ในตอนก่อนหน้า Great Gastro พาทุกท่านไปทำความรู้จักกับการให้บริการจากฝั่งอังกฤษที่มีจุดเด่นด้านการใช้ service gear และอเมริกาที่พัฒนาการบริการให้ตอบโจทย์ lifestyle ในปัจจุบันกันมาแล้ว ในตอนนี้เราจะขอพาทุกท่านเดินทางข้ามทะเลมายังประเทศเมนแลนด์ฝั่งยุโรปกันบ้าง กับอีกสองการให้บริการระดับท็อปในสไตล์ฝรั่งเศสและรัสเซีย สองประเทศที่ว่าจะมีความโดดเด่นแตกต่างจากการบริการแบบทั่วไปที่เรารู้จักอย่างไร ตามไปรู้จักกันได้เลย
การบริการแบบฝรั่งเศส (French style) ด้วยความที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องรสนิยมในการรับประทานอาหารและบริการ การบริการแบบฝรั่งเศสจึงได้รับการรอมรับและเป็นที่นิยมมากที่สุด การเสิร์ฟอาหารแบบฝรั่งเศสนั้น มุ่งที่อำนวยความสะดวกและพยายามสร้างความพอใจแก่ผู้เป็นแขกมาก โดยหากเป็นการเสิร์ฟตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป จะต้องเตรียมโต๊ะพักอาหาร (sideboard) ไว้ต่างหาก ก่อนเสิร์ฟ ผู้เสิร์ฟจะต้องทราบว่า ท่านใดจะต้อง เสิร์ฟก่อน และหลัง ซึ่งโดยทั่วไปจะเริ่มที่สุภาพสตรี หลักในการเสิร์ฟคือ เข้าเสิร์ฟทางด้านซ้าย ถือจานเสิร์ฟ ด้วยมือซ้าย โดยส่งจานเสิร์ฟให้แขกตักด้วยตนเอง ภายในจานเสิร์ฟ นอกจากอาหาร ยังต้องมีช้อนและส้อมสำหรับตัก อาหาร หากเป็นการเสิร์ฟที่ไม่เป็นทางการมากนัก เมื่อเสิร์ฟคนแรกเรียบร้อยแล้ว จะเสิร์ฟคนที่นั่งถัดไป ทางด้านขวาของคนแรก วนไปทางขวาไปเรื่อยๆ จนหมดโต๊ะ (ทวนเข็มนาฬิกา) ในกรณีงานเลี้ยงที่เป็น ทางการ (formal banquet) จะเสิร์ฟเรียงลำดับตามตำแหน่งทางสังคมของแขกผู้มาร่วมงานหรือขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าภาพ
การบริการแบบรัสเซียน (Russian style) เป็นการเสิร์ฟที่มีการโชว์อาหาร กล่าวคือ ต้องนำอาหารมาทั้งชิ้นใหญ่ๆ หรือ ทั้งตัว เช่น ปลา หรือนก ออกมาให้ผู้รับประทานดูเสียก่อน แล้วจึงหั่นและตกแต่งให้สวยงามเป็นพิเศษ ก่อนตักแจกแขกทุกๆ คน ผู้เสิร์ฟต้องมีทักษะในเชิงงานครัว เช่น การหั่น การแล่เนื้อ ให้ออกมาสวยงามน่ารับประทาน ลักษณะในการเสิร์ฟคือ ผู้ให้บริการนำอาหารมาแสดงให้แขกได้ชมทางด้านขวา จากนั้นจึงนำอาหารกลับมาที่รถเตรียมการเสิร์ฟ (sideboard or trolley) เพื่อตัดและตกแต่งอาหาร ก่อนเข้าเสิร์ฟอีกครั้งทางด้านขวา
แม้ว่าการให้บริการทั้ง 4 แบบ จะมีจุดเด่นและรายละเอียดแตกต่างกันออกไปตามจริตความชอบและความนิยมของชนชาตินั้นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสี่การให้บริการมีไม่ต่างกันคือความใส่ใจในการบริการที่ต้องการให้ผู้รับประทานอาหารได้รับความสะดวกสบายไปพร้อมๆ กับมื้ออาหารชั้นเลิศและบรรยากาศชั้นยอด คราวหน้าหากท่านมีโอกาสไปรับประทานอาหารในร้านหรูระดับ fine dining ก็อย่าลืมลองสังเกตดูว่า ร้านเหลานั้นเลือกใช้วิธีการบริการแบบใด