มหานครกรุงเทพ เมืองหลวงของไทยที่มักจะสร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้เราได้ตลอดเวลา หนึ่งในนั้นคือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่ม กับร้านอาหารจำนวนมากที่เปิดขึ้นมาให้เราได้สัมผัสอย่างไม่หยุดหย่อน นั่นทำให้ชาวกรุงอย่างเรามีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารรสชาติแปลกใหม่และประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ

SuhringSuhring

ในช่วงปีที่ผ่านมานับได้ว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของวงการอาหารในกรุงเทพ และหนึ่งในร้านอาหารที่เป็นที่พูดถึงและนิยมอย่างรวดเร็วนั่นคือ Sühring ร้านอาหารเยอรมันสไตล์โมเดิร์นที่นำเสนอความแปลกใหม่ของรสชาติต้นตำรับเยอรมันแท้ๆผสานกับเทคนิคการนำเสนออาหารสมัยใหม่ ร้านอาหารที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเชฟฝาแฝดชาวเยอรมัน Thomas และ Mathias Sühring

Suhring

Sühring ตั้งอยู่ใจกลางย่านพักอาศัยกลางเมืองอันสงบร่มรื่นอย่างไม่น่าเชื่อของเย็นอากาศซอย 3 ซึ่งเป็นย่านที่เขาเคยพักอยู่ตั้งแต่ครั้งยังรับหน้าที่เชฟผู้ดูแลห้องอาหารฝั่งเศสสุดหรูอย่าง Mezzaluna แห่ง The Dome at State Tower คู่แฝด Sühring ได้เลือกนำเอาบ้านหลังใหญ่พร้อมบริเวณสวนโดยรอบที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1970 มาเปลี่ยนเป็นร้านอาหารอันแสนอบอุ่น และสร้างบรรยากาศให้แขกผู้มาทานอาหารได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่คล้ายกับการไปรับประทานอาหารที่บ้านของเพื่อน

Suhring

บริเวณทั้งหมดของร้านสามารถรองรับแขกได้ 64 ท่าน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ แต่ละโซนจะมีบรรยากาศที่สวยงามแปลกตาแตกต่างกันออกไป แต่ในทุกๆมุมของบ้านจะประดับประดาไปด้วยภาพวาดและรูปถ่ายที่สื่อถึงความเป็นเยอรมัน ซึ่งเชฟได้นำมาจากบ้านเกิดของเขาในเยอรมัน เพื่อให้แขกทุกท่านได้สัมผัสถึงบรรยากาศและรูปแบบวิถีชีวิตในสไตล์เยอรมันดั้งเดิมอย่างแท้จริง

Suhring

ส่วนแรกของร้านเรียกว่า Living Room หรือห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นส่วนหลักของร้านและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุด เชฟทั้งสองได้สร้างให้โซนนี้เป็นเสมือนกับห้องนั่งเล่นในบ้านหลังใหญ่กลางสวนอันแสนอบอุ่นและเป็นกันเองแต่ยังแฝงความเป็นระเบียบเรียบหรูในสไตล์เยอรมันเอาไว้ ด้วยกระจกใสบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานที่เผยให้เห็นสวนสวยด้านนอกที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และสนามหญ้าอันแสนร่มรื่นด้านนอก พื้นไม้สีอ่อนเงางามตัดกับกำแพงสีเบจนวลตา ซึ่งช่วยเพิ่มความสงบและผ่อนคลายให้แก่แขกที่มารับประทานอาหารทุกท่าน

SuhringSuhring

ส่วนที่สองเป็นมุมยอดนิยมของร้านเรียกว่า Winter Garden กับเรือนกระจกที่โอบล้อมอยู่รอบห้องอาหาร เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนสวยภายนอกที่สว่างไสวในยามค่ำคืนด้วยไฟประดับที่จุดวางอย่างเป็นธรรมชาติและชวนให้นึกถึงสวนป่าอันเขียวชอุ่มในยุโรป เป็นมุมที่สุดแสนจะโรแมนติกและให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ด้วยสีเขียวของต้นไม้และสนามหญ้า ในมุมมองพานอรามาแบบ 270 องศา

SuhringSuhring

ส่วนสุดท้ายเรียกว่า Kitchen เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ภายในห้องครัวด้านหลังของบ้าน เป็นโซนที่แขกสามารถรับชมการทำงานของทีมเชฟในครัวได้อย่างใกล้ชิด ท่านจะได้สัมผัสการทำงานแบบมืออาชีพที่ละเอียดอ่อนและรวดเร็ว ทำให้การรับประทานอาหารแต่ละจานดูน่าสนใจยิ่งขึ้น และหากมีข้อซักถามใดก็สามารถสอบถามเชฟได้อีกด้วย นับว่าเป็นประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับท่านที่ชื่นชอบการทำครัวโดยแท้

SuhringSuhring

Sühring นั้นถูกสร้างขึ้นให้เป็นทั้งบ้านพักอาศัยและห้องอาหารที่เปิดต้อนรับแขกทุกท่านให้เข้ามาลิ้มลองอาหารฝีมือเชฟพี่น้องฝาแฝด Thomas และ Mathias Sühring เขาทั้งสองได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารจากคุณยายของเขาเอง ตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งเขามักจะได้ไปพักอาศัยอยู่กับคุณยายในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ในระหว่างนั้นเองพวกเขาก็ได้มีโอกาศเข้าครัวทำอาหารร่วมกับคุณยายและได้เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารเยอรมันแบบต้นตำรับดั้งเดิมจากคุณยาย ทั้งการหมัก การดองและเทคนิคอื่นๆ อีกมากมาย

Suhring

เมื่อเติบโตขึ้นเขาทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะเดินในเส้นทางของอาชีพพ่อครัวอย่างจริงจัง โดยใช้ความรู้ที่สั่งสมมาประกอบกับการมุ่งแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆอย่างไม่ลดละ จนได้มีโอกาสทำงานในร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวอย่าง Aqua ในประเทศเยอรมันและได้รับโอกาสให้มาดูแลหนึ่งในร้านอาหารที่หรูหราที่สุดของไทยอย่าง Mezzlauna ในกรุงเทพเมื่อปี ค.ศ. 2008 อีกด้วย

Suhring

จนกระทั้งปี ค.ศ. 2016 เชฟทั้งสองได้ตัดสินใจดำเนินการตามความฝันของพวกเขาด้วยการเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างให้ร้านอาหารแห่งนี้นำเสนอความเป็นเยอรมันที่สะท้อนถึงรากเหง้า วัฒนธรรม รสชาติ ตลอดจน รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเยอรมันแท้ๆออกมาให้ชาวกรุงเทพฯและแขกผู้มาเยือนทุกท่านได้สัมผัส

Suhring

เมนูอาหารของ Sühring จึงเน้นการนำเสนอรสชาติดั้งเดิมของอาหารเยอรมันที่ผสานความสวยงามตามรูปแบบการนำเสนออาหารสมัยใหม่ลงไป โดยมีรูปแบบเมนูอาหารให้เลือกทั้ง Set Menu ซึ่งเรียกว่าเป็น Sühring Experience โดยเลือกได้ทั้งแบบ 8 คอร์ส และ 12 คอร์ส ซึ่งรายละเอียดของเมนูอาหารจะสลับสับเปลี่ยนไปตลอดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับแขกผู้มาเยือน  และเมนู A la carte ซึ่งเหมาะกับท่านที่มารับประทานอาหาร ณ Sühring หลายครั้งแล้วติดอกติดใจในเมนูพิเศษบางตัว

Suhring

Great Gastro ได้มีโอกาสไปลิ้มลองและสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษที่นำเสนอความเป็นเยอรมันดั้งเดิมออกมาผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตของเชฟฝาแฝดทั้งสอง กับ Sühring Experience กับ 12 เมนูอาหารหลากหลายที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตามเราไปรับชมกันเลย

Suhring

Soft Pretzel & Obatzda

เริ่มต้น course แรกด้วยการบอกเป็นนัยกับเราผ่านเมนูอาหารว่า ต่อจากนี้ไปท่านจะได้พบกับเมนูอาหารสัญชาติเยอรมันนะ ด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยที่ประกอบด้วยส่วนประกอบใหญ่ๆสามส่วน สำหรับรับประทานแกล้มกัน ได้แก่ ขนมปัง Soft Pretzel ชิ้นพอดีคำ ผิวด้านนอกแข็งเป็นชั้นบางๆเสมือนเปลือกห่อหุ้มเนื้อขนมปังด้านในที่เหนียวนุ่มหอมกรุ่น เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมซอสขึ้นชื่อของเยอรมันอย่าง Obatzda ที่ทำมาจากชีส Camembert และผงปาปริก้า ให้รสหวาน เค็ม หอม มัน ปิดท้ายด้วยเบียร์อินฟิ้วส์ที่เชฟทั้งสองตั้งใจปรุงขึ้นเป็นพิเศษอาหารเรียกน้ำย่อยจานนี้ โดยเป็นเบียร์สดอ่อนนุ่มละมุนที่มีกลิ่นหอมของแอปเปิ้ลและสไปซ์จากขิงอ่อน เสิร์ฟมาในแก้วเล็กๆสำหรับดื่มรับประทานคู่กันกับขนมปัง ช่วยให้คล่องคอและเสริมกลิ่นหอมหวานสมบูรณ์แบบให้กับอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดูธรรมดา แต่รสชาติแสนพิเศษนี้

Suhring

Frankfurter Grüne Soße

course ต่อมายังคงเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยกับ Frankfurter Grüne Soße นำเสนอรสชาติของซอสสีเขียวสดสไตล์เยอรมัน ที่ทำขึ้นจากสมุนไพรต่าง ๆ ถึง 7 ชนิดผสมเข้าด้วยกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ จนได้เนื้อครีมรสออกเค็ม เนื้อข้นจนขึ้นรูปได้ แต่มีสัมผัสในปากที่เบาบางหอมสดชื่น เสิร์ฟมาบนมันฝรั่งทอดกรอบที่นำเอามันฝรั่งมาบีบเป็นเส้นเล็กๆแล้วม้วนรวมกันจนมีลักษณะคล้ายรังนกก่อนจะนำลงทอดจนเหลืองกรอบ เสริมรสชาติมันๆด้วยครีมเนื้อนวลที่ทำมาจากไข่แดง ก่อนจะโรยใบผักสีเขียวและดอกไม้ป่าดอกเล็กๆลงไปตกแต่งอย่างสวยงาม ชวนให้ระลึกถึงทุ่งดอกไม้ในป่าเมืองหนาวที่แสนสดชื่นและชวนหลงใหล

Suhring

Caesar Salad

ต่อกันด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยชิ้นเล็กๆพอดีคำที่นำเสนอซีซาร์สลัดในรูปแบบใหม่ที่ได้รสชาติของซีซาร์สลัดครบถ้วนในคำเดียว เชฟใช้หนังไก่ทอดกรอบแผ่นบางๆมาเป็นตัวแทนของรสเค็มมัน ตัวหนังไก่เป็นแผ่นเล็กๆใช้เป็นฐานด้านล่างแล้วโรยด้วยใบผักสดใบเล็กๆค่อยๆจัดวางลงไปด้านบน มีซอสเดรซซิ่งแบบซีซาร์สลัดหยดเล็กๆหยดไว้เป็นตัวยึดใบผักเข้ากับแผ่นหนังไก่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยพาเมชานชีส และ ขนมปัง Croutons ที่ตัดเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆลงไปเพิ่มรสสัมผัสให้ครบถ้วน เป็นซีซาร์สลัดในแบบกะทัดรัดที่รสชาติครบถ้วน เป็นการนำเสนออาหารเมนูธรรมดาในรูปแบบที่ปราณีตพิถีพิถัน เป็นลูกเล่นที่สะท้อนให้เห็นฝีมือและความสร้างสรรค์ของเชฟฝาแฝดตระกูล Sühring ได้เป็นอย่างดี

Suhring

Pork Knuckle Sandwich

เมนูนี่เริ่มมีเนื้อหนังมากขึ้นกับขาหมูเยอรมันยอดฮิตที่ถูกนำเสนอมาในรูปแบบของไส้แซนวิช ตัวขนมปังนำไปปิ้งจนได้แผ่นแป้งบางกรอบทั่วทั้งแผ่น ตัดเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆประกบไส้ด้านในที่เป็นเนื้อหวานนุ่มและหนังหมูย่างกลิ่นหอมกรุบกรอบของขาหมูเยอรมัน ปิดท้ายด้วย Mustard Cream และ Marjoram เพิ่มรสชาติ ที่หยอดมาเป็นหยดเล็กๆด้านบนของชิ้นแซนวิช เป็นเมนูอาหารที่นำเสนอในรูปแบบสมัยใหม่ อาจเรียกได้ว่าเชฟทั้งสองได้นำเมนูดั้งเดิมมาตีความใหม่ ทั้งในด้านของรสชาติที่โดยรวมมีความนุ่มนวลมากขึ้น และสัมผัสที่หลากหลาย เพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนูขาหมูเยอรมันที่เรามักจะได้ลิ้มลองเป็นประจำอยู่แล้ว

Suhring

Duck Liver, Citrus, 2007 Riesling Wehlener Sonnenuhr, Spätlese, Joh. Jos. Prüm

ถัดมาเป็นเมนูที่เชฟต้องการจะแนะนำให้เราได้รู้จักกับรสชาติของไวน์เยอรมัน ซึ่งมักจะไม่เป็นที่พูดถึงกันมากนักในบ้านเรา แต่เชฟทั้งสองขอยืนยันว่ารสชาติของไวน์เยอรมันนั้น ยอดเยี่ยมไม่แพ้ไวน์ฝรั่งเศสหรือไวน์อิตาลีแน่นอน โดยเลือกเสิร์ฟมาพร้อมกับตับเป็ดเนื้อแน่นขนาดพอดีคำเคลือบด้วยเลเยอร์บางๆของเจลมะนาวที่ช่วยเสริมรสเปรี้ยวอมหวาน ตับเป็ดถูกจัดวางมาบนขนมปังกรอบสไตล์เยอรมัน ก่อนจะนำทั้งชิ้นไปวางไว้บนแก้วไวน์ทรงสูงที่ภายในมีไวน์ชั้นเลิศจากเยอรมันที่เชฟทั้งสองเลือกสรรค์มาแล้ว อย่าง 2007 Joh. Jos. Prüm Wehlener Sonnenuhr Riesling Spätlese ไวน์ขาวที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้เมืองหนาว ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับรสชาติหอมมันของตับเป็ดที่อยู่ด้านบน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและยังคงมุ่งนำเสนอมิติที่แตกต่างออกไปของรสชาติจากเยอรมันให้เราได้สัมผัสและค่อยๆตกหลุมรักในความพิเศษที่ไม่เหมือนใครนี้

SuhringSuhring

Simmental Beef Tatare—Raw, Beetroot, Smoked Eel, Gherkins

เริ่มเข้าสู่อาหารจานหลัก จานแรกเป็นทาร์ทาร์ที่นำเสนออย่างสวยงามแปลกตาเป็นพิเศษ ฝาแฝด Sühring เลือกใช้เนื้อโคพันธุ์ Simmental เนื้อวัวชั้นยอดจากสวิตเซอร์แลนด์ มาผสมกับ Croutons ให้รสชาติที่สดชื่นชุ่มฉ่ำและมีสัมผัสที่นุ่มนวลแทรกด้วยเทกซ์เจอร์กรุบกรอบของขนมปัง ด้านบนประดับตกแต่งด้วยผักและดอกไม้เล็กๆหลากชนิด อาทิเช่น Radish Leaves และ Gherkins โดยมีแผ่นแป้งบางกรอบที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นตัวคั่นกลาง เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสบีทรูทและซอสที่ทำจากเนื้อปลาไหลรมควัน เป็นเมนูที่นำเราไปสัมผัสความสดชื่นของทุ่งหญ้าเขียวขจีบนเทือกเขาเคล้ารสชาติของเนื้อวัวชั้นยอดที่มักถูกเลี้ยงอยู่บนทุ่งหญ้าเชิงเขาแบบนี้เช่นกัน

SuhringSuhring

Brotzeit – For Sharing, Breads, Spreads, Cold Cuts, Pickles

course ถัดมาเป็นเมนูที่เปิดโอกาสให้เราได้สนุกกับการสร้างเมนูง่ายๆจากส่วนประกอบที่เชฟเตรียมมาให้เรา ซึ่งประกอบด้วยขนมปังสองชนิดได้แก่ German Rustic Sourdough และ ขนมปัง Whole Grain ซึ่งอบในสไตล์โฮมเมดต้นตำรับแบบเยอรมันดั้งเดิม โดยจะมีการนำเอายีสสูตรพิเศษที่ใช้ในการทำขนมปังใส่โหลมาตั้งไว้ให้เราได้ซึมซับเอาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของเยอรมันไปพร้อมๆกับการรับประทานอาหารด้วย ตัวขนมปปังจะเสิร์ฟมาพร้อมกับ Cultured Butter, Leberwurst (ครีมตับลูกวัว), และ Büsumer Nordseekrabben (ครีมกุ้งจากทะเลตอนเหนือ) พร้อมผักดองเพิ่มรสชาติอย่างแตงกวาดอง ส่วนของเนื้อจะเป็นแฮมชิ้นใหญ่ที่ฝานสดๆมาจากขาหมู ซึ่งท่านสามารถสร้างสรรค์เมนูนี้ด้วยการเลือกใช้ครีมทั้งสามชนิดปาดไปบนขนมปังก่อนจะวางแตงกวาดองและแผ่นแฮมลงไป หรือจะเลือกทานขนมปังกับส่วนประกอบใดส่วนประกอบหนึ่งก็ได้ แล้วแต่ความชอบ ซึ่งการรับประทานแบบนี้เป็นรูปแบบชีวิตดั้งเดิมของเยอรมันที่เชฟจัดแจงให้เราได้สัมผัสด้วยตัวเองอย่างชาญฉลาด ยิ่งเมื่อประกอบเข้ากับบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของ Sühring ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราหวนระลึกถึงช่วงเวลาในอดีตเมื่อเราได้รับประทานอาหารร่วมกันกับคนในครอบครัวอย่างอบอุ่น

SuhringSuhring

Rainbow Trout—Smoked with Apple Wood, Green Peas, Dill

ต่อกันด้วยจานปลา ที่เชฟเลือกใช้เนื้อปลา Rainbow Trout ชั้นดีสีส้มสดเนื้อแน่น มารมควันด้วยไม้จากต้นแอปเปิ้ลและสตีมกับเฟนเนล เพิ่มกลิ่นหอมและสัมผัสของเนื้อที่นุ่มละมุนละไม แล้วเสริมรสเปรี้ยวลงไปด้วย Dill Foam ที่ราดเอาไว้ด้านบน ในจานยังมีเมล็ดถั่วเขียวและมันฝรั่งผัดกับซอสรสอ่อนๆราดอยู่ด้านล่างของชิ้นปลาช่วยเพิ่มมิติของรสสัมผัสทำให้จานปลาที่ยอดเยี่ยมจากเนื้อปลาคุณภาพ โดดเด่นขึ้นไปอีกด้วยองค์ประกอบอื่นๆที่เชฟเลือกใส่ลงไปในจานอย่างพอเหมาะ

SuhringSuhring

Spätzle Soft Egg Noodles—Hand Cut, Allgäuer Mountain Cheese Lola Montez

course pasta เชฟนำเสนอเมนู pasta ที่น่าสนใจมากกับ Spätzle เส้นพาสต้าไข่สไตล์เยอรมันที่ Sühring ทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่การผสม นวดแป้ง จนได้ออกมาเป็นเส้น ผัดกับเห็ด Chanterelle เห็ดป่าที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์น่ารับประทานไม่แพ้ทรัฟเฟิล Allgäuer Mountain Cheese ชีสสูตรพิเศษตำรับเยอรมัน และน้ำมันสกัดจากต้นหอม ต้องบอกว่าจานนี้สร้างความประทับใจให้เราตั้งแต่เนื้อสัมผัสของตัวเส้นที่เหนียมนุ่มหนึบๆ ยิ่งเมื่อผัดมาในซอสข้นๆรสออกเค็มๆมันๆที่ได้จากเห็ดและชีสแล้ว ยิ่งกลมกล่อมเข้ากัน รับประทานได้อย่างเพลิดเพลินตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ตอนเสิร์ฟยังสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ด้วยการนำ Belper Knolle ซึ่งเป็นชีสที่มีส่วนผสมของเกลือหิมาลัยและมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ มาฝานเป็นแผ่นใหญ่ๆลงไปในจานต่อหน้าเรา ซึ่งคล้ายกับการฝานทรัฟเฟิลลงไปในจาน pasta แบบที่เรามักคุ้นเคยกันอีกด้วย นอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดูสูงค่าให้กับอาหารแล้ว ยังช่วยเสริมรสชาติให้เข้มข้น กลมกล่อมยิ่งขึ้นไปอีก นับว่าเป็นเทคนิคการนำเสนออาหารที่ยอดเยี่ยมและสร้างสรรค์มาก

SuhringSuhring

Hungarian Duck Breast 7 Days Dry Aged on The Bone, Pumpkin, Hazelnuts, Cardamom

จาน main course วันนี้เป็นเนื้อเป็ดฮังกาเรี่ยนส่วนอกที่ผ่านกรรมวิธี Dry Aging เป็นเวลา 7 วันบนกระดูก จนได้เนื้อเป็ดที่มีรสหวานนุ่มให้สัมผัสละมุนละลายในปาก ส่วนหนังบางกรอบเป็นพิเศษ ด้วยเทคนิคการปรุงแบบ slow cook ทำให้ตัวเนื้อชั้นยอดพิเศษยิ่งขึ้นกับระดับกับความหวานหอมของ Duck Juice ที่แทรกซึมอยู่ตลอดทั้งชิ้น เมื่อรับประทานจะได้รสชาติแสนพิเศษนี้ในทุกๆคำ เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมฟักทอง ฮาเซลนัทและ Cardamom มาช่วยเพิ่มรสสสัมผัสที่หลากหลายและสร้างสีสันเพิ่มเติมให้กับจานหลักที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความพิเศษเต็มๆคำเช่นนี้

SuhringSuhring

Buttermilk, Cucumber, Gin, Tonic

มาถึงเมนูของหวานล้างปากกันก่อน กับไอศกรีมโทนิคที่ผสานกับบัตเตอร์ครีม Cucumber-Infused Gin และมะนาวคาเวียร์ เป็นของหวานรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ให้ความสดชื่นจากรสชาติและความเย็นของไอศกรีม เคล้ากลิ่นหอมของแตงกวาและมะนาว ช่วยขจัดรสและกลิ่นของอาหารคาวหลากหลายเมนูที่ได้รับประทานไปได้อย่างหมดจด พร้อมสำหรับปิดท้ายกับเมนูของหวานจาน Finale

Suhring

Mandarine, Milk Chocolate, Rice Pudding

เมนูของหวานส่งท้ายในค่ำคืนนี้เป็นไอศกรีมรสส้ม Mandarin ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวที่มาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่น วางมาบนพุดดิ้งที่ทำจากข้าวเนื้อนุ่ม เสริมด้วยเมล็ดข้าวบดแล้วทอดจนเหลืองกรอบโรยไว้ด้านบน ประดับตกแต่งและเสริมรสชาติด้วยเยลลี่ช็อคโกแลต มูสวนิลลาและครีมส้มสด เป็นเมนูปิดท้ายที่หน้าตาน่ารับประทาน ทั้งยังให้ความสดชื่นมีชีวิตชีวา เสมือนกับการปลุกให้ตื่นจากภวังค์ที่เราได้หลุดไปในโลกของรสชาติและวิถีชีวิตของชาวเยอรมันมาตลอดทั้งมื้ออาหาร

Suhring

ในบรรดาร้านอาหาร Fine Dining มากมายในกรุงเทพ Sühring เป็นอีกร้านที่โดดเด่นด้วยการนำเสนออาหารเยอรมันเมนูแปลกใหม่ ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นของเชฟในการที่จะนำเอาวิถีชีวิตและอาหารสไตล์เยอรมันแบบดั้งเดิมมาให้คนกรุงเทพและแขกผู้มาเยือนได้สัมผัสและเพลิดเพลินไปกับมัน ผ่านการค่อยๆนำเสนอผ่านเมนูอาหารแต่ละจานอย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่ยัดเยียดจนเกินไป ตลอดทั้งการสร้างบรรยากาศของร้านให้เป็นเสมือนดั่งบ้านหลังหนึ่งที่เปิดต้อนรับแขกผู้มาเยือนให้มาลิ้มลองฝีมืออาหารของเจ้าของบ้าน ยิ่งทำให้เราสามารถเข้าถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เชฟทั้งสองแห่งตระกูล Sühring ต้องการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย

Suhring

หากท่านกำลังมองหาร้านอาหารที่มอบประสบการณ์อันแสนพิเศษและน่าจดจำมากที่สุดร้านหนึ่งในกรุงเทพ Sühring คือ ร้านอันดับต้นๆที่ Great Gastro ขอแนะนำให้คุณไปเยือนและสัมผัสกับ Sühring Experience ด้วยตัวท่านเอง

Suhring


Sühring

By The Sühring Twin, Thomas & Mathias Sühring

Yen Akat Soi 3

Daily from 18:00 – 22:00 hrs.

MENU

More information or reservation

Call dining concierge 02 254 9005 or LINE@ : @greatgastro

Reserve Table

MAP

Great Gastro