วัฒนธรรมการดื่มชายามบ่ายกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมยอดนิยมของชาวกรุงเทพฯ ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จีกคำว่า Afternoon Tea หรือ High Tea อย่างไรก็ดี คำสองคำนี้มีที่มาและความหมายเหมือนหรือต่างกันอย่างไร บทความนี้จะพาทุกท่านไปหาคำตอบ

traditional afternoon tea
Afternoon Tea คืออะไร
การดื่มชายามบ่ายเป็นวัฒนธรรมที่เริ่มต้นมาจากประเทศอังกฤษ ที่เมืองผู้ดี มื้อว่างยามบ่ายนี้ถูกจัดขั้นกลางระหว่างมื้อเที่ยงและมื้อเย็นในเวลา 16.00 น. โดยมักประกอบด้วยของว่างทั้งคาวหวาน ไม่ว่าจะเป็นแซนวิช เค้ก หรือคุกกี้แกล้มชา แต่ที่ขาดไม่ได้คือ สโคน ขนมสุดอร่อย เมื่อทานคู่กับน้ำชา และทาด้วยครีม เนยสด หรือแยม วัฒนธรรมการดื่มชารู้จักแพร่หลายกันในหมู่ชนชั้นสูงโดยต่อมากลายเป็นกิจกรรมเข้าสังคมอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้

Afternoon Tea, 1886. Chromolithograph after Kate Greenaway. If you’re looking for finger sandwiches, dainty desserts and formality, afternoon tea is your cup.
ต่อมาเมื่อวิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป Afternoon Tea ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย โดยมักเสิร์ฟในโอกาสสำคัญ ในวันหยุด หรือเพื่อนต้อนรับแขกคนสำคัญตามธรรมเนียมอังกฤษก่อนเข้าสู่มื้อเย็นแบบเต็มรูปแบบในเวลา 20.00 น.
กล่าวกันว่า the Ritz ใน London และ Bettys Tea Rooms ใน Yorkshire เป็นสองร้านดังที่ยังคงกลิ่นอายความเป็น Afternoon Tea แบบเมืองผู้ดีไว้อย่างครบถ้วน
High Tea คืออะไร
ดังที่กล่าวไปแล้ว Afternoon Tea เป็นวัฒนธรรมที่มาคู่กับชนชั้นสูง อย่างไรก็ดี การดื่มชาก็เป็นที่นิยมในชนชั้นแรงงานเช่นกัน คำว่า High Tea เกิดขึ้นในยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมช่วงศตวรรษที่ 19 ชนชั้นแรงงานที่เลิกงานในโรงงานประมาณห้าโมงเย็นแล้วกลับพร้อมกับความหิว คนกลุ่มไม่มีเวลาพักสำหรับน้ำชายามบ่ายแบบ Afternoon Tea จึงทำให้มี High Tea ขึ้นซึ่งเป็นการทานอาหารมื้อหนักควบกับอาหารมื้อเย็นพร้อมกับการจิบชาไปเลย
นอกจากนี้สาเหตุหนึ่งที่การดื่มชาของชนชั้นแรงงานถูกเรียกว่า “High” อาจเป็นเพราะการทานบนโต๊ะสูงแบบโต๊ะทานข้าว แทนที่จะเป็น parlour chairs หริอการจิบชาแบบผ่อนคลายในสวนของชนชั้นสูง
High Tea in Scotland
การจิบชาของชาว Scothland นั้นพิเศษยิ่งกว่า เพราะมีการเสิร์ฟอาหารหนักอย่างซุป ชีส toast หรือ hot food อื่นๆ ไปในคราวเดียวกันด้วย