หลังจากครั้งที่แล้วผมพาไปสัมผัสห้องอาหาร Fireplace Grill & Bar แห่งโรงแรม InterContinental Bangkok กันอย่างใกล้ชิด พร้อมลิ้มลองอาหารเรียกน้ำย่อยโดยเชฟ Chef Sebastian Reischer กันไปแล้ว (Click here for 1st Episode) วันนี้ Great Gastro จะพาไปฟินกันต่อกับที่สุดของห้องอาหารแห่งนี้ และ เครื่องดื่มสุดพิเศษที่มีให้ดื่มเฉพาะที่นี่ที่เดียว ถ้าท่านพร้อมแล้ว ผมขออนุญาติเริ่มด้วยเนื้อย่าง Tomahawk หนัก 2 กิโลกรัม
Grilled Tomahawk
Pure 100% Black Angus onyx marble score 3-4 Roasted vegetables, gratin potatoes,
collection of sauce and mustards (Great for 2-3 people)
เนื้อแน่นๆจากส่วนต้นขาของวัว Angus วัวเนื้อพันธุ์เก่าแก่ที่มีไขมันแทรกในเนื้อสูงซึ่งคัดสรรและนำเข้ามาเป็นพิเศษ นำไปย่างบนเตาถ่าน จนได้เป็น Grilled Tomahawk ชิ้นหนาน่ารับประทาน การันตีด้วยดีกรี marble score ที่ 4 BMS มั่นใจได้เลยว่าสเต็กจานนี้จะต้องยอดเยี่ยมสมคำร่ำลืออย่างแน่นอน Chef Sebastian นำเอาเนื้อทั้งชิ้นออกมาแล่ให้ผมดูสดๆที่โต๊ะ กลิ่นหอมของเนื้อย่างอันหอมหวลที่ฟุ้งกระจายออกมาเมื่อหั่นเนื้อลงไป เผยให้เห็นชั้นเนื้อสีแดงสลับชั้นไขมันอย่างสวยงามน่ารับประทาน หลังจากให้ผมได้มีโอกาสสัมผัส Tomahawk ชิ้นใหญ่ยักษ์อย่างใกล้ชิดแล้ว เชฟจึงนำไปแล่เป็นชิ้นๆ ก่อนจัดใส่จานมาให้รับประทานกัน
Tips : marble score คือมาตรฐานสากลในการให้คะแนนคุณภาพของเนื้อวัวโดยให้คะแนนตามระดับไขมันที่แทรกอยู่ในกล้ามเนื้อของวัว ไขมันยิ่งมากก็จะได้คะแนนสูงขึ้นไปตามลำดับ โดยระดับคะแนนจะเป็นตัวเลขตั้งแต่ 1 คือ ดีน้อย ไปจนถึง 5 คือ ดีมาก ซึ่งมี grading standard คือ BMS หรือ Beef Marble Score
เชฟกลับมาพร้อมกับเนื้อ Tomahawk ที่ถูกแล่เป็นชิ้นหนาๆ จัดวางมาอย่างสวยงามในจานที่ตกแต่งด้วยผักสีเขียวละมะเขือเทศเชอรี่รสหวานอมเปรี้ยวสีแดงสด แค่เห็นยังน่ารับประทานขนาดนี้ รสชาติจะขนาดไหน เราไปชิมกันเลยดีกว่า! สเต็กเนื้อรสนุ่มด้วยความสุกระดับ medium rare ข้างนอกกรอบหอมกลมกล่อม ด้านในสุกปานกลางสียังแดงๆนุ่มนวลกำลังดี น้ำมันจากเนื้อช่วยเพิ่มความนุ่มในทุกรสสัมผัส เป็นเนื้อที่เมื่อทานแล้วแทบจะละลายในปาก รสชาติหวานหอมแบบไม่ต้องพึ่งซอส แต่หากใครอยากเพิ่มรสชาติยังมีซอสมาให้เลือกถึงสามแบบ คือ ซอสพริกไทย สำหรับคนชอบทานรสจัดจ้าน ซอสเห็ด สำหรับคนชอบรสนุ่มละมุนลิ้น และซอสเกรวี่ สำหรับใครที่ชอบรสเค็มๆออกเปรี้ยวตัดเลี่ยนเล็กน้อย
เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงถ้วยใหญ่ เป็นกราแต็งที่ใช้มันฝรั่งต้มสุกสับเป็นชิ้นเล็กๆคลุกเคล้ากับครีมซอสผสมชีสเนื้อเนียน ก่อนจะใส่ลงในถ้วยใบใหญ่แล้วโรยทับหน้าด้วยชีสอีกชั้นหนึ่ง เสร็จแล้วจึงนำเข้าเตาอบที่ตั้งให้ร้อนไว้ เบิร์นจนผิวหน้าเกรียมเป็นสีเหลืองออกน้ำตาล เนื้อชีสจะไหลเยิ้มลงไปแทรกอยู่ภายในถ้วย เป็นกราแต็งที่รสชาติดีอันดับต้นๆเท่าที่ผมเคยได้ลิ้มลองมา ในจานยังมีผักย่างหลากชนิดไว้ทานตัดเลี่ยนด้วย
Seafood from the Grill
Whole grilled Maine lobster, Tiger Prawn, Norwegian snow fish, sea bass
อีกหนึ่งไฮไลท์ประจำคืนนี้ สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อเมนูนี้คือจานที่ท่านไม่ควรพลาด Mixed Seafood อย่างดีที่คัดเลือกอาหารทะเลสดๆมาย่างไฟให้สุกได้ที่ เริ่มต้นด้วย lobster ตัวใหญ่เนื้อแน่น ตามมาด้วยปลาหิมะเนื้อเนียนนุ่มละลายในปากจากนอร์เวย์ ปลากระพงขาวชิ้นใหญ่เนื้อหวานหอม และพระเอกของจานนี้ต้องขอยกให้กับกุ้งลายเสือเนื้อกรอบหวานนุ่มชุ่มฉ่ำ มาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ถูกปากถูกใจผมไปเลย
หลังจากจัดการกับอาหารจานหลักจานใหญ่ยักษ์ เรามาต่อกันที่ของหวานเบาๆกันบ้าง แม้จะเป็นร้านที่เด่นในเรื่องการ Grill แต่ของหวานของ Fireplace Grill and bar ก็จัดว่าเด็ด เป็นไฮไลท์อีกอย่างที่เราอยากให้ท่านมาลองชิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Crêpe Suzette ที่น้องพนักงานเข็นรถมาปรุงให้เราชมกันแบบสดๆถึงโต้ะ
Crêpe Suzette
Flambé crêpes, orange liquor
Fine Dining Lover ทุกท่านคงจะคุ้นเคยกับเมนูเครปส้มที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Crêpe Suzette (เครปซูเซต) ซึ่งเป็นเมนูของหวานยอดนิยมที่เรามักจะพบเจอกันตามร้านอาหารชั้นดีทั่วๆไป แต่เชื่อได้เลยว่ามีน้อยคนนักที่จะทราบถึงขั้นตอนการทำ Crêpe Suzette สูตรต้นตำหรับอย่างละเอียดครบถ้วน ณ Fireplace Grill and Bar นี้ท่านจะได้รับชมวิธีการทำทุกขั้นตอนซึ่งนอกจากจะจดจำกลับไปลองทำดูเองได้แล้ว ท่านยังจะได้รับชมความร้อนแรง สวยงาม และตื่นเต้นกับเปลวไฟที่จุดขึ้นในระหว่างปรุงเมนูนี้ด้วย
ขั้นตอนการทำเริ่มจากนำน้ำตาลทรายขาวมาละลายในกระทะที่ตั้งไฟอุ่นๆ ก่อนผสมด้วยน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยลงไปเพื่อเพิ่มสีสัน จากนั้นนำน้ำส้มคั้นสดมาใส่ลงไปแล้วเติมเหล้าลงเล็กน้อยไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและเป็นเชื้อไฟทำให้เกิดการลุกไหม้ของซอสที่ปรุงอยู่ในกระทะ เป็นการเฟรมครั้งที่หนึ่ง
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีจึงเติมเนยจืดลงไปคนจนละลาย แล้วใส่น้ำส้มตามลงไปอีกเล็กน้อย ต่อด้วยผิวส้ม เมื่อส่วนผสมทุกอย่างพร้อมสรรพ ก็ถึงคิวของพระเอก นำแผ่นเครปวางลงในกระทะที่มีซอสอุ่นอยู่เพื่อให้น้ำซอสแทรกซึมเข้าไปในแป้งเครป ในขั้นตอนนี้เราจะแช่แผ่นเครปไว้ไม่นานเพื่อไม่ให้ตัวเครปนุ่มเละจนเกินไป
มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญคือการเฟรมครั้งที่สอง โดยเริ่มจากการปอกเปลือกส้มให้เป็นเส้นยาวต่อกันห้ามขาด จากนั้นจึงค่อยๆเทเหล้าจากกระบวยที่จุดไฟไว้จนลุกท่วมลงบนผลส้มที่ปอกเปลือกไว้เป็นเส้น ให้เหล้าค่อยๆไหลผ่านเปลือกส้มลงไปจากส่วนบนสุดลงไปยังจุดปลายสุด ความร้อนจากเปลวไฟจะขับเอาน้ำมันจากเปลือกส้มให้ไหลลงมาผสมกับเครปในกระทะเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมของน้ำมันผิวส้มลงไปในซอสและตัวเครป อันเป็นเอกลักษณ์ของ Crêpe Suzette แบบดั้งเดิมของ Fireplace Grill and Bar จานนี้
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ ของหวานเมนูนี้จะเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลาโฮมเมด ความหวานอมขมเล็กน้อยของซอสส้มและความนุ่มของแป้งเครปร้อนๆ เข้ากันได้ดีกับรสหวานเย็นฉ่ำของไอศกรีมวานิลลา ที่ช่วยสร้างสีสันให้ของหวานจานนี้ได้อย่างลงตัว ท่านที่ไม่นิยมทานหวาน เมนูนี้เป็นสิ่งที่ท่านน่าจะชื่นชอบ เพราะไม่หวานเลี่ยนจนเกินไปและยังเป็นเมนูที่มีรสสัมผัสหลากหลายชวนค้นหาอีกด้วย นอกจากรสชาติจะดีแล้วเมนูนี้ยังมาพร้อมกับความตื่นตาตื่นใจและจะทำให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารครั้งนี้เป็นที่จดจำของท่านไปอีกนาน สำหรับตัวผมเองต่อไปนี้เมื่อพูดถึง Crêpe Suzette ต้องมีชื่อของ Fireplace Grill and Bar มาก่อนในอันดับต้นๆอย่างแน่นอน
White chocolate mousse
Griottine cherries, cherry sorbet
เมนูของหวานยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มาต่อกันกับ White chocolate moose มูสเนื้อเนียนนุ่มจับคู่กับไอศกรีมเชอร์รี่โฮมเมดรสเปรี้ยวอมหวานที่ช่วยตัดเลี่ยนและสร้างสีสันให้เมนูนี้ได้เป็นอย่างดี ตกแต่งจานด้วย สตอเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ สดๆรสชาติหวานหอมเพิ่มความสดชื่นให้กับของหวานจานนี้ เป็นเมนูปิดท้ายที่ทำออกมาได้น่าประทับใจ
นอกจากอาหารคาวหวานที่ปรุงอย่างพิถีถิถันแล้ว เครื่องดื่มก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ท่านไม่ควรพลาดหากได้มาเยือน Fireplace Grill and Bar โดยในส่วนของบาร์นั้นได้มีการรีโนเวทใหม่ให้มีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนที่ดูอบอุ่น ด้วยบรรยากาศของเพนท์เฮ้าส์สุดหรูที่มีเตาผิงตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมบาร์เครื่องดื่มที่ Mixologist เตรียมค็อกเทลสูตรพิเศษรอให้ท่านมาลิ้มลองหลายเมนู วันนี้ผมได้ลองค็อกเทลเมนูใหม่ 3 เมนูที่แต่ละตัวล้วนมีเรื่องราวที่มา และรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร
Art of Siam
Ketel Vodka, Sambuca, Almond Syrup, Cream
ค็อกเทลสีสวยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีทองสดใสของศิลปะไทย ให้รสชาติเข้มแบบผู้ใหญ่ด้วย Ketel Vodka และ Sambuca ผสมด้วยกลิ่นหอมจางๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Almond syrup และปิดท้ายด้วยครีมรสนุ่มอ่อนละมุนที่ topped up อยู่ด้านบน เป็นค็อกเทลที่ประกอบไปด้วยสีสันและรสชาติที่ละมุนลิ้น ลื่นคอ ดื่มง่าย
In the Moon
Ciroc Vodka, Strawberry Liqueur, Elder Flower Syrup, Apple Juice, Fresh Rosemary
ค็อกเทลรสนุ่มที่มาพร้อมรสหวานหอมของสตอเบอร์รี่, น้ำแอปเปิ้ลและ Elder Flower Syrup และกลิ่นหอมจางๆ ขอโรสแมรี่สดที่ผสมลงไปในค็อกเทลตั้งแต่ตอนเชค ก่อนนำมาใช้รมควันรอบปากแก้วก่อนเสิร์ฟอีกรอบ แก้วนี้โดดเด่นทั้งสีสันที่แดงสดสวยหวาน รสชาติหอมละมุนของผลไม้และกลิ่นโรสแมรี่อันเป็นเอกลักษณ์ หากท่านมองหาค็อกเทลรสนุ่มนวลทานง่ายแต่มีรสชาติที่หวานหอมเป็นเอกลักษณ์ แก้วนี้น่าจะเป็นคำตอบของท่านได้อย่างดี
Rocky Sour
Olmeca Tequila Gold, Passion Fruit Syrup, Pomegranate Syrup, Orange Juice, Fresh Passion Fruit
ปิดท้ายเมนูเครื่องดื่มกับค็อกเทลรสเปรี้ยวหอมกลิ่นผลไม้อ่อนๆ เริ่มจากผสม Passion Fruit เข้ากับน้ำเชื่อมกลิ่นทับทิม น้ำสมคั้นสด ก่อนปิดท้ายด้วยการใส่เนื้อ Passion Fruit สดลงไป ใครที่ชอบรสเปรี้ยว หรืออยาก Fresh up หลังมื้ออาหาร ค็อกเทลแก้วนี้ช่วยปิดมื้ออาหารของท่านได้เป็นอย่างดี
ประสบการณ์การรับประทานอาหาร ณ Fireplace Grill and Bar ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน ที่ยกความพิเศษจากเตาถ่านมาให้รับประทานกันถึงโต๊ะด้วยวัตถุดิบที่เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งในและต่างประเทศ ผ่านกรรมวิธีการปรุงที่มีรายละเอียดและเทคนิคอันซับซ้อน ด้วยทีมเชฟมืออาชีพที่มีความชำนาญในการทำอาหารแต่ละเมนู ทำให้ Fireplace Grill เป็น Steakhouse ที่เปิดให้บริการและเป็นที่นิยมมากว่า 50 ปี ผมขอแนะนำให้ท่านมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของสเต็กเฮ้าส์ที่เป็นตำนานอยู่คู่กรุงเทพมากว่าครึ่งศตวรรษนี้ ด้วยตัวของท่านเอง
Go back to Episode 1 click here
