หลีกหนีชีวิตอันแสนวุ่นวายในตัวเมืองและผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ยามดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่ VOGUE Lounge แห่งแรกและแห่งเดียวของโลก ณ MahaNakhon CUBE กับเลาจน์บาร์สุดหรูที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ตามแบบฉบับของนิตยสารแฟชั่นอันดับหนึ่งของโลก VOGUE ดังที่เราเคยพาท่านไปสัมผัสมาแล้ว (Previous Review CLICK) พร้อมกับเสียงเพลงปลุกเร้าอารมจากดีเจของทางร้าน รวมไปถึงเสียงหวาน ๆ จากบทเพลงหลากหลายแนวที่มีวงดนตรีมาเล่นสดขับกล่อมท่านทุก ๆ วันจันทร์และวันพฤหัสบดี
เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่สดใหม่ แตกต่าง และน่าสนใจตลอดเวลา VOGUE Lounge ได้รังสรรค์เมนูขึ้นใหม่ทุกๆสี่เดือน ณ ปัจจุบันนี้ถือเป็น Volumn ที่ 7 ของเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ณ VOGUE Lounge ที่จะให้บริการระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนสิงหาคม อันประกอบด้วยอาหารเลิศรสสุดสร้างสรรค์จากเชฟ Cyril Cocconi และค็อกเทลสูตรพิเศษที่คิดค้นโดยหัวหน้ามิกซ์โซโลจิสต์ Francesco Moretti
Creative Palate Pleasers
เมนูอาหารว่างทุกจานจะถูกบรรจงรังสรรค์ออกมาอย่างประณีต อีกทั้งยังเป็นหัวใจหลักของทางร้านอีกด้วย เริ่มกันกับเมนูเรียกน้ำย่อยสไตล์เม็กซิกันอย่าง Spinach & Parmesan Cheese Quesadilla ที่รสชาติกลมกล่อมจากการนำแป้งตอติญ่ามาสอดได้ด้วยผักโขมสดและพาร์เมซานชีส ก่อนจะนำไปอบจนกรอบนุ่ม นุ่มใน ตามด้วย Tomato & Mozzarella Cheese Calzone เมนูของว่างจากอิตาลี ที่มาพร้อมกับแผ่นแป้งพับครึ่งอบกรอบ ที่ด้านในเต็มไปด้วยมะเขือเทศสดผสมกับมอสซาเรลล่าชีสรสชาติดี หรือจะลอง 3-Cheese Croquetas ที่กรอบอร่อย ทำจากชีสชั้นดีถึง 3 ชนิด ได้แก่ เอ็มเมนทอลชีส โร้คฟอร์ชีสและพาร์เมซานชีส เสิร์ฟมาพร้อมกับแอพริคอตอบแห้งและวอลนัท
สำหรับเมนูสตาร์ทเตอร์ของที่นี่ Foie Gras Ravioli with Smoked Duck Consommé โดดเด่นไปด้วยแป้งพาสต้าเนื้อเหนียวนุ่มสอดไส้ด้วยฟัวกราส์เกรดพรีเมี่ยม ลอยอยู่ในน้ำซุปใสที่ทำจากเป็ดรมควัน มีรสชาติที่เข้มข้นกับกลิ่นหอมของเป็ดแบบเน้น ๆ ส่วน Blue Crab Caesar Salad Rolls with Pickled Mango เป็นเมนูที่นำซีซาร์สลัดมาดัดแปลงใหม่ ด้วยการนำผักกาดโรเมนและเนื้อปูสดมาห่อในแผ่นแป้งบางแล้วม้วนเป็นชิ้นพอดีคำ ด้านบนตกแต่งด้วยพาร์เมซานชีสและเบคอนกรอบ เสิร์ฟคู่กับมะม่วงดองและน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน
Hearty Entrée for Fashionistas
Spicy Prawn Burger with Pickled Daikon หนึ่งในเมนูเบอร์เกอร์ของทางร้าน เสิร์ฟชิ้นเล็กแต่อัดแน่นไปด้วยรสชาติจากเนื้อกุ้งล้วนที่นำมาปรุงเป็นชิ้นเนื้อหนา ตามด้วยหัวไชเท้าดองและค็อกเทลซอสรสละมุนที่วางอยู่ระหว่างขนมปังเนื้อนุ่ม ด้านบนโรยด้วยสาหร่ายอบแห้ง เสิร์ฟมาพร้อมกับเฟร้นฟรายซ์ เป็นเมนูที่เพิ่มสีสันให้กับเบอร์เกอร์ทั่ว ๆ ไปได้เป็นอย่างดี
สำหรับอาหารจานหลักนั้น Lamb Filet with Artichoke Déclinaison and Hazelnuts ถือเป็นเมนูชั้นเลิศที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื้อแกะชิ้นหน้าถูกนำไปคลุกเคล้ากับฮาเซลนัท เนื้อด้านในนุ่ม ชุ่มฉ่ำตัดกับความกรอบเล็กน้อยของถั่วที่เคลือบอยู่ด้านนอก ทานคู่กับอาร์ติโชค บาร์บาชวน มะเขือเทศป่าและฮาเซลนัท
ในขณะเดียวกัน Sautéed Octopus with Chorizo & Basil Pesto ก็ควรค่าแก่การลิ้มลองด้วยวัตถุดิบอย่าง หนวดปลาหมึกจากประเทศสเปนที่นำไปผัดกับไส้กรอกโชริโซ่หั่นลูกเต๋า มะเขือเทศอบแห้งและซอสโหระพา ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารสเปนอย่างชัดเจน
Decadent Desserts
ที่ VOGUE Lounge นั้นมีเมนูของหวานสุดแสนยั่วยวนให้เลือกรับประทานกันอย่างมากมาย ลอง Iced Mojito Cocktail ที่ให้ความสดชื่นและซาบซ่าจากมินท์ครีม เจลมะนาว ครัมเบิ้ล ที่นำมาเรียงกันเป็นชั้นสวยงามในแก้ว ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่ทำมาจากรัม หรือจะเป็น Coffee-Flavored “Baba Au Rum” with Tahitian Vanilla Espuma เมนูสุดเก๋ไก๋ที่นำเค้กกาแฟไปแช่ในเหล้ารัมจนได้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟมาพร้อมกับวานิลลาครีม เยลลี่กาแฟและไอศกรีมโฮมเมดรสกาแฟ โดยรสชาติเข้มข้นของเหล้านั้นถูกตัดอย่างดีด้วยความหวานจากวานิลลา
นอกจากนี้ยังมี Valrhona Kalingo Chocolate Lava Cake with Strawberry Sorbet เค้กช็อกโกแลตลาวาที่ทำจากดาร์คช็อกโกแลตเข้มข้น ด้านในเป็นครีมสตรอเบอร์รี่รสหวานเสิร์ฟพร้อมกับสตรอเบอร์รี่สดและสตรอเบอร์รี่ซอร์เบท์ และ Exotic-Textured Valrhona Ivoire Chocolate Tart with Earl Grey Tea ทาร์ตกรอบเคลือบไวท์ช็อกโกแลต ตกแต่งด้วยแยมผลไม้เมืองร้อน มะม่วงสดและไวท์ช็อกโกแลต เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมชาเอิร์ลเกรย์และครัมเบิ้ล
Darling Infusions
ด้วยประสบการณ์อันช่ำชองและสไตล์สุดสร้างสรรค์ของ Francesco Moretti จึงทำให้เครื่องดื่มของที่นี่ไม่เป็นสองใคร เริ่มกันด้วย Oh Beautiful ค็อกเทลหน้าตาสวยงามเหมาะสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน ทำจากเตกิล่าอินฟิวซ์กับเปลือกสับปะรด ผสมกับเหล้ากาเลียโน่ น้ำสับปะรด น้ำเชื่อมใบเตย ไข่ขาว มะนาว ตกแต่งด้วยบิทเทอร์สีกุหลาบและดอกกุหลาบอบแห้ง ได้รสชาติเปรี้ยวหวานกับกลิ่นหอมของใบเตยที่เข้ากันอย่างลงตัว อีกแก้วสำหรับคุณผู้หญิงเช่นกันก็คือ Kiss from A Rose ที่นำ Havana Club 3 years old และ Chambord liqueur ไปผสมกับน้ำแอปเปิ้ล มะนาว ไข่ขาวและน้ำเชื่อมกลิ่นวานิลลา ใบมะกรูดและโวดากลิ่นกุหลาบ จนได้เครื่องดื่มที่นุ่มลิ้น เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติและกลิ่นหอมหวานของกุหลาบและผลไม้
แก้วถัดมาเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคุณผู้ชายมากขึ้นอย่าง Aged Aroma Negroni ที่ประกอบได้ด้วยจินที่หมักในถังไม้โอ๊คเป็นเวลากว่า 2 เดือน นำไปผสมกับเมล็ดกาแฟที่อินฟิวซ์กับคัมพารี และ เวอร์มุธ ตามด้วยช็อกโกแลตบิทเทอร์ น้ำมันวานิลลากลิ่นสมุนไพร และผิวส้ม รสชาติออกขมอมหวานที่มาพร้อมกับกลิ่นกาแฟ ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มม็อคค่าผสมแอลกอฮอล์ และปิดท้ายกันด้วยเมนูจินแอนด์โทนิกที่ใส่ความเป็นไทยลงไปอย่าง Thai Botanical เมนูที่ช่วยดับกระหายในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวได้เป็นอย่างดี ด้วยส่วนผสมของจินอินฟิวซ์กับชามะลิ น้ำเชื่อมขิง ตะไคร้ สไปซ์เบอร์รี่ เลมอนบิทเทอร์และโทนิก
ปลดปล่อยความกังวลทุกอย่างและดื่มด่ำไปกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก VOGUE ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์และเมนูเครื่องดื่มที่ชวนลุ่มหลงพร้อมกับงานศิลปะและดนตรีระดับโลกได้ที่ VOGUE Lounge ชั้น 6 MahaNakhon CUBE
Vogue Lounge
The Epitome of Style and Class
MahaNakhon CUBE
Daily from 17:00 – 02:00 hrs.
Fashion Hours 2 for 1
Daily from 17:00 – 21:00 hrs.
– MENU & Highlight (Vogue Lounge Vol 7) –
Direct contact call 02 001 0697