หากพูดถึง Fashion รูปแบบที่บ่งบอกรสนิยมอันหลากหลายของผู้คน สิ่งที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการ Fashion และเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลกให้เป็น Iconic Brand ที่อยู่คู่วงการมาโดยตลอด ย่อมไม่พ้น “VOGUE” Magazine ที่ได้ชื่อว่าเป็น Fashion’s Bible ที่นำเสนอเทรนและรูปแบบที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับกระแส Fashion ทุกรูปแบบ

Vogue LoungeVogue Lounge

ความยิ่งใหญ่ของ “VOGUE” ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็นสื่อเท่านั้น แต่ “VOGUE” ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นสัญลักษณ์ของ Fashion ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำกระแส อันสะท้อนถึงฐานะความรุ่งเรืองในชีวิตของเราด้วย และนับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับชาวกรุงเทพ ที่ Pace Development ผู้บริหารโครงการ Mahanakorn ได้เชิญ “VOGUE” เข้ามาร่วมสร้างสรรค์ที่สุดของ Club Lounge ที่ผสานความยิ่งใหญ่ของ “VOGUE” เข้ากับความสนุกสนานของชีวิตยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสีสันของมหานครกรุงเทพ ได้อย่างลงตัว เกิดขึ้นเป็น VOGUE Lounge แห่งแรกและแห่งเดียวของโลก ซึ่ง Great Gastro จะพาท่านไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดในวันนี้

Vogue LoungeVogue Lounge

VOGUE Lounge ตั้งอยู่บริเวณชั้น 6 ของ MahaNakorn CUBE มีพื้นที่ให้ท่านเลือกสังสรรค์หลายรูปแบบทั้ง Indoor, Outdoor และ Bar Stool ด้านหน้าบาร์เครื่องดื่ม ตัวร้านได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยบริษัทออกแบบระดับโลกอย่าง David Collins Studio ที่นำเอาความงดงามหรูหราของวงการแฟชั่นมาสร้างสรรค์เป็น VOGUE Lounge ที่สวยงาม นำสมัย และ อบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของชาวกรุงเทพหลังเลิกงาน หรือ จัดงานปาร์ตี้ในโอกาสพิเศษต่างๆ

Vogue LoungeVogue Lounge

ในส่วนของอาหาร VOGUE Lounge นำเสนออาหารในรูปแบบ Bite-Sized ที่สวยงามน่าลิ้มลอง ทุกเมนูสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ VOGUE Lounge โดย Michelin Star Chef Vincent Thierry ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของห้องอาหารฝรั่งเศส Caprice แห่งโรงแรม Four Seasons Hotel Hong Kong ซึ่งได้รับ Michelin Star 3 ดาว ติดต่อกันถึง 4 ปี เขาได้ร่วมมือกับ Executive Chef Cyril Cocconi และ head mixologist ของ VOGUE Lounge สร้างสรรค์เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่สะท้อนความงดงามและทรงคุณค่าของการรับประทานอาหารในรูปแบบของ Fine Dining ออกมาเป็นเมนูอาหารชั้นยอดที่รับประทานและจับต้องได้ง่ายตามสไตล์อาหารที่นิยมเสิร์ฟกันใน Club Lounge ชั้นยอดของโลก

Vogue LoungeVogue Lounge

เมนูอาหารและเครื่องดื่มของ VOGUE Lounge นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำทุกสามเดือน ตามรูปแบบของกระแสแฟชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลซึ่งมักเรียกกันว่า Seasons โดยสำหรับเดือน มิถุนายน – กันยายน 2559 นี้ นำเสนออาหารในคอนเซ็ปต์ Crustacean Kings คือ รสชาติสดชื่น สดใหม่ ต้อนรับฤดูร้อนจากท้องเนื้อสัตว์ทะเลน้ำลึก ได้แก่ ปู กุ้ง และ ล็อบสเตอร์ โดยมีเมนูที่เราได้มีโอกาสลิ้มลองดังนี้

Lobster Caesar Salad Roll

เริ่มต้นกันด้วยเมนูง่ายๆสบายท้อง เรียกนำ้ย่อยกันก่อน กับ Caesar Salad ที่มาในรูปแบบของ Roll ด้านในสุดเป็นล็อบสเตอร์เนื้อแน่น ราดซอส Caesar dressing สูตรพิเศษที่มีรสนวลเนียนไม่ออกหวานหรือเปรี้ยวจนเกินไป พันด้วยผักสดกรุบกรอบที่ให้ความสดชื่นชุ่มชื้นจากน้ำที่อยู่ในใบผักสดใหม่ แล้วพันด้วยแป้งปอเปี๊ยะสด ตกแต่งด้วยเบคอนกรอบบดละเอียดและแผ่นขนมปังบางๆเสียบลงไปตรงกลาง เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบให้กับเมนูนี้ เสิร์ฟคู่มากับ Caesar Dressing สำหรับท่านที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้นขึ้นก็นำตัว Roll จิ้มซอสนั้นทานได้ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงรสชาติและรสสัมผัสอันหลากหลายไว้ภายใน ทั้งยังเป็นสูตร Signature ของ VOGUE Lounge ที่หาทานที่อื่นไม่ได้

Vogue Lounge

Tuna Skewers, Herb Crusted, Spiced Tomato

เมนูถัดมาเป็น เนื้อปลาทูน่าชั้นดีที่หั่นแนวขวางมาเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ เสียบเหล็กแหลมยาวสำหรับย่าง พร้อมกับมะเขือเทศและพริกหวาน ได้รสสัมผัสที่สดชื่นจากทั้งเนื้อทูน่าย่างสุกกำลังดี มะเขือเทศที่ภายในชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรสเปรี้ยวอมหวาน และ รสเผ็ดเล็กน้อยที่ได้จากพริกหวานย่าง เป็นเมนูที่รสจัดจ้านขึ้นจากตัวแรก เสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษรสออกเค็ม และ ตกแต่งด้วยแผ่นแป้งบางๆโรยงาทอดจนกรอบ รับประทานคู่กันทำให้ได้สัมผัสที่หลากหลาย รสชาติที่จัดจ้านสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

Vogue Lounge

Comte Cheese, Smoked Bacon Beef Burger

เบอร์เกอร์ไซส์พอดีคำที่ทำตัวแป้งมาได้ดีมาก ด้านนอกอบจนกรอบเนื้อแป้งภายในยังนุ่มเนียนเป็นเนื้อแป้งที่อ่อนละมุนไม่สาก กลิ่นหอมเนยและงาดำที่โรยอยู่ด้านบนชัดเจน ไส้ในเป็นชิ้นเนื้อเบอร์เกอร์รสออกเค็มที่ย่างมาสุกกำลังดีชุ่มฉ่ำละลายในปาก กลิ่นหอมของเนื้อชัดเจน เพิ่มรสชาติและรสสัมผัสด้วยเบคอนอบกรอบและ Comte Cheese ที่มีรสออกหวานมัน เป็นเมนูเบอร์เกอร์รสเด็ดที่ท่านไม่ควรพลาด

Vogue Lounge

Fried Lobster Ravioli In Soup, Pumpkin Gnocchi

เมนูสไตล์อิตาเลียนอย่าง Ravioli ที่ไส้ในเป็นเนื้อ Lobster ทอดกรอบ ให้กลิ่นหอมเนื้อล็อบสเตอร์ชัดเจน แป้ง Ravioli หนานุ่มให้สัมผัสกรุบๆเล็กน้อย เสิร์ฟมาในซอสครีมรสออกเค็ม พร้อมกับ Gnocchi นุ่มๆที่มีส่วนผสมหลักเป็นฟักทอง รสหวานและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ สำหรับท่านที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียน จานนี้เป็น Italian Fusion ที่ท่านไม่ควรพลาด

Vogue Lounge

Clam with Zucchini Cream

เป็นเมนูซุปข้นที่ผสานเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อปูเข้ากับซุปครีมเนื้อข้น ที่ทำจากแตงกวาฝรั่ง (Zucchini) ที่มีรสเค็มอ่อนๆ พร้อมกับกลิ่นหอมสดชื่น โรยหน้าด้วยขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆเพิ่มเนื้อสัมผัส เป็นเมนูที่เนื้อสัมผัสนุ่มนวลเป็นพิเศษ รับประทานได้อย่างเพลิดเพลิน

Vogue Lounge

King Crab, Sea Urchin Pannacotta, Capsicum

เป็นเมนูที่หน้าตาดูคล้ายกับของหวาน โดดเด่นด้วยเนื้อปูยักษ์ ที่วางสลับเป็นชั้นกับครีม Pannacotta ที่มีส่วนผสมของไข่หอยเม่น รสชาติออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นอายทะเลจากไข่หอยเม่นชัดเจน เนื้อสัมผัสหลากหลายทั้งนุ่มละมุนจาก Pannacotta หยาบร่วนจากเนื้อปูฉีกเป็นฝอยๆ และ แน่นนุ่มชุ่มฉ่ำจากเนื้อปูยักษ์ชิ้นโตที่วางอยู่ชั้นบนสุด เมนูนี้ยังแฝงรสเผ็ดจากแผ่นเยลลี่สีแดงน่ารับประทานที่ทำจาก Capsicum หรือพริกชี้ฟ้านั่นเอง เป็นที่สุดของเมนูอาหารที่ผสานรสชาติและรสสัมผัสอันหลากหลายเข้ากันไว้อย่างลงตัวและนำเสนออย่างสวยงามแปลกตา สมกับที่สร้างสรรค์โดย Chef ระดับ Michelin Star 3 ดาว

Vogue Lounge

Duck and Foie Gras Terrine, Apple Chutney And Pickles

ปิดท้ายกันด้วย Terrine ที่ไม่ธรรมดา เมนูนี้ทำจากเนื้อเป็ดและฟัวกราส์ผสานเป็น Terrine เนื้อแน่นรสออกเค็มๆมันๆ ด้านบนโรยมาด้วยแตงกวาดองเสริมรสเปรี้ยว เสิร์ฟมาคู่กับ Apple Chutney รสหวาน ทานคู่กันกับขนมปังกรอบแผ่นใหญ่ ได้รสชาติครบถ้วนกลมกล่อม ปิดท้ายด้วย Surprise ที่มาพร้อมเมนูนี้ เนื่องด้วยรสชาติที่ค่อนข้างหนักแน่นชัดเจน เชฟจึงสร้างเมนูนี้ให้เป็น Surprise Pairing โดยจะเสิร์ฟพร้อมกับไวน์สัญชาติไทยอย่าง Mythical Garden ที่มาพร้อมรสหวานและกลิ่นหอมแอปเปิ้ลชัดเจน ดื่มคู่กับเมนูนี้ช่วยเพิ่มความหอมและทำให้สัมผัสนุ่มนวลยิ่งขึ้น

Vogue LoungeVogue Lounge

จบจากอาหารคาวที่แต่ละเมนูผ่านการสร้างสรรค์มาแล้วเป็นอย่างดี ตามมาด้วยเมนูของหวานที่สวยงามทั้งหน้าตาและเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติแสนพิเศษ

Apple Tatin Tart, Bourbon Vanilla Ice Cream

ทาร์ตแอปเปิ้ลกลิ่นหอม รสหวานฉ่ำอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อทาร์ตร่วนผิวกรอบกำลังดี เสริมด้วยครีมสูตรพิเศษเนื้อนุ่มเนียน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลาเนื้อนุ่ม รสหวาน กลิ่นหอมชัดเจนวางมาบนครัมเบิลกรุบกรอบ เป็นของหวานที่รสชาติชัดเจนและมาพร้อมกลิ่นหอมของวานิลลาอย่างเต็มเปี่ยม

Vogue LoungeVogue Lounge

Summer Berry Mille-Feuille, Almond Ice Cream

Mille-Feuille แป้งหนากรอบไส้ในเป็นครีมเบอร์รี่สัมผัสนุ่มนวลรสออกหวานอมเปรี้ยว เพิ่มความสดชื่นด้วยเบอร์รี่สดหลากชนิด เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมอัลมอนด์ที่หวานหอม ผสมผสานรสชาติของเบอร์รี่และอัลมอนด์ได้อย่างลงตัว เป็นเมนู Mille-Feuille ที่แฝงรสเปรี้ยวให้ความสดชื่นและตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี

Vogue LoungeVogue Lounge

เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าตื่นเต้น สนุกสนานและไม่สามารถคาดเดารสชาติล่วงหน้า จากหน้าตาอาหารที่ตกแต่งมาอย่างสวยงามได้เลย หากท่านได้มาเยือน VOGUE Lounge เมนูอาหารจานพิเศษโดย Chef Michelin Star 3 ดาว เหล่านี้ ย่อมเป็นสิ่งที่ท่านไม่ควรพลาด

Vogue Lounge

ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มของ VOGUE Lounge นั้นก็เต็มไปด้วยเมนู Signature ที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษ อันเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน และ ความมีชีวิตชีวา และถ้าท่านมาเยือน VOGUE Lounge เพื่อดื่มโดยเฉพาะ เราขอแนะนำให้ท่านเลือกที่นั่งบริเวณบาร์เพื่อที่จะรับชมการชงเครื่องดื่มแต่ละตัวที่มีขั้นตอนวิธีที่ละเอียดอ่อน น่าตื่นเต้น ไม่แพ้รสชาติของมัน

Francesca

เครื่องดื่มตัวแรกสำหรับวันนี้ เป็นเมนูที่ดัดแปลงมาจาก Cocktail สูตร Classic อย่าง Margarita เครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็น Beccaris Grappa Nebbiolo บรันดีสัญชาติ  อิตาเลียนที่มีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะตัว เสริมด้วย Tequila และ Triple sec ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำมะนาว เสริมรสเปรี้ยวเข้มข้น ก่อนจะเสริมความเค็มเล็กน้อยด้วยเกลือสมุนไพรที่เคลือบอยู่ตรงปากแก้ว เป็นเมนูที่ดื่มง่าย สดชื่น และ Mixologist แนะนำให้เป็นเมนูเริ่มต้นก่อนจะลิ้มลองเครื่องดื่มที่มีดีกรีรุนแรงขึ้นต่อไป

Vogue LoungeVogue Lounge

Brownish Negroni

เมนูที่ดัดแปลงมาจากเครื่องดื่มยอดนิยมสุดคลาสสิคอย่าง Negroni ที่ใช้ Mead ซึ่งเป็นสุราชนิดพิเศษที่มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและรสออกหวานแหลมชัดเจน แทน Campari ซึ่งเป็นส่วนผสมของ Negroni ทั่วไป ทำให้มีรสออกหวานกว่าและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่มาพร้อมดีกรีที่ค่อนข้างจะรุนแรงเลยทีเดียว เป็นค็อกเทลรสหวานที่ดื่มง่ายแต่อาจจะทำให้ท่านเมาได้โดยไม่รุ้ตัว

Vogue LoungeVogue Lounge

El Mar

ปิดท้ายกันด้วย Cocktails รสชาติสดชื่นที่สะท้อนกลิ่นอายของท้องทะเลออกมาได้อย่างชัดเจน เป็นเมนูที่ดัดแปลงมาจาก Margarita จึงมีรสออกหวานอมเปรี้ยว ผสมขึ้นจาก Tres Magueyes, Manzanilla Sherry และ Triple Sec เคลือบขอบแก้วด้วยเกลือผสมสาหร่ายทะเล เป็นค็อกเทลที่ดื่มง่ายและมีกลิ่นอายของทะเลแฝงไว้อย่างน่าสนใจ

Vogue LoungeVogue Lounge

นอกจากบรรยากาศอันสวยงามของ VOGUE Lounge ที่มาพร้อมกับ อาหารและเครื่องดื่มชั้นยอดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือความบันเทิงอันได้จากเสียงดนตรีที่คอยปลุกเร้าอารมณ์แขกทุกท่านอยู่ตลอดทุกคืน ภายใต้การดูแลของ Mr. Maarten Goetheer, Music Director ผู้คัดเลือกและเชิญ DJ ชื่อดังระดับโลกสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ความบันเทิงกับแขกของ VOGUE Lounge อยู่เป็นประจำ ด้วยแนวดนตรีที่หลากหลายทั้ง House, Disco, Nu-Disco ที่รับรองได้ว่าจะเติมเต็มประสบการณ์และสร้างความสนุกสนานให้กับค่ำคืนของท่าน ณ VOGUE Lounge ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

Vogue Lounge

GALLERY


VOGUE Lounge

6th Floor, MahaNakorn CUBE

Open daily from 17:00 – 02:00 hrs.

Food starting from THB 250++

Drink starting from THB 250++

——-

FASHION HOURS

Buy 1 Get 1 on selected drink

Everyday from 17:00 – 21:00 hrs.

MENU

More information or reservation

Call : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro 

RESERVE

MAP