราณที่ใช้กลีบบัวแทนใบชะพลูซึ่งเป็นรูปแบบของเมี่ยงตามวิถีพื้นบ้านในอดีต เนื่องจากดอกบัวเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายกว่าในยุคสมัยนั้น เป็นเมนูเรียบง่ายที่นำเสนอได้อย่างสวยงาม เชฟนำเอาเปลือกของกุ่งแม่น้ำตัวใหญ่ทั้งตัวที่ได้แกะเอาส่วนของเนื้อมาทอดเป็นกุ้งฟูแล้ว วางไว้ตรงกลางจาน รอบตัวกุ้งมีกลีบดอกบัวที่ภายในมีส่วนผสมของเมี่ยงซึ่งประกอบด้วย เนื้อกุ้งฟู มะพร้าวอบกรอบ ถั่วลิสงอบ และน้ำเมี่ยงที่ทำจากน้ำตาลปี้บคั่วกับมะพร้าว ข่า ตะไคร้ จัดใส่ไว้เสร็จสรรพ พร้อมรับประทานได้ทันที เป็นเมี่ยงที่มีรสชาตินุ่มนวล หอมหวาน ส่วนของกลีบดอกบัวมีกลิ่นหอมจางๆเฉพาะตัวและให้สัมผัสกรุบๆเล็กน้อย ไม่มีรสขมอย่างที่คาดไว้

Suan Bua

ยำชะครามเนื้อปู สมุทรสาคร

Yum Cha-kram nuea poo – Thai samphire and crab-meat salad

เรียกน้ำย่อยอีกเมนูที่เชฟแนะนำ กับยำใบชะครามเนื้อปู เมนูเด็ดที่นำเอาวัตถุดิบชั้นดีจากท้องทะเลมาปรุงเป็นอาหารรสเลิศ ตัวใบชะครามนั้นเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามแถบชายฝั่งทะเลหรือป่าชายเลน ทำให้มีรสชาติเค็มอยู่ในตัว เมื่อนำมาทำเป็นยำก็เพียงเพิ่มรสเปรี้ยวและหวานเล็กน้อยลงไปเท่านั้น เชฟปอนำเมนูพื้นบ้านนี้มาเพิ่มมูลค่าด้วยการใส่เนื้อปูสดใหม่แน่นๆชิ้นใหญ่ยักษ์ ของดีจากจังหวัดสมุทรสาครลงไป ก่อนจะเพิ่มรสชาติด้วยหอมเจียว กระเทียมและพริกแห้ง กลายเป็นเมนูครบรสจัดจ้านที่ลงตัวขึ้นด้วยการใส่เนื้อปูที่มีรสหวานอ่อนๆลงไป

Suan Bua

กะปิคั่ว คลองโคน

Kapi Kua – Preserved shrimp paste and grilled fish in coconut cream with vegetables

ต่อกันด้วยเมนูเครื่องจิ้มผักแนมอย่าง กะปิคั่ว ที่เชฟเลือกนำเสนออีกหนึ่งของดีจากสมุทรสาครอย่างกะปิจากคลองโคน ที่นำมาปรุงเป็นกะปิคั่วแล้วได้รสชาติจัดจ้าน เค็มออกหวานเล็กน้อย กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน แต่ไม่ฉุนจนเหม็น ด้านบนราดน้ำกะทิและใส่พริกหลากสีลงไปเพิ่มความสวยงาม เสิร์ฟคู่กับผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา สายบัว ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ขมิ้นขาว นอกจากนั้นยังมีเนื้อปลาอินทรีทอดกรอบ เลือกจิ้มเลือกแกล้มได้ตามชอบ

Suan Bua

ต้มกุ้งย่างปรุงสด ร.5

Tom goong yang plung sod Rama V. – Hot and sour soup with grilled prawns and green mango

เมนูอาหารไทยโบราณหาทานยากตำรับชาววังสมัยรัชกาลที่ 5 กับต้มกุ้งย่างปรุงสด ต้มสมุนไพรน้ำใสรสออกเปรี้ยวใส่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ที่นำไปย่างจนสุกพอดีลงไปทั้งตัว ปิดท้ายด้วยหอมเจียว และใบสะระแหน่เพิ่มกลิ่นหอม เป็นสูตรอาหารที่เชฟปอได้รับการสืบทอดมาจากผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์จากห้องเครื่องในวังมาก่อน เมนูนี้นอกจากจะโดดเด่นด้วยกุ้งย่างเนื้อแน่นหอมกรุ่นและรสชาติอันจัดจ้านแล้ว ยังเป็นเมนูต้มซุปที่มักทำรับประทานกันในช่วงที่เป็นหวัดหรือป่วยไข้คัดจมูก เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรหลากชนิด ช่วยให้คล่องคอและบรรเทาอาการได้

Suan Bua

ต้มจิ๋วเนื้อวากิว หรือ หมูคุโรบุตะ

Tom jiew nuae Wagyu rue moo Kurobuta – Hot and sour soup with Wagyu beef flank or Kurobuta pork

เมนูต้มจิ๋วสูตรโบราณจากตำรับอาหารชาววังของท่านผู้หญิง เปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ผู้เรียบเรียง “ แม่ครัวหัวป่าก์ ” ตำราอาหารเล่มแรกที่พิมพ์ขึ้นในประเทศไทย เชฟนำมาดัดแปลงโดยใส่วัตถุดิบชั้นยอดในปัจจุบันลงไปแทนเนื้อน่องลายตามสูตรต้นตำรับ โดยท่านที่รับประทานเนื้อจะได้เป็นต้มจิ๋วเนื้อวากิวส่วนหน้าท้องที่มีสัมผัสนุ่มละลายในปาก  ส่วนท่านที่รับประทานเนื้อหมูจะได้เป็นคุโรบุตะชั้นดีหอมกลิ่นเนื้อหมูชั้นเลิศ นอกจากนั้นยังใส่แครอทและมันม่วงญึ่ปุ่นลงไปแทนมันเทศช่วยเพิ่มสีสันให้ดูร่วมสมัยน่ารับประทานยิ่งขึ้น เป็นเมนูน้ำซุปใสที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของวัตถุดิบชั้นยอดเป็นตัวชูโรง

Suan Bua

แกงเผ็ดเป็ดย่างโครงการหลวง

Gang phed ped yang – Royal project duck curry with eggplant

เมนูที่เชฟเลือกนำเอาวัตถุดิบคุณภาพอย่างเนื้อเป็ดพันธ์อี้เหลียงจากโครงการหลวงมาใช้ เป็ดอี้เหลียงนั้นเป็นพันธ์เป็ดที่เจริญเติบโตได้เร็ว เพียง 4 – 6 สัปดาห์ ก็สามารถนำออกจำหน่ายได้ ส่วนเนื้อจะมีรสชาติดีและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เป็นพันธ์เป็ดจากเมืองคุณหมิง มณฑลยูนาน แห่งประเทศจีนที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้กรมปศุสัตว์นำไปเลี้ยงอนุบาลที่ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เชฟปอได้นำเนื้อมาย่างจนได้กลิ่นหอมเย้ายวน ก่อนจะนำลงผัดกับพริกแกงที่โขลกขึ้นเองในครัวของ สวนบัว พร้อมกับเครื่องต่างๆ จนได้เป็นแกงเผ็ดเป็ดย่างเลิศรสที่ท่านไม่ควรพลาด

Suan Bua

ห้องอาหารสวนบัวให้บริการเมนูอาหารไทยหลากหลาย โดยเสิร์ฟคู่กับข้าวสวย 2 ประเภท คือ ข้าวสังข์หยด ข้าวไทยพันธ์ดีที่มีแหล่งชั้นดีในจังหวัดพัทลุงมีเนื้อนุ่มหอมและมีสีขาวอมน้ำตาลเข้มคล้ายกับข้าวกล้องแต่มีคุณประโยชน์ทางโภชนาการมากกว่า และข้าวหอมมะลิอินทรีย์ดินภูเขาไฟ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องรสชาติ ความนุ่ม หอม อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม

Suan Bua

ขนมปังสังขยาใบเตยกับไอศกรีมวานิลลา

Kanom pung sang ka ya bai toey kub I-tim Vanilla – Thai custard bread and vanilla ice-cream

มาถึงเมนูขนมหวาน จานแรกเป็นเมนูร่วมสมัยกับขนมปังแผ่นใหญ่หนานุ่ม ราดทับด้วยซอสใบเตยหอมกรุ่นชุ่มฉ่ำเข้าถึงเนื้อในของตัวขนมปัง ก่อนจะท้อปด้านบนด้วยไอศกรีมวานิลลาหวานละมุนลิ้น รับประทานด้วยกันได้อย่างลงตัว ไม่หวานมากจนเลี่ยน เพราะเชฟเลือกที่จะให้ซอสใบเตยรสหวานอ่อนๆแล้วเพิ่มความหอมด้วยน้ำกะทิราดลงไปอีกครั้งหนึ่ง ความหวานจึงมาจากตัวไอศกรีมเสียส่วนใหญ่ ทำให้ได้เมนูขนมปังสังขยาที่แตกต่างและมีความเป็นไทยแฝงอยู่ในรสชาติอย่างชัดเจน

Suan Bua

ส้มฉุนกับจ่ามงกุฎโบราณ ร.2

Som Chun lare Ja mongkut borand rama II – Tropical fruits in scented syrup and Thai candies with watermelon seeds

เมนูของหวานปิดท้าย เชฟปอเลือกนำเสนอ เมนู ส้มฉุน ซึ่งเป็นผลไม้ลอยแก้วที่เชฟเลือกใช้มังคุดและลิ้นจี่ ลอยในน้ำเชื่อมที่ผสมน้ำส้มซ่าลงไปเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้เขตร้อน รับประทานเย็นๆโดยใส่น้ำแข็งเข้าไป จะได้รสชาติที่หวานกลมกล่อมสดชื่นกำลังดี เสิร์ฟมาคู่กับขนมจ่ามงกุฎแบบดั้งเดิม ที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวกวนกับกะทิและน้ำตาลทรายจนเหนียว จากนั้นจับเป็นชิ้นเล็กๆแล้วโรยด้านนอกด้วยเมล็ดแตงโม

Suan Bua

สวนบัว โดย เชฟปอ สันติภาพ เพชรว่าว ห้องอาหารไทยที่เปิดให้บริการมากกว่า 30 ปี ซึ่งได้ปรับโฉมใหม่ ยังคงมาตรฐานการบริการชั้นยอดและบรรยากาศอันอบอุ่นในสไตล์ไทยร่วมสมัย พร้อมเมนูอาหารที่บรรจงรังสรรค์ขึ้นจากสูตรอาหารเก่าแก่ รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นยอดที่ดีที่สุดจากแหล่งขึ้นชื่อทั่วทุกแห่ง ทำให้ สวนบัว เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานครและควรค่าแก่การกลับไปสัมผัสลิ้มลองดูอีกครั้ง

Suan Bua


Suan Bua

Centara Grand at Central Plaza Ladprao Bangkok

Lunch from 11:30 – 14:30 hrs

Dinner from 18:00 – 22:30 hrs.

To make a reservation, please call 02 541 1234 Ext 4151

GALLERY

More information or reservation

Contact dining concierge LINE@ : @greatgastro

Reserve Table

MAP