Water Library Chamchuri ร้านอาหาร Fine Dining ชื่อดังและเป็น Flagship ของอาณาจักร Water Library ที่ในปัจจุบันเปิดสาขาในรูปแบบใหม่ๆและขยายแบรนด์ออกไปอีกหลายร้าน แต่มีเพียงร้านนี้ร้านเดียวที่คงความเป็น Fine Dining แบบเต็มรูปแบบไว้ได้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การดูแลของ Chef Mirco Keller ผู้จัดการทั่วไปและเชฟหนุ่มไฟแรงที่สั่งสมประสบการณ์จนสร้างสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารชั้นสูงที่ละเอียดละออหาตัวจับยาก Great Gastro ได้มีโอกาสไปเยือนร้านอาหารแห่งนี้อย่างเป็นทางการมาแล้วถึง 3 ครั้ง และครั้งนี้เรากลับไปอีกครั้งแบบ Exclusive ที่สุด กับเมนูอาหารใหม่ อันมาพร้อมแรงบรรดาลใจที่ก้าวข้ามขอบเขตของชนชาติและประเภทอาหาร เป็นการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนของอาหารตะวันตกและตะวันออก ทั้งในแง่ของรสชาติและรูปลักษณ์

Water Library - Q1 201651

Chef Mirco ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เขาต้องการให้อาหารของเขาสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นจึงสร้างสรรค์เมนูในรูปแบบของ A La Carte ซึ่งเป็นรูปแบบที่คนไทยคุ้นเคย อีกทั้งยังต้องการสร้างความแตกต่างให้กับมุมมองที่มีต่อ Fine Dining โดยนำเอาประสบการณ์จากการใช้ชีวิตในแถบเอเชียกว่า 10 ปี มาเป็นแรงบรรดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูอาหารชุดใหม่ที่รับรองว่าถูกปากคนไทยแน่นอน จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตาม Great Gastro ไปสัมผัสกันเลย (คราวนี้พิเศษเราจะเจาะลึกรายละเอียดการบริการแบบ Fine Dining ให้ชมกันด้วยนะ)

Water Library - Q1 201653

อุปกรณ์พร้อม Table Set Up มาแบบเรียบหรู มีด ส้อม จานขนมปัง แก้วน้ำ จัดวางไว้ชุดเดียว ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ผิด เพราะพนักงานจะคอยเปลี่ยนเครื่องใช้ตามอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเอง มาทานอาหารที่ Water Library Chamchuri ง่ายๆสบายๆ ไม่ต้องเกรง ไม่ต้องคิดอะไรมาก เตรียมลิ้มรสอาหารชั้นยอดเท่านั้นเป็นพอ ว่าแล้วก็จัดแจงปูผ้ากันเปื้อนไว้ที่ตัก (เป็นมารยาทที่สำคัญข้อนึงเลยนะในการไปทานร้านแบบ Fine Dining คือสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อนั่งที่โต้ะคือจัดการเอาแนบกิ้นไปวางที่ตักอย่างสวยงาม บางคนยังติดนั่งคุยก่อนรอจนอาหารมาค่อยคลี่ผ้า สังเกตุได้เลย ถ้าเราไม่คลี่เองพนักงานจะเดินมาจัดการให้)

Water Library - Q1 201609

ต่อด้วยผ้าเช็ดมือที่เสิร์ฟมาเป็นก้อนขาวๆ ในจานเล็กๆ (อย่าเผลอจับเข้าปากเหมือน Mr.Bean หล่ะ) จากนั้นพนักงานจะหยดน้ำลงไปให้ตัวผ้าฟูขึ้นมา กลายเป็นผ้าเย็นสำหรับเช็ดทำความสะอาดมือ ในเมืองไทยมีใช้อยู่ไม่กี่ร้านเองนะแบบนี้ ตามด้วยเมนูอาหาร ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละมื้อสำหรับมื้อค่ำที่เราไปรับประทานกันในวันนี้จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ Set Menu ที่เลือกได้ระหว่าง Seasonal Tasting Menu  เป็นเซตเมนูที่จะเปลี่ยนทุกๆ 3 – 6 เดือน และ Classic Tasting Menu ที่เป็นเซตเมนูถาวรมีให้ทานตลอดปี ราคาทั้ง 2 เซตอยู่ที่ 4-course 2,190++ บาท เพิ่ม Wine Pairing ที่ 990++ บาท

Water Library - Q1 201654

อีกส่วนหนึ่งเป็น A La Carte Menu ที่มีชื่อเมนูและรายละเอียดของแต่ละเมนูให้เลือกแบบง่ายๆ แบ่งเป็น Section ย่อยๆ ได้แก่ Cold Starter / Warm Starter / Main Course from the Sea / Main Course from the Land และ Sweet Finale ราคาอาหารเริ่มตั้งแต่ 290++ ไปจนถึง 1,590++ บาท เท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ได้แพงเลยสำหรับอาหารระดับ Fine Dining แบบนี้ ถ้าหากไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรทาน ก็สามารถสอบถามพนักงานให้ช่วยเลือกให้ได้

Wine

ในระหว่างที่เราเลือกอาหาร พนักงานจะขอรับรายการเครื่องดื่มก่อน ตามชื่อ Water Library (ห้องสมุดของน้ำ) ที่นี่จึงมีน้ำแร่ให้เลือกกว่า 30 Brand มี Exclusive Brand ที่เสิร์ฟเฉพาะที่นี่ถึง 10 ตัว ในส่วนของไวน์ก็ไม่น้อยหน้า เพราะมี Wine List ที่มากถึง 19 หน้า มีไวน์ให้เลือกเกือบ 400 Labels ซึ่งรวมถึงไวน์ 25 ตัวที่ได้รับการยกย่องให้เป็นไวน์ที่ดีที่สุดในอเมริกาด้วย (กระซิบว่าไวน์ที่นี่ราคาดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ)

 Water Library - Q1 201628

เมื่อสั่งอาหารกันเรียบร้อยระหว่างรอจานแรกน้องพนักงานก็จะนำ Cashew Nuts ผัดกับเครื่องเทศมาให้ทานเล่นกันก่อน นี่เป็นบริการใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามา เป็นไอเดียร์ของ Chef Mirco เอง พร้อมกับน้ำแร่ที่เราเลือกไปซึ่งมีทั้งแบบอุณภูมิห้องและแบบแช่เย็นแล้วแต่ความชอบ ใครที่สั่งสปาร์คกิ้งไปก็จะมีเลมอนฝานใส่ไปในแก้วให้ด้วย

Water Library - Q1 201626

Water Library - Q1 201623

ต่อด้วยขนมปังที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและรสชาติสุดๆ มีครัวซองที่สั่งแป้งบินตรงมาจากฝรั่งเศสโดยเฉพาะ กรอบนอกนุ่มใน หอมมันเนยอยู่ในตัว เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าแทบทุกคน อีกตัวเป็นขนมปังสูตรพิเศษที่เสิร์ฟมาในกล่องไม้ที่บรรจุหินร้อนไว้เพื่อให้ขนมปังยังอุ่นอยู่เมื่อนำมาเสิร์ฟ ตัวขนมปังมีผิวแข็งๆแต่เมื่อบิเข้าไปด้านในจะพบกับเนื้อนุ่มแน่นนวลเนียนรสออกหวานเล็กน้อยอยู่ภายใน ผมชอบตัวนี้ยิ่งกว่าครัวซองเสียอีก ยิ่งทาเนยกระเทียมที่เสิร์ฟมาคู่กันยิ่งช่วยเสริมรสชาติให้น่าหลงไหลขึ้นไปอีก

Water Library - Q1 201630

ก่อนอาหารจานแรก พนักงานก็นำ Amuse-bouche หรืออาหารเรียกน้ำย่อยมาเสิร์ฟตามธรรมเนียม Fine Dining ซึ่งเป็น Com ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่เชฟจะสร้างสรรค์ โดยในวันนี้เป็นขนมปังพัฟเนื้อฟูๆคล้ายๆแป้งโดนัทแต่แน่นกว่าราดมาด้วยมะเขือเทศเขียวและแดงสับละเอียดกับซอสมายองเนสวาซาบิรสอ่อนๆไม่ฉุนจนขึ้นจมูก ขนาดพอดีคำ เป็นตัวเรียกน้ำย่อยที่มีเนื้อมีหนังมากกว่าปกติที่เคยทานกันเลยทีเดียว ต่อไปเป็นส่วนของอาหารซึ่งวันนี้เราจัดเต็มเมนูเด็ดมาให้ มีทั้งเมนูที่อยู่ในเมนูแบบเซต และ A La Carte

 Water Library - Q1 201638

Foie gras, khao tom, lemon, peanut

เริ่มกันกับเมนูที่ Chef Mirko ภูมิใจเสนอมาก เพราะเขานำเอาอาหารที่ชื่อชอบและหาทานได้ง่ายๆอย่างข้าวต้ม (ซึ่งผมเรียกว่าโจ้กไปเลยเพราะเนื้อละเอียดมากกว่าจะเป็นข้าวต้มแล้ว) ที่ทำเป็นน้ำซอสเนื้อเนียนรสกลมกล่อมชนิดที่สู้กับร้านโจ้กร้านดังได้สบายๆใส่ลงไปในจานก้นลึก ตามด้วยฟัวกราบดละเอียดปรุงรสออกเค็มมันในแบบของ Chef Mirco ปั้นเป็นแท่งยาวๆคลุกกับถัวคั่วบด แล้วเพิ่มรสชาติด้วยซอสครีมรสเปรี้ยวที่มีส่วนผสมของมะนาว กลายเป็นเมนูฟัวกราหน้าตาแปลกที่ยังคงรสและกลิ่นของฟัวกราไว้ได้อย่างครบถ้วน

 Water Library - Q1 201639

Seared Canadian scallop, béchamel, green pea, ikura

Starter จานที่สองเป็นหอยเชลล์ตัวโตนำเข้าจากแคนาดา นำไปทอดบนกระทะร้อนจนผัวหน้าเป็นสีเหลืองผ่าครึ่งแล้วใส่ลงไปในซอส béchamel ซึ่งเป็นไวท์ซอสที่เป็นเบสของการทำซอสสีขาวในฝรั่งเศสรสเปรี้ยวหวานมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เพิ่มรสสัมผัสด้วยราวิโอรีใส้ปูเนื้อแน่นๆ ตกแต่งเพิ่มสีสันด้วยเมล็ดถั่วเขียวและไข่ปลาแซลมอน เป็นอีกหนึ่งเมนู Starter ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาผสมผสานกันได้อย่างยอดเยี่ยม

 Water Library - Q1 201647

White prawn, lettuce, sauce remoulade

กุ้งสดๆเนื้อแน่นชุปแป้งทอดเสิร์ฟมาบนซอสที่ทำจากผักกาดและซอส remoulade ที่มีรสคล้ายๆกับมายองเนส เพิ่มรสชาติด้วยมะละกอสุกสีแดงสดที่ตอนแรกนึกว่ามะเขือเทศ เป็นจานที่ดูเหมือนจะคล้ายๆกับกุ้งซอสมายองเนสในร้านอาหารจีน แต่ได้รสชาติแบบตะวันตกอ่อนจากผักกาดหอม และเสริมรสหวานจัดแบบผลไม้จากมะละกอ

Water Library - Q1 201653

Lobster bisque

ซุปลอปสเตอร์ หรือ ลอปสเตอร์บิส เนื้อเนียนรสจัดจ้านเพราะใส่พริกสับลงไปด้วย เป็นเมนูซุปที่กลายไปทางต้มยำน้ำข้นแบบไทยๆมากกว่าซุปแบบตะวันตกเสียด้วยซ้ำ รับรองว่าถูกปากคนไทย และแฟนๆลอปสเตอร์แน่นอน แนะนำเลย

Water Library - Q1 201660

Pomfret, spinach, soy, brown butter

เนื้อปลาจะระเม็ดชิ้นโตนึ่งจนสุกทั่วกันทั้งชิ้น เสิร์ฟคู่กับผักโขมราดด้วยซอสซีอิ้วและน้ำมันหอยสไตล์อาหารจีนเพิ่มความหอมหวานมันด้วยเนยสีน้ำตาล ซึ่งโดยปกติมักจะพบเป็นส่วนผสมในการทำขนม เป็นเมนูอาหารที่ออกไปทางอาหารจีนมากกว่า เป็นเมนูปลาที่เหนือความคาดหมายและไม่คิดว่าจะพบในร้านอาหารที่ดูมีความเป็นตะวันตกสูงอย่าง Water Library Chamchuri

Water Library - Q1 201663

Pigeon, pepper, mango, eggplant

เนื้อนกพิราบอบจนหนังกรอบเนื้อนุ่ม มากับซอสที่ทำจากมะเขือและพริกไทย เพิ่มรสชาติด้วยมะม่วงสับและพริกหวาน มีเผือกปั้นเป้นก้อนกลมๆทอดใส่มาเป็นเครื่องเคียง รสของซอสค่อนข้างเค้มข้นและเข้ากันได้ดีกับนกพิราบที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยมีมะม่วงช่วยตัดเลี่ยน

Water Library - Q1 201676

Wagyu beef tenderloin, daikon, mustard, dashi

เนื้อวากิวชั้นยอด ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของ Chef Mirco รสเค็มๆมันๆ เพิ่มซอสมัสตาร์ดทำเป็นลายละเอียดอ่อนสวยงามเสริมรสให้เข้มข้น ตกแต่งด้วยยอดผักชิ้นเล็กๆ เมนูนี้ได้รับแรงบรรดาลใจจากสวนสวยในญี่ปุ่นที่ Chef ชื่นชอบ เป็นเมนู Main Course ที่สวยทั้งรูปและรส

Water Library - Q1 201679

 Filo pastry, coconut, blood orange, raspberry

เมนูของหวานจานแรก จัดมาอย่างสวยงามประกอบด้วยส่วนประกอบเล็กๆน้อยหลายส่วนที่เชฟแนะนำให้รับประทานร่วมกันเผื่อให้ได้รสที่เขาตั้งใจนำเสนอ โดดเด่นด้วยราสเบอรี่รสเปรี้ยวที่ทำเป็นพุดดิ้งเบรกด้วยไอศครีมมะพร้าวและเปรี้ยวเล็กน้อยจาก Blood Orange เพิ่มความกรุบกรอบด้วยช็อคโกแลตป่นที่ราดมาบนตัวพุดดิ้ง

 Water Library - Q1 201684

Satin Blanc white chocolate, sesame, kumquat, rice crispy

เป็นของหวานที่รสชาติแปลกและถือเป็นรสชาติใหม่ที่ Chef Mirco ภูมิใจนำเสนอ ตรงกลางเป็นเหมือนน้ำแข็งใสอัดเป็นแท่งรสมิ้นสดชื่นหวานอ่อนๆ ซอสด้านล่างมีส่วนผสมของงาและส้มจีดให้รสเปรี้ยวเล็กน้อย ตกแต่งด้วยช็อคโกแลตขาวและป้อปคอร์นเครือบคาราเมวรสเด็ด เป้นเมนูของหวานที่ให้สัมผัสหลากหลาย รสหวานกลมกล่อม รับประทานได้อย่างสนุกสนาน

Water Library - Q1 201688

Gianduja, pineapple, coconut, honey

เป็นเมนูของหวานที่ได้รสชาติความเป็นเอเชียอย่างไม่น่าเชื่อ มีเชอเบตที่ทำจากสัปปะรดเป็นตัวนำและราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้น เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ่งทำเป็นซอสข้นๆและช็อคโปแลตผง หน้าตาดูสมัยใหม่แต่รสชาติได้กลิ่นอายขนมไทยโบราณที่สุด

Water Library - Q1 201612

Chef Mirco ยังมีเมนูอาหารที่วิจิตรบรรจงและสร้างสรรค์สุดๆรอให้คุณไปพิสูจน์รสชาติกันเอง ณ Water Library Chamchuri Square ร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำของเมืองไทย ที่เข้าถึงได้ง่าย และ ราคาสมเหตุสมผลกับ คุณภาพของอาหารและการบริการที่ได้รับ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ Great Gastro ขอแนะนำให้ชาวกรุงเทพต้องไปสัมผัสความเป็นที่สุดดูเองสักครั้ง

Gallery

 [supsystic-slider id=170 position=”center”]


 Water Library Chamchuri Square

ชั้น 2 Chamchuri Square ฝั่ง Office

เปิดให้บริการทุกวัน

มื้อกลางวัน เวลา 11:30 – 14:00 น.

มื้อค่ำ เวลา 18:00 – 22:00 น. (Last Order 21:30 น.)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต้ะกับ Great Gastro

โทร : 02 254 9005 / LINE@ : @greatgastro

(บริการให้คำปรึกษา FREE ไม่มีค่าใช้จ่าย)

MAP


Reserve Now





Mr.Ms.Mrs.