ไม่ว่าสเต็กจะเป็นเมนูโปรดของท่านหรือไม่ก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าสเต็กถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารยอดนิยมของโลก ไม่ว่าจะเป็นเทนเดอร์ลอยน์ เซอร์ลอยน์ หรือริบอาย ในกรุงเทพเองก็มีสเต็กเฮ้าส์ให้ท่านได้เลือกลิ้มลองอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่หนึ่งในสเต็กเฮ้าส์ชั้นยอดที่เปิดให้บริการมายาวนานและเป็นที่นิยมมาโดยตลอด ต้องมีชื่อของ Rib Room & Bar Steakhouse (RR&B) อยู่ในอันดับต้นๆแน่นอน
ห้องอาหาร Rib Room & Bar Steakhouse ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 31 ของโรงแรม The Landmark Hotel Bangkok บริเวณทางเข้าร้าน ท่านจะพบกับบาร์เลานจ์ที่ตกแต่งด้วยสีแดงฉูดฉาดตัดกับชุดโซฟาที่นั่งสีเข้ม ที่มีทั้งไวน์ชั้นเลิศ รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ มากมายไว้ให้บริการ


ถัดมาด้านในร้านส่วนของห้องรับประทานอาหารหลักสามารถรองรับแขกได้ถึง 70 ท่าน โดดเด่นไปด้วยการตกแต่งโดยใช้โทนสีแดง ดำ และคอปเปอร์ เพิ่มความรู้สึกสนุกสนานเร้าใจให้กับตัวร้าน อีกทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูดและมีสไตล์เฉพาะ ซึ่งทำให้ทุกๆมื้ออาหารน่าเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น หน้าต่างกระจกบานใหญ่โดยรอบเผยให้เห็นวิวทิศทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานครจากใจกลางย่านสุขุมวิท ที่แวดล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าและแสงไฟจากรถราที่แล่นผ่านไปบนถนนหนทางด้านล่างที่สร้างความตื่นเต้นได้ทุกครั้ง


ไฮไลต์ของห้องอาหารอยู่ที่ครัวเปิดที่มีความทันสมัยและดูสะอาดสะอ้าน ประกอบไปด้วยเตาอบฟืนไม้ขนาดใหญ่ และเตาอบไฟฟ้าอเนกประสงค์ ซึ่งแขกทุกท่านสามารถพูดคุยซักถามกับทีมเชฟที่กำลังยืนปรุงอาหารอยู่ได้ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สมบูรณ์แบบ ด้านหลังครัวยังมีห้องรับประทานอาหารส่วนตัวที่สามารถมองเห็นบริเวณครัวได้มั้งหมด ซึ่งมีโต๊ะกลมตัวใหญ่ตั้งอยู่และสามารถรองรับแขกได้มากถึง 10 ท่าน


ห้องอาหาร Rib Room & Bar Steakhouse ได้เชฟ Philippe Gaudal เชฟมือหนึ่งของโรงแรมมาเป็นผู้ควบคุมดูแลเมนูอาหารทั้งหมด เชฟ Philippe ได้นำเมนูคลาสสิคต่าง ๆ มานำเสนอในสไตล์ที่ร่วมสมัยมากขึ้น จนออกมาเป็นเมนูที่น่าสนใจรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย พร้อมด้วยรสชาติที่แม้แต่กูรูด้านอาหารเองก็ต่างยอมรับ เชฟ Philippe เริ่มต้นอาชีพพ่อครัวและฝึกฝนการทำอาหารมาตั้งแต่อายุได้เพียง 15 ปี จากความหลงไหลในรสชาติและศาสตร์การทำอาหาร จากนั้นเขาได้มีโอกาสไปฝึกฝนฝีมือมือการทำอาหารในห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก จนกระทั่งเขาได้เดินทางตามสายอาชีพเชฟมายืน ณ จุด ๆ นี้กับตำแห่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ของโรงแรมชั้นนำใจกลางกรุงเทพอย่าง The Landmark Bangkok


“ทั้งอาหารและโต๊ะอาหาร ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการรวบรวมผู้คนให้มาอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”
เชฟ Philippe กล่าว


Culinary Treasures and Delights
มื้อค่ำสุดพิเศษที่ RR&B เริ่มด้วยขนมปังอบใหม่ที่เสิร์ฟมาด้วยกันถึง 3 แบบ ทั้ง whole grain, cranberry และ purple bread พร้อมทั้งเนยชนิดเค็มและไม่เค็ม ตามด้วยเมนู amuse bouche ที่เสิร์ฟมาเป็นเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ก่อนอาหารจานหลัก ทำจากเนื้อแซลมอนรมควัน ซาวร์ครีม ซอสส้ม และขนมปังกรอบสีดำ
Classic RR&B Caesar Salad
เมนูคลาสสิคสุดแสนประทับใจอย่าง ซีซาร์สลัด นั้น ถูกนำมาปรุงสดข้างโต๊ะอาหารโดยพนักงานของทางห้องอาหาร ผักกาดโรเมนกรอบถูกคลุกเคล้าไปด้วยซอสรสเด็ดที่ทำจากส่วนผสมหลักอย่างแอนโชวี่ มะนาว และกระเทียม ก่อนจะโรยด้วยพาร์เมซานชีส รวมไปถึงครูตองซ์และเบคอน เพิ่มความกรุบกรอบ
Pan-fried Foie Gras
เมนู pan-fried foie gras ของที่นี่ ดึงดูดแขกทุกท่านให้มาลิ้มลองด้วยรสชาติหอมมัน เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ละลายในปาก เสิร์ฟมาอย่างดีกับถั่วเคนย่า หอมแดง และเห็ดแชมปิยอง ตามด้วยส้ม kumquat และ ซอส bigarade ที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยตัดเลี่ยนได้ดี
Seared US Sea Scallop
หอยเชลล์เนื้อหวาน ชิ้นโต อิมพอร์ตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกนำไปย่างจนสุกได้ที่ เผยให้เห็นผิวสีน้ำตาลสวยด้านนอก แต่เนื้อด้านในยังคงความนุ่ม ละมุนละไม เสิร์ฟมากับซอสครีมที่มีส่วนผสมของถั่วพิสตาชิโอและถั่วลันเตา แล้วจึงตกแต่งด้วย pea tendrils และดอกอัญชัน
Maine Lobster Thermidor
เมนู Maine lobster thermidor นั้นงดงามทั้งในเรื่องของรสชาติ และการนำเสนอ ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของเนื้อล็อบสเตอร์ ผักโขม และเห็ด ที่ผ่านปรุงอย่างพิถิพิถันจนได้รสชาติที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะนำมายัดใส่ในเปลือกล็อบเตอร์สีสันสดใส แล้วเสิร์ฟด้วย Dijon mustard gratin ด้านบน เพิ่มรสชาติ และกลิ่นหอมของควันให้กับเมนูนี้
Steak Diane
หนึ่งในเมนูแนะนำสุดคลาสสิคของห้องอาหาร RR&B ก็คือ Steak Diane ซึ่งได้เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ชิ้นหนานำไปย่างไฟจนสุกกำลังดี ตัวเนื้อนุ่ม ละมุนลิ้น พร้อมกับรสชาติของเนื้อที่เด่นชัดและเป็นเอกลักษณ์ ราดมาด้วยซอสเห็ดรสชาติดี ที่เฟลมเบ้ด้วยเหล้าส้ม Grand Marnier ข้างโต๊ะของท่าน
Black Onyx Australian Tomahawk Rib
เมนูไฮไลต์ของที่นี่ ได้แก่ เนื้อสเต็กโทมาฮอกน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ที่ทำจากวัวออสเตรเลียที่เลี้ยงด้วยธีญพืชเป็นเวลากว่า 270 วัน จนได้เนื้อวัวที่นุ่ม ชุ่มฉ่ำโดยธรรมชาติ ซึ่งเมื่อปรุงจนสุกจะได้ทั้งรสชาติและกลิ่นหอมของเนื้อเต็ม ๆ เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงหลากชนิด ทั้ง potato gratin, sautéed potatoes, sautéed mushrooms และ beef jus รวมไปถึงมัสตาร์ดซอสที่มีให้เลือกถึงสี่อย่างด้วยกัน ได้แก่ horseradish, Dijon, English, และ grainy


Heavenly Sweet Treats
ปิดท้ายมื้อค่ำสุดแสนประทับใจนี้ด้วย The “Grand Marnier” Crème Brulee เครมบรูเล่เนื้อละมุน แต่งกลิ่นด้วยเหล้าส้ม และเพิ่มกลิ่นหอมของน้ำตาลไหม้ด้วย caramelized sugar ด้านบน เสิร์ฟคู่กับผลไม้และเบอร์รี่สดเพิ่มความสดชื่น หรือจะลองเมนูยอดนิยมอย่าง Chocolate Fondue ที่มาพร้อมกับหม้อช็อคโกแลตรสเข้มข้น และไอเทมสำหรับการดิป อย่าง yuzu marshmallow, amaretti cookies และผลไม้นานาชนิด เป็นอีกเมนูของหวานที่คุ้มค่าแก่การเก็บท้องไว้ลอง


สำหรับเมนูเครื่องดื่ม แนะนำค็อกเทลที่สร้างความสดชื่นและสนุกสนานภายในแก้ว อย่าง Ketel One Dragon’s Eyes เครื่องดื่มเด่นประจำห้องอาหาร ซึ่งได้นำวอดก้า Ketel One และ Absolute Raspberry ไปผสมกับน้ำแก้วมังกรสด sour mix และ grenadine syrup ซึ่งมาช่วยเพิ่มความเปรี้ยวหวานให้กับเครื่องดื่มที่ค่อนข้างสตรองแก้วนี้
ด้วยเนื้อคุณภาพสูงที่มีให้เลือกมากมาย ปรุงโดยเชฟมากประการณ์อย่างเชฟ Philippe Gaudal และทีมของเขา ประกอบกับทัศนียภาพยามค่ำคืนอันสวยงาม สุดแสนโรแมนติก ภายในบริเวณร้านที่ตกแต่งในบรรยากาศร่วมสมัย และคุณภาพการบริการชั้นเลิศ ห้องอาหาร Rib Room & Bar Steakhouse แห่งโรงแรม The Landmark Bangkok จึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่คนรักสเต็กทุกท่าน ต้องหาโอกาสแวะเวียนไปลิ้มลองอยู่บ่อยครั้ง
Rib Room & Bar Steakhouse
The Landmark Bangkok
Daily from 17:30 – 01:00 hrs.
Direct contact call 02 254 0404